http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html บทเพลงร้อยบุปผา...พลีแด่ทุกดวงใจในร่มรัก ขอเขียนบทกวีเรียบง่ายจากรู้สึก หากล้ำลึกจากจิตดวงใสใส ไม่เลอค่าล้ำคำหากจริงใจ จากภายในจิตวิญญาณฝากงานรจนา กี่ปีแล้วยังมั่นคงแน่แน่วในสิ่งรัก ยังคงภักดิ์ต่อชาติศาสนา ยังคงวาดฝันแต้มจินตนา ยังคงต้องมนตราในโลกบรรณพิภพ แม้นภาษายังอ่อนด้อย สักนิดน้อยหวังฝากรักมิรู้จบ เลือนโลกแล้งฝากเรื่องราวที่ได้พบ มิลาลบพลังใจสร้างฝันงาน ,มิช้านานหวังในวันคล้ายวันเกิด ได้รับพรประเสริฐจากผู้อ่าน ครบห้าพันดั่งพรขวัญใจเบิกบาน ให้..เกษมสราญสร้างสานโลกสิ้นโศกรอย... .................................................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem77987.html กราบบูชาครูด้วยมาลัยใบข้าว ผลงานที่มีผู้ผ่านมาให้กำลังใจ พลังใจ ดั่งหยาดน้ำค้างรินรดทั้งหมด 4907 ท่าน หากในวันเกิด 23 กุมภาพันธ์ นี้ครบห้าพันท่าน คงชื่นใจหาใดประมาณ...ค่ะ *พุดพัดชา*และอีกนามปากกา*สาวบ้านนา* รจนางานมานานกว่า ห้าปี ณ..ร่มรักเรือนไทยเรือนธรรมเรือนทอง แห่งมิ่งมิตรผองเรา ทุกเช้าค่ำ ระรินร่ำระบายด้วยรักในสร้อยอักษรา ด้วยความสัตย์ซื่อถือมั่น และ.. จักเป็นเช่นนี้ตราบชั่วนิจนิรันดร์ หากยังมีดวงตาภายใน ดวงใจสวยใสสงบ มองโลกได้งามงดละไมละมุนเฉกเช่นนี้สืบไป เคยมีคนกล่าวว่า... ความเพียรพยายาม คือการพิสูจน์คุณค่าของคน ไม่ว่าจะพบพายุฝน สายลมแรง แสงแดดกล้า ก็จงฟันฝ่าอย่าท้อถอย คอยสร้างสิ่งที่รักที่ควร จริงๆพุดพัดชา ไม่ถนัดเขียนบทกวี และไม่ค่อยมีเวลาที่จะเททุ่มใจที่จะศึกษา เพราะมากภาระกิจในชีวิต เพียงมีความสุขใจที่ได้ทำสิ่งที่รัก ในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์ภาษาไทยมาก่อน และ.. ปลาบปลื้มใจ ในวันนี้ที่เห็นน้องๆมากมาย ได้ใช้เวลาให้มากล้นประโยชน์ ที่จักช่วยกันสรรสร้างอนุรักษ์ ภาษาไทยภาษาทองของเราเอาไว้ ให้โลกบรรณพิภพ ถนนสายดวงดอกไม้ มีความสวยใสแสนสดชื่นระรื่นรมย์สุนทรีย์ มากยิ่งขึ้น ขอเพียงทุกดวงใจ ตระหนักชัดว่า ปลายปากกานั้น *ประดุจดั่งเพชรอันจรัสรัศมีฤาคมดาบ*ก็ได้ ที่จักให้สรรสร้างฤาทำลาย ที่ขึ้นอยู่กับ *มโนคติแห่งชีวีชีวิตอันแสนนิดน้อยนี้* ที่เราจักเลือกลิขิตเอง...