ราตรีนี้มาสารภาพรักค่ะ ไม่ได้มาสารภาพว่ารักใคร ที่เป็นคนเป็นๆที่มีเลือดเนื้อดอกนะคะ หากมาสารภาพว่าหลงรักธรรมชาติ ทุกสรรพสิ่งเลยค่ะ เหมือนในหน้าส่วนตัวที่เคยบอกไว้ว่า *รักธรรม ธรรมชาติ สายธาร หวานดอกไม้ รักสายฝน รักแสงตะเกียง รักเสียงจากธรรมชาติไพร รักกระท่อมใบไม้ รักดวงใจนิ่มนวลละเมียดละมุน รักแสงเทียนอบอุ่นในยามค่ำ รักตะวันตกดิน รักทุกสิ่งที่เงียบงามร้างไร้ให้ชีวีงามเงียบ รักเส้นทางสายธรรมชาติสู่ไพรลึก รักดำดิ่งล้ำลึกจิตวิญญาณไพร ภาวนาทุกชาติไป ให้ได้เกิดมากับงามดวงใจใครเล่ารู้นี้ ที่ติดดิน และขอรักศรัทธาเทิดทูนมิรู้สิ้น ในชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ไทย ตราบสิ้นลม!* และ.. อีกธรรมชาติที่รักคือรักทะเลสาบ ตั้งแต่เด็กแล้ว รักฝังใจเลย ทำไมนะเหรอ ทั้งๆที่เป็นลูกทะเล เห็นแต่น้ำจรดฟ้า น้ำทะเลเค็มปิ๊ดปี๋ ที่ดำลงไปทีไรแทบสำลักแสบหูแสบตาไปหมด อาจจะมีเหตุบันดาลใจ จากร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน ที่เคยไปเห็นภาพปฏิทิน ภาพทะเลสาบแถวประเทศทางยุโรป ที่เจ้าของร้านชาวญวนใส่กรอบแขวนไว้ เป็นภาพงดงามแสนสุขสงบ เห็นภาพวิถีชีวิตผู้คนที่อาศัยในทุ่งหญ้า ที่เป็นเนินเขาลดหลั่น ในกระท่อมปีกไม้ หรือไม่ก็กระท่อมหิน ชอบนั่งนิ่งดูนานๆ ทำให้รู้สึกดื่มด่ำ และประทับอยู่ในความทรงจำ ที่อยากมีชีวิต ใช้ชีวิตในท่ามกลางสิ่งที่รายล้อมที่ดู แสนเป็นธรรมชาติธรรมดาชีวิต ไม่มีแสงสีศิวิไลซ์ ไม่มีการปรุงแต่ง มาวันนี้ ฟ้าดินดลบันดาลให้ได้พบกับใครบางคน ที่มีที่ดินผืนงามใกล้ทะเลสาบแก่งกระจาน ที่เคยรจนา เล่าให้ฟังมาแล้วจากเรื่องราวมากมาย ถึงความงามเงียบ เรียบง่ายของชุมชนชาวบ้าน และ.. ที่ดินที่นั่นก็เป็นเนินที่มีเทือกภูซ้อนสลับสล้าง โอบรอบด้านอย่างไม่ให้อ้างว้างเหว่ว้าใจ ในยามเย็น.. ดวงสุริยาจักทิ้งแสงสวยยามลับฟ้าหลังเทือกเขา และจะมองเห็นรัศมีพรายพราวสวยราวภาพวาด จากฝีมือจิตรกรเอกที่ทิ้งสีทีแปรงไว้ให้ใหลหลง ยามราตรี... จะมีดาวดวงนับแสนสุกปลั่งจนดูราวเป็นทะเลดาว วิมานดาวราย ดาราราย เห็นกระทั่งทางช้างเผือก และ.. ก็เคยรจนาไว้ในงานหมดแล้ว ใครอยากทราบว่างามอย่างไร ก็ลองคลิ๊กไปอ่านงานหน้าหลังๆดูนะคะ ยังจำได้ว่า วันแรกที่ขับรถเข้าไปนั้นจะมีงูใหญ่มาแผ่แม่เบี้ยชูคอ กลางถนน ต้อนรับ จึงได้ไปหลั่งน้ำอธิษฐานจิตในแก่งกระจาน ว่าจะกลับมาพัฒนาที่ดินผืนงามด้วยความรัก... ราวกับเราเคยผูกพันกันมาแต่ชาติปางก่อน อาจจะเคยเป็นเจ้าของ ได้ครอบครองอาณาจักรแห่งรักเรากับผืนแผ่นดินผืนนี้ ที่แสนมีมนตรา เสียเหลือเกิน.. และนี่คือ.. ความรัก...