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4689.html ร้อยบุปผา ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก ร้อยสำนัก ประชันแข่งใจ มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน ร้อยดอกงาม เด่นตระการ แย้มบานในดวง ใจ ชู่ ช่อ ธรรม สง่า งาม ในนาม ศิลปิน มาสร้าง งาน ศิลป์ ชุบชีวิน มนุษย์ชาติ สะอาดสดสวย ด้วยบทเพลง แห่งสวรรค์ ให้มาลัย ฝากรัก มอบใจภักดิ์ ร่วมกัน จุดไฟ ความฝัน พร่างพลัน ประกาย เพลิง มาเถิด พี่น้อง ร่วม ร้อง เพลงเพื่อ กลั่นจาก เลือด เนื้อ หยาดเหงื่อ เร่าร้อน เราจะเร่ง แนวรบ ไม่สยบ อ้อนวอน เริงระบำ รำฟ้อน ร้อยกรอง กวี กานต์ มาร่วม ใจรัก พร้อม พรักพลีชีวาตม์ ผงาด อาจ หาญ สร้างตำนานตระการฟ้า แต่งเติม โลกศิลป์ ให้ผ่องพิณ โสภา ด้วยวิญ ญานท้า ทรนงเทิดคง ธรรม ร้อยบุปผา บานพร้อมพรัก ร้อยสำนักประชันแข่งใจ มวล ดอก ไม้ พร่างพรายมา พ้อง พาน ร้อยดอกงาม เด่นตระการ แย้มบานในดวง ใจ ชู่ ช่อ ธรรม สง่างาม ในนาม ศิลปิน .......................... แด่ดวงตาดารางามนามนักเขียน พระจันทร์สีส้มสุกดวงโตสุกปลั่ง กำลังสาดส่องทอประกายนวลละอองดั่งทองทา เมื่อแหงนเงยหน้าบนฟากฟ้าสีน้ำเงินงามเข้มดั่งกำมะหยี่ ในราตรีที่ดวงดาวราวเร้นหลีกหลบประกายกล้ามิหาญกล้าทายท้าแสงนวลใย หายเข้าไปในหน้าต่างเมฆ.. ฝากดอกไม้ไทยที่พากันเอาใจ บานละออชูช่อรอหยาดน้ำค้าง ที่คงหยาดสายพรายพร่างในยามดึก... ผ่านม่านมนต์เมฆเสกเสน่หาให้มวลมนุษย์ มองหาสวรรค์ฝันหวานหวาน ฝากผ่านถึงดวงใจ..ทุกดวงที่ยังห่วงใยเกี่ยวกระหวัดรัดรึง ให้ละเมียดละมุนด้วยความงามนั้ที่ไทยโพเอม และผ่านดวงตาดารางามนามว่านักอยากจะเขียนเพียรสร้างฝันกันมิว่างเว้นในยามนิทรา.. ที่ทุกดวงตาอื่นๆนั้นพากันหลับไหล ไฉนเลย..! เราจึงมาเดินบนถนนสายเดียวกัน ในมิติฝันอันลี้ลับมหัศจรรย์ไร้กาลเวลา. .นอกจากใจนำพาให้เราได้พบและรักกัน ได้โอบเอื้อแบ่งฝันอันละเมียดใจ ในทุกอณูหนึ่งนี้กับโชคดีที่กาลเวลาได้ประทานของขวัญอันแสนเลอล้ำค่ามลังเมลืองใจ ..เกินกล่าว..แล้ว ...
9 กุมภาพันธ์ 2551 14:49 น. - comment id 821578
เพลงไพเราะ นางแบบงาม กลอนวิจิตร.. ..ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว..
9 กุมภาพันธ์ 2551 15:18 น. - comment id 821584
แด่น้องอรุณสุข รุ่งอรุณรัศมีมาพรายพร่าง ในดวงใจพี่พุดไพร สาวบ้านนา บ้านป่าค่ะ นักอยากจะเขียน..นักฝัน..ค้าง แพม ขอบคุณมาก ที่มีท่านผู้อ่าน ที่แสนดี มากมีน้ำใจ ที่ได้ให้กำลังใจ และยกย่อง เรียกว่า นักเขียน.... สารภาพนะคะ..ว่าจั๊กกระจี้ และแสน ละอายใจ ที่ได้ยินได้ฟัง ใครมาเรียกอย่างนี้ ทั้งๆที่อยากจะเป็น อยากจะรับไว้ใจจะขาด... โอ้.. คำที่แสนดี....นักเขียน...อื้อฮือ... ช่างแสนสวย แสนงาม ในความรู้สึก แต่ขอบอก..นะคะ ว่า..มันคงเป็นไปไม่ได้. เพราะคำคำเดียวนั้นมัน..ยิ่งใหญ่.. ไกลเกินคำว่า... ดาวเอ๋ยดาวน้อย ที่ลอยสูงเด่น..ซะอีกนะ แม้อยากจะคว้าไขว่ คำว่า นักเขียน นั้น สำหรับในใจในความรู้สึก ของแพม มันล้ำลึก ลึกลับเลอเลิศ สูงค่า สูงส่ง ราวกับดาวอังคาร ที่ไกลเกินเอื้อมเลยค่ะ ไม่ใช่ดาวน้อยธรรมดาๆ ยิ่งได้อ่านผ่านตา วิถีคนกล้าของการฟันฝ่า เพื่อมาเป็นนักเขียนใหญ่ อย่างกวีซีไรต์ ของคุณ กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ที่รักจะเขียน วรรณกรรมเพื่อชีวิตแล้ว... ยิ่งเหี่ยวห่อ เป็นยิ่งนักนะใจ ไม่ใช่อย่างอื่นเหี่ยว....นะคะ เพราะ..หนังสือ เล่มล่า ชื่อ หุบเขาฝนโปรยไพร ของคุณกนกพงศ์นั้น ยิ่งตอกย้ำทำให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า... คนเราจะเป็นนักเขียนที่ประสพความสำเร็จได้นั้น ต้องมุ่งมั่น มากมีความเพียรพยายามเพียงใด บางคนถึงกับต้องเสียสละ ความรักแบบครอบครัว เพื่อเอาเวลามาทุ่มเท ให้กับงานฝัน งานจินตนาการ งานเขียน ที่ต้องใช้ความคิด คิด และคิด เพื่อ..ก้าวผ่านพ้น คำว่ารักแบบดึงแข้งดึงขา ที่จะแย่งเวลา แย่งความสงบ ..สมาธิ... นี่คือ นักเขียนที่หวังสูง มีอุดมคติมากล้น เกินคนธรรมดาๆ บางที อ่านไปอ่านมา ถึงการต่อสู้กับความต้องการของตัวเอง แล้วก็เศร้าแทน คุณกนกพงศ์ แพมคิดว่า ไม่มากไปหน่อยหรือ คุณกนกพงศ์ คะ! แต่คนเรา มักคิดอะไรต่างกันในมุมมองของชีวิต แม้วิถีนั้นมันจะสุดโต่ง แต่เขาก็ทำด้วยความรัก ความพอใจนี่นา แล้วเราจะมาเอาศีรษะ ไปหนักแทนทำไมกัน.... แต่ขอบคุณนะคะ ที่เป็นแรงบันดาลใจ บันดาลฝัน ให้แพมสามารถ รจนา เรื่องจากดวงจันทร์ ถึงดวงใจได้เรื่องหนึ่ง หลังอ่านจบ นี่ถ้าไม่อาย จะส่งไปให้คุณกนกพงศ์อ่าน นะท่าจะดี แค่อยากบอกเป็นนัยๆว่า ทำอะไรน่าจะเดิน สายกลาง ให้มีความพอดี ความว่าง ความพอใจ น่าจะเข้าทีดีที่สุด สำหรับแพม คิดว่า ถ้าต้องแลกกับคำว่า.. นักเขียน..