ความในใจ.. เพียงเสี้ยวหนึ่งนิดน้อยกับคืนค่ำนี้ ที่กำลังฟังบทเพลงสายน้ำรักนิรันดร์บรรเลง เพื่อ.. กระซิบบอกทุกดวงใจว่า ชรอย...ด้วยเพรงบุญบุพเพ จึ่งได้ชักพาเราสองให้ได้มาพบกัน เพื่อ... สร้างสรรทำคุณงามความดี พลีแด่พสุธาทองพสุธาไทนี้ ที่เราแสนรักแลเทิดทูน..! .............................................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song774.html สี่แผ่นดิน คนมี ชีวิตและกายา ถือ กำเนิดเกิดมา เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน เป็นแดน ที่ให้ชีวา พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
13 กุมภาพันธ์ 2551 00:28 น. - comment id 822830
ผมเคยไปเที่ยวแก่งกระจาน และมีประสบการณ์ท่องเที่ยวไปทั่วถิ่นดินแดนที่แสนสงบงาม ทะเลสาบที่สวยที่สุด มีเกาะแก่งกลางทะเลสาบที่ทำให้งดงามดุจภาพวาด มีฉากหลังเป็นเทือกเขาสูงตระหง่าน สลับซับซ้อน เป็นที่รองรับยามตะวันตกดินที่สลับสีสลับแสงกระทบพื้นทะเลสาบงามดั่งภาพวาดวิมานสวรรค์ก็มิปาน ท่องเที่ยวไปรอบๆ เป็นพื้นที่หุบเขาสูงต่ำสลับ ให้ความรู้สึกเหมือนชมภาพของสวิสเซอร์แลนด์ ล่องทะเลสาบขึ้นไปชมต้นน้ำ ที่ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติภูเขาสลับสายน้ำกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บ้านของคนท้องถิ่นที่ปลูกตามวัฒนธรรมไทยและกะเหรื่ยงที่ดูเรียบง่าย นึกถึงความเป็นชีวิตที่จริงแท้ที่ไม่ต้องแต่งเติมสีสัน ไปไหนจะพบแต่รอยยิ้มของคนท้องถิ่นที่เห็นน้ำใสใจจริง ที่ทำให้ผมชื่นฉ่ำใจ ใครยังไม่ได้ไปเที่ยว ควรหาเวลาไปชื่นชมสักครั้ง เพียงเดินทางจาก กทม.ไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้น จะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ใจกว่าที่ใดในเมืองไทย งานเขียนของคุณ พุดพัดชา ไม่เคยไกลห่างจากฑรรมชาติที่งดงามเลย และที่สำคัญ เป็นงานเขียนที่มาจากเนื้อแท้ที่หาไม่ได้ในยุคปัจจุบัน ขอคารวะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 00:36 น. - comment id 822832
แด่คุณทวารวดี ...ด้วยรัก บ้านไร่แสนรัก..ในอ้อมโอบ..แห่งขุนเขา..ในเงาฝนเงาฝัน..ทุ่งทานตะวันบาน...! ฟ้าใกล้สางแล้ว... ปริมนอนนิ่งนิ่งดูดาวพระศุกร์แสนสุกใส ที่กำลังส่องแสงสว่างอยู่ในท่ามฟ้ามืด ลมเย็นๆพัดพราย ผ่านม่านหน้าต่างต้นไม้ลายธรรมชาติ ลายลั่นทม ลายชมพูพันธ์ทิพย์ ลายปีบนิรมิต เข้ามาอย่างบางเบา ม่านหน้าต่าง ที่ปริมคิดว่าคงมีลวดลายแสนงามที่สุดในโลก ด้วยเป็นฝีมือพรรณพฤกษ์ไพร ที่ขึ้นพ้ออรชรอ้อนคลอเคลีย ถักทอด้วยดวงดอกสลับสีสันสล้าง ให้งดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในท่ามโลกนี้... ที่นับวันจะแล้งไร้ร้อนทุรน จนในวันหนึ่งอาจจะมีคนตายจากภาวะเรือนกระจก ที่น่าวิตกกังวล หากมวลมนุษยชาติทุกคน ทุกชาติภาษาต่างมิยอมพากันสำนึก ปริม..นอนนิ่งนึก หนาวใจเมื่ออ่านพบบทความ ในเรื่องผลกระทบ จากภาวะโลกร้อนว่า... ไม่นานช้า โลกเรานี้หนาจักพบกับภาวะวิกฤต และเราจะสูญเสียระบบนิเวศน์วิทยา พืชและสัตว์ จะพากันสูญพันธุ์ เกิดพายุ น้ำท่วมรุนแรง และจะก่อเกิดปรากฎการณ์ฟอกขาวในปะการัง เพราะ... เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในมหาสมุทร ทำให้ปะการังสีสวยสด กลายเป็นซากสีขาวเต็มท้องทะเล นอกจากนั้น พาหะนำโรคร้ายต่างๆก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ปริม...อาจจะคิดมากกว่าใครละกระมัง จึ่งต้องมาสร้างรวงรังแห่งรักแห่งหวัง ณ..ที่นี่ ริมทะเลสาบสีเงิน วิมานบ้านไร่เป็นเรือนใจ ยอมผละหนีโลกศิวิไลซ์ ที่นับวันสำหรับปริมแล้วไม่บรรเจิดเอาเสียเลย ปริม..จึ่งรอสร้างฝันประดุจดั่งรังรักในจินตนาการ ที่แสนหวานหอม ให้ค่อยๆเป็นจริง และ.. วิมานของปริม เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ปริมเปิดพบลอฟต์ริมเชิงเขาของผู้ชายคนหนึ่ง ในหน้านิตยสารแห่งบ้านและการตกแต่ง ปริม...เริ่มเห็นเงาฝันอันรางเลือนนั้นแจ่มกระจ่าง และ... ถึงกับอุทานในใจ นั่นอย่างไรเล่าคือวิมานดินเรียบง่าย ที่ปริมคงได้ใช้ชีวิตชิดใกล้ธรรมชาติดิบเดิม อย่างเดียวดายเหงางามสงบสมถะอย่างที่สุด วิมานของเขาและของปริม ช่างละม้ายแม้นกันอย่างที่สุด หากฝันของเขาคนนั้น ได้ออกแบบอิงแอบแนบชิดภูเขาทางภาคเหนือ เมืองแห่งม่านหมอก ดวงดอกไม้สายเหมยสายไหมที่แสนงาม และ.. สำหรับวิมานดินของปริม กลับแจ่มกระจ่างอยู่ริมทะเลสาบสีเงิน ในท่ามทุ่งดง ดวงดอกทานตะวัน และ.. ในท่ามพันธุ์ไม้ไทย หอมๆรายล้อม เป็นวิมานไพร