ยิ่งใหญ่ไปถึงโลกไหนในอนันตกาลจักรวาลสุดหล้า.. ด้วยชีวิตที่ว่างเปล่า เหลียวไป ไม่มีรัก ไม่มีอบอุ่น แบบปุถุชน คนเดินดินแล้ว แพม...คงไม่...ขอเป็น จะดีที่สุด และเพราะรู้ว่า อยากแค่ไหน ก็ใช่จะเป็นได้ทุกคนซะเมื่อไหร่.... คนมีอุดมคติสุดขั้ว ในโลกนี้ มีมากพอแล้ว ขอให้เขาเดินไปในเส้นทางนั้นเถิด ถ้าเขามองเห็นทางนั้นสวยสด และถึงฝั่งฝันได้อย่างไม่ยากเย็น... แพม..ทนขวากหนาม ความอดทน ความยากลำบาก เพื่อพิสูจน์คุณค่า ในตัวเองไม่ไหวแน่ คงพ่ายแพ้เพลี่ยงพล้ำ เสียก่อน เพราะพลังใจไม่กร้าวแกร่งพอ จึงขอสดุดี..นักเขียน และศิลปินทั้งหลาย ในหล้าโลกนี้ ที่ประสบกับเกียรติยศ กับความชื่นชม ความสำเร็จ สามารถก้าวพ้นผ่าน ด่านอรหันต์ มหันตภัย จนได้ฝากผลงาน ไว้เพื่อเป็นเกียรติ เป็นประวัติศาสตร์ของชีวิต และของโลก แพม...ขอก้มศีรษะและดวงใจ ลงคารวะ แด่ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ที่น่าชื่นชมสุดขั้วหัวใจ แพม..เป็นแค่..นักอยากจะเขียนแค่นี้ ก็แสนดีแล้ว เพราะทุกวันนี้ก็มีคนตัดพ้อ และเหน็บแนม แกมประชดแพม ด้วยสมญานาม มากมี....เช่น โคโค่เพ้อ โคโค่พลอมแพลม ลับๆล่อๆแล้วแต่สถานการณ์อารมณ์ ที่เป็นดั่งนี้..เพราะเหตุว่า..... เวลาในชีวิต ได้ถูกงานเขียนมาแบ่งปัน ไปบางส่วนและมากมีในบางวัน... บางคืนค่ำ นอนอยู่ดีๆ ก็เหมือนผีเข้า เด้งดึ๋งได้ แบบนักยิมนาสติก ไวปานนั้น เพราะคิดคำกลอนได้ แม้จะธรรมดาๆ แต่สำหรับแพม... มันแสนดี มีค่ามากเลย ที่อยากมอบให้ ผู้อ่านผ่านตา นะคนดีที่รักยิ่ง..... และเชื่อไหมว่า ตั้งแต่มาจับงานเขียน แบบมือใหม่สมัครเล่นแล้ว ไม่ว่าไปไหนๆ ใจดวงที่ปลอดโปร่งโล่งงาม ก็ไม่วายจะสรรหา เรื่องมาคิด คิด คิด ทั้งที่มีสาระและไม่มี ที่มัก จะออกมาในแนว พร่ำเพ้อละเมอหารัก เสียเป็นส่วนมาก เพื่อ เสนอสนองอารมณ์ อยากเขียนของตัวเองนะซี จะมีอะไร บางทีคิดเอาว่า น่าจะมีใครสักคน รู้ใจ ราวเพื่อนร่วมฝัน ร่วมเส้นทางแห่งกำลังใจ ที่ทอดยาวไกล ให้เดินดุ่ม ค้นหา ไม่รู้จบ.. เพื่อมอบสิ่งดีๆ ที่อยากรินรด จ่ายแจก ให้เห็นงามตามกันไป ใน ทางสายสวยใส เส้นนั้น ชีวิตนี้...จึงราว..ถูกพันธนา ด้วยความฝัน อันอลังการ ตามประสาใจคนอยากเขียนอยากถ่ายทอด ที่รอเวลาจะระเบิดพวยพุ่ง.. เป็นความฝันที่แสนงามราวสายรุ้ง...เลื่อมสี. แม้นมิเคยคิด คาดหวัง ไฉนเลยใจยังเป็นไปได้ถึงเพียงนี้...หนอ ที่ ทั้งทุ่มเท ทุ่มใจ ไม่เหน็ดเหนื่อยเลย งานการเขียนนั้น ถ้าจะให้ดี ต้องเขียนให้ถูกใจผู้อ่าน และมีสาระ ย่อยเรื่องยาก ให้กลายกลับเป็นเรื่องง่ายๆ น่าสนใจติดตาม และ...ยังมีกลวิธีซับซ้อน ที่เป็นเทคนิคในการเขียนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน..... นักเขียนส่วนมาก มักผ่านการเป็นนักอ่านตัวยงมาก่อน แล้วลองพัฒนาตัวเอง พยายามลองเขียนดู ถ้าไม่รักการอ่าน อยู่ๆจะเขียน คงต้องเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ และมีความเป็นอัจฉริยะ ในตัวตน..อย่างล้ำเลิศ... เขียนมายาวย้วย เพียงอยากบอกว่า ชีวิตแพม..ช้าไป แล้วต๋อย ที่จะทุ่มเทมากมายกว่านี้ได้ จนหมดใจ เพราะหมดไฟหาหนทาง.... ที่จะก้าวย่างไปไกลสู่โลกบรรณพิภพ ของคำว่านักเขียน.. อยากฝากใจ ฝากบอก ถึงนักเขียนสมัครเล่นรุ่นใหม่..แค่นั้น ที่ยังเป็นคลื่นลูกใหม่ไฟฝันยังแรงร้อน ว่า.... ทุกสิ่ง ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าเริ่มวันนี้ เพราะยังมีหนทางไกลให้ลองก้าวเดิน จงทำด้วยใจ ด้วยรักนะคะ และ..แพมคนนี้.... จะขอเคียงข้างให้กำลังใจ....ไปเสมอ เพียง..แค่ขอ..เห็นใครสักคน สานฝัน....ในใจแพมนั้น...ให้สำเร็จ เป็นจริง ด้วยรักนี้..จากใจโคโค่แพมนะคะ. แด่นักเขียนสมัครเล่นทุกท่านในร่มรักเรือนไทยนี้.... ที่ให้โอกาสเราทุกคน ก้าวเดินไป...ตามหาฝัน..วันแสนดี...แสนยิ่งใหญ่..ของเรา ค่ะ
9 กุมภาพันธ์ 2551 15:37 น. - comment id 821593
เธออยู่ไหน ดึกแล้ว จันทร์ดวงงามลอยเด่น นภานวลสว่างกระจ่างแจ่ม ดวงเดินเดียวดายหนาวใจ ไปเด็ดดวงดอกลั่นทมมาแซมผม และ แหงนเงยดูดาวประจำเมือง แล้วก็เฝ้าพ้อถาม...เพ้อถาม..ด้วยน้ำตาปร่าปริ่มเต็มเรียวตา ......... URLhttp://thaipoem.com/web/songshow.php?id=304 เธออยู่ไหน ญใครคนนั้น ที่ ฉัน ฝันถึงเขา ใครคนนั้น ยิ้มเศร้าเศร้า เขาอยู่ไหน ใครคนนั้น ที่ฉันรัก เหมือน ดวงใจ อยู่ที่ไหน นะจันทร์ ฉัน หลงคอย ชอยู่ที่ไหน ไม่สำคัญ หรอกขวัญ จิต โปรดจงคิด ถึง กัน สักวันละหน่อย อาจแทรกอยู่ กับน้ำค้างตาม ดาวลอย อาจจะยิ้ม อย่างละห้อย คอยสัมพันธ์ ญเธออยู่ไหน ชฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า ญเธออยู่ไหน ชในดาราคือตาฉัน ญเธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ ชที่กลางใจ เธอ นั้น คือฉันเอย ญเธออยู่ไหน ชฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า ญเธออยู่ไหน ชในดาราคือตาฉัน ญเธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ ชที่กลางใจ เธอนั้น คือ ฉัน เอย... ********** ดาวประจำใจประจำเมืองเมินหน้าหนี เดือนดาราพลอยหลีกลี้พราย หลบหายเข้าไปในม่านเมฆ ทิ้งวิเวกหวานเศร้า ให้ยิ่งหนาวแสนหนาว หนาวในนวลเนื้อใจ..นวลเนื้อจิตนี้เป็นยิ่งนัก เธอ..อยู่ไหน เธอ อยู่ไหน เธอ อยู่ไหน ที่รัก ที่รัก ที่รัก เธออยู่ไหน เธออยู่ไหน...... ฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า เธออยู่ไหน ในดาราคือตาฉัน เธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ ที่กลางใจ เธอนั้น คือ ฉัน เอย... ............. ใช่ละหรือ...คนดีที่รัก..ยอดดวงใจ หวังว่า นี่คือคำตอบอันคิดชอบคิดเข้าข้างตัวเอง อันคือบทเพลงรักนิรันดร์ ที่บรรเลงฝากความงามงด พิสุทธิ์ใสให้รับรู้ในดวงใจแห่งสองเรา ดั่งคำมั่นสัญญาก่อนลาพราก ก่อนกระซิบฝากคำริมแก้มริมหูให้รู้ถนอมใจ รอวันที่ยอดดวงใจจะคืนกลับมา.. ดั่งสายแสงแสนรักแห่งนภา ดั่งดาราจักร ดั่ง ความหนักแน่นคงมั่นแห่งแผ่นผาผืนใจ ดั่งเดือนดาวบนฟากฟ้าไกล ที่จักหมุนวนกลับมาใหม่ พราวพร่างไสวมิร้างแรมลา ดั่ง สายธารธาราแห่งรัก อันจักหยาดสายหวานหอม ห่มห้อมในห้วงหฤทัย ในดวงชีวี ให้ปิติเกษมใจ ให้กระจ่างใจ ให้มีพลังใจไฟฝัน ให้หัวใจเอิบงามให้ท่ามท่วมท้น ล้นด้วยแรงรักแรงคิดถึงคะนึงหา ให้ดวงวิญญาญ์สุกใสแสนงามพอกัน กับ ดาราขวัญดาราฝันบนฟากฟ้า ในทุกครายามแหงนเงยมอง ในทุกห้วงหอมแดน ...... ดวงกำลังนอนซุกตัวนิ่งๆ ในโซฟาขาวนุ่มแล้วหลับตา ได้ยินเสียงกระรอกกระโดดไปมา พร้อม ฟังเพลงบรรเลง*สายน้ำนิรันดร์* พร้อมพาใจดวงฝันฝันฝัน หวานหวานหวาน ดวงจิตวิญญาณ รับหยาดสายหวานของ น้ำผึ้งฝันพระจันทร์งาม ในยามนี้มาประโลมใจ ให้อย่าหวั่นไหววาบหวาม ด้วยคิดถึงใครบางคนที่รักสุดหัวใจ... และห่วงใยสุดจะทนแล้ว ฝากผ่านดวงตาดารากาล ผ่านฟ้ากว้างขุนเขาและเงาเมฆ ถึงคนดีนะยอดรัก หากทว่า ไปที่ไหนเล่า..คนดี เหนือ หรือว่า ใต้ที่กำลังร้อนรุ่มดั่งไฟรุมน่าห่วงใย หรือ บนภูสูงสวยใส ด้วยสายหมอกสายเหมยราวสายไหม ที่กำลัง หยอกสายเย้ยฟ้าท้าดิน ในถิ่นอิสาน หรือ แดนดินไหนเล่า โอพระเจ้า.. กระซิบบอกลูกที จงปรานีมีเมตตา อย่าราแรม..