ที่ออกแบบเป็นห้องโถงใหญ่เปิดโล่ง... ที่ทำให้.. อากาศร้อนได้ไหลเวียน เย็นสบาย ใช้วัสดุแนวดิบดิบ พื้นผนังเป็นปูนเปลือยไม่ทาสี มีเพียง.. เครื่องเรือนเก่าแนวธรรมชาติเรียบง่ายวางไว้ไม่กี่ชิ้น พอเพียงใช้สอย ในชีวิตเท่าที่จำเป็น ความสดชื่นผ่อนคลายแสนสบาย เกิดจากอากาศบริสทุธิ์ใส ฟ้าแจ่มกระจ่าง... ในท่ามแนวไพรแลทุ่งดวงดอกไม้ ทุ่งทานตะวัน...นับหมื่นนับพันต้น ที่ปลูกไล่ละลดหลั่นลงมา จากลาดเนินเชิงเขาจรดถึงที่พัก ที่ที่มี.. เทือกเขาซ้อนสลับสล้าง เป็นดั่งแนวปราการโอบล้อมรายรอบ ปริม..มีดวงตะวันยามเช้าเฝ้าทายทักริมหน้าต่าง ได้ยินเสียงนกต่างๆพันธุ์พากันร้องระงม เห็นผีเสื้อสลับสีสวยพร่างกางปีกถลาล้อเล่นลม แล้วหยุด.. แวะเวียนดอมดมดูดดื่มหยาดน้ำผึ้งจากเกสรแสนหวาน ของมวลตระการแห่งดอกไม้ณ..ริมกระท่อมชายคา ปริม..มีดวงสุริยายามใกล้ลาลับฟ้า เล่นแสงแปรสีราวเวทีธรรมชาติ ที่แสนพิลาสพิไล ให้สัมผัสได้อย่างจรุงใจแจ่มจรัสในทุกสนธยา มีดวงดาราในเวิ้งฟ้าฝันอันอนันตกาล ให้ จินตนาการมิรู้จบ มีดวงจันทรา พรายรัศมีสีเงินยวง ให้ห่วงหาปันแบ่งความคิดถึงแสนซึ้งใจทบทวี ถึงทุกคนดีดวงใจอันเป็นที่รัก และ..ในนาทีนี้ ที่โลกยังแบกรับภาระกิจอันแสนหนักอึ้ง แด่มวลมนุษยชาติ ใจปริม... กลับสดสว่างสะอาดด้วยโลกที่เลือกแล้ว..! ......................
13 กุมภาพันธ์ 2551 01:57 น. - comment id 822839
มาสารภาพอีกคนค่ะ มีความรักค่ะ...แต่รักพี่สาวคนนี้ได้มั๊ยค่ะ ทำไม พี่ดูอบอุ่นจัง..ทำไมถึงรู้สึกได้นะ ความอบอุ่นนี้ได้รับเมื่อเปิดกลอนพี่ขึ้นมา ไม่รู้พี่จะรู้ป่าว มาสารภาพแล้วนะคะ วันนี้ง่วงนะคะ แต่ว่านอนไม่หลับ ...เลยได้แวะมาบ้านพี่สาว อิอิ ..วันนี้ต้องนอนฝันดีแน่ๆ เลยค่ะ วันนี้ไม่มีเรื่องอะไรมาเล่าให้พี่ฟังเลย เพราะชีวิตตอนนี้มีแต่งานๆ เฮ้อ ... มาบ่นซะเยอะเลย.. จันทร์ก็รักธรรมชาติค่ะ ชอบสีเขียว เอ๊ะ อันนี้เกี่ยวป่าวค่ะ แต่ว่าถ้ามีโอกาส อยากมีบ้านที่อยู่กับ ธรรมชาติจริง ๆ พี่พุดเบื่อป่าวคะ มีน้องมาบ่นแบบนี้ ทำไมถึงอยากเล่าให้ฟังก็ไม่รู้ค่ะ... เอาแค่นี้ดีกว่า ไว้วันหลังจันทร์มากวนพี่ใหม่นะคะ คิดถึงพี่สาวคนนี้เสมอค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 05:37 น. - comment id 822851
ความรักของพี่พุดช่างสวยงามเหลือเกินค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2551 12:37 น. - comment id 822943