ร้างเลือน ให้ติดเตือนใฝ่หา ใช่เลย!....ระหว่างเรา.. ดวงไม่รู้ ว่า *เธออยู่ไหน..เธออยู่ไหน*นะที่รักนะยอดรัก **************** ฝากให้อ่านเรื่องนี้ไปก่อนนะคะอุณากรรณคนดี อรุณรุ่งพรุ่งนี้จะมารจนาต่อค่ะ ต้องขออภัย จันทร์ครึ่งดวงใจดายเดียว! พุดพัดชา http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=973 จันทร์ครึ่งดวง คืนนี้กางเต็นท์นอนบนระเบียงบน กับฟ้ากว้างกับจันทร์ครึ่งดวงนวลผ่องผุด สวยสุดใจ กับดวงดาวสุกใส กับหอมอวลของการะเวกที่ปล่อยให้เลื้อยพันชูช่อ กับหอมละออจากมวลหมู่ดวงดอกไม้นานาพรรณ... ตื่นขึ้นมา เพราะเจ้าแมวน้อยกระโจนจนกระถางตกแตก... จันทร์สาดส่อง แสงนวลใย ประกายทองทาทาบ วะวาบวะวับวาว.. ทายทักปลุกให้ตื่นจากหลับไหล.. มารับหวานหยาดราวหยาดน้ำผึ้งจากพระจันทร์ดวงสวยสีทองสุกปลั่ง... จันทร์ครึ่งดวง.... จันทร์ครึ่งเดียว.... จันทร์ดวงเดิม..จันทร์ใจดี.. ที่คอยเติมใจไฟฝันให้กับผู้หญิงคนนี้ เสมอมา ตลอดไป และหวังใจตราบนานเนา ชั่วฟ้าดิน... นอนนับดาว รับหนาวจากหยาดน้ำค้าง กับหยาดน้ำผึ้งพระจันทร์ กับหยาดน้ำตานิดนิด ในยามนี้ที่ใจนิ่งๆ เมื่อมองเห็นรวงดาวราวกระพริบล้อเลียน รับรู้ว่ากำลังดายเดียว.... บรรยากาศเป็นใจ..ความห่างไกล และความคิดถึงเป็นแรงฝันบันดาล ให้ใจดวงนี้อยากจับปากกา รจนาเรื่องนี้ ที่คงเป็นแค่อารมณ์ธรรมดาๆที่เดียวดาย เกิดมาคู่ใจกับฉัน กับคนที่ยังมีฝัน ให้เพ้อ มีคนดีที่แสนรักให้ละเมอห่วงหา มีความหลังฝังฝากใจ ให้อาวรณ์ อาลัย..จนกว่าใจดวงนี้จะสิ้น... หมดไฟรัก...ไฟฝัน หมดสิ้นเสน่หาผูกพัน ไร้เยื่อขาดใย ไม่อาลัยอีกเลย..แล้ว... นอนร้าวระบมกาย พลอยพาให้ร้าวระบมใจ ด้วยความกลัวที่อยู่ดีๆ แขนขวาและมือนี้ที่ช่าง ขีดเขียนเรื่องเพ้อเพ้อ เรื่องฝันฝันเรื่องหวานหวาน มีอันยกไม่ค่อยขึ้น.. นอนน้ำตาไหล ใจยิ่งเหน็บหนาว... กับดาวพราว กับหยาดน้ำค้าง กับความหวั่นกลัว กลัวจะเขียนไม่ได้..อีกนาน... ค่อยค่อย จุดเทียน วะวับแวมแกล้มคลอกับลมหนาวพรู วางไว้ในตะเกียงโบราณคู่ใจ แล้วพยายาม จับปากกาออกมาเขียน..ด้วยใจดวงนี้ ที่อยากระบายสีให้พระจันทร์อยากระบายฝันให้ดวงใจ คลายหม่น ในความหมองหม่นของใจ ในความกลัวว่ากายจะผิดปกติ กลับมองเห็นความหมดจดของจันทร์ดวงแจ่ม ทำให้แฝงความสุขเล็กๆหวานล้ำลึก สุขกับจันทร์สุขกับใจ ที่ยังมีไฟฝัน ที่รู้ว่ายังมีวัน มีหวัง มีหวาน มิมอดสิ้น...นานเนา..... เปิดเพลง คลาสสิค บรรเลง เคล้าลมหนาว ให้ดวงดาว บนฟ้าหม่น เริงระบำ..แย้มยิ้มยั่ว ให้กำลังใจ ทุกดวงใจบนผืนโลกที่กำลังโศกเศร้าตรม ที่กำลังเฝ้ามอง ได้เบิกบาน ยิ้มหวานรับกับจันทร์กับดาวกับ ฟ้ากว้างในยามนี้ ลบหมองหม่น.. หวังมวลผกา ทุกถิ่นที่ ทุกดอกดวง แย้มหวาน บานรับหยาดน้ำค้าง... กุหลาบงาม ค่อยค่อยคลี่กลีบเผยอแย้ม ฟังเสียงเพลงหวานแว่วลอยล่องมาตามสายลมแห่งวสันตฤดู... ปลุกมวลหมู่สรรพสัตว์ร้องก้องพงไพร กับดาวสวย ฟ้าใส ในค่ำคืนนี้..ไปด้วยกัน... ในเงาไม้ ในเงาเงียบ ในใจนิ่งงัน... ในดวงใจฉันกลับแสนนิ่มนวล เงียบงาม อ่อนโยน.. ค่อยๆให้ธรรมชาติ ไหลริน สัมผัส ขัดเกลา . .ความละมุนจากบทเพลงฟ้า เพลงฝัน เพลงธรรมชาติ รินรดสู่อ้อมใจ สู่อ้อมฝัน สู่ทุกคน ทุกธุลี ทุกผืนดิน ทุกถิ่นที่ ให้รัก เข้าถึงงามง่าย..ไร้มายาที่รายล้อม ฉากฟ้า ฉากฝัน ในคืนเงียบงาม .. เคยบ้างไหม มีใครแหงนมอง รอคอย เห็นค่า รอคืน ตื่นขึ้นมาชื่นชม หรือให้ผ่านเลย ลาลับ จนวันหนึ่งอยากจะซึ้งค่าก็สายเกิน.... ค่ำคืนแสนงาม มิได้มีให้กับพวกผีเสื้อราตรี ที่แค่ใช้แสงสีมอมเมา แปลกปลอม ย้อมใจ จนเร่าร้อน ราโรยไร้งาม เป็นเหยื่อเกมกามแผดเผา หลงผิดบินไปติดกับไฟโลกีย์ ที่เผาไหม้มอดหมดสิ้นดวงชีวี มิทันได้เห็นงามตามใจสวยใสแสนบริสุทธิ์ ในชีวิตหนึ่งนี้ที่โชคดีได้เกิดมาบนผืนหล้า.... ให้ธรรมชาติหวานหวาน....ปลุกดวงใจ ให้ละมุนใจ ละไมฝัน ให้มีรักสวยใส ให้มีใจเมตตา อยากแบ่งปัน กันและกัน และให้อยู่กับโลกฝันที่เป็นจริงได้ เพื่ออยู่กันอย่างกลมกลืนไม่เบียดเบียน... ในโลกแสนสวยนี้ ที่ทุกคนแค่มาฝากร่าง ฝากรัก ฝากใจ กับใครสักคนเพื่อเคียงข้างกันไป ตราบลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิตนี้ ที่แสนสั้นยิ่งนักแล้ว.... ฉันรจนาเรื่องนี้ ที่หวังวาด ฝากฝัง ให้ทุกดวงใจรู้ค่าเงียบงามง่ายใกล้ตัว ใกล้ใจ เพียงเปิดใจ เปิดดวงตา ไขว่คว้า นำมาประโลมใจ ลดเร่าร้อน รุนแรง... ที่รัก คนดี และเพื่อเธอ... คนพิเศษ ในฝัน ในใจเสมอมา.. ลูกผู้ชายที่เกิดมารู้ค่าของการใช้ชีวิตบนผืนโลก หวังเคียงฝันฝากใจกาย คู่กัน ตราบวันตายของสองเรา........ ...................................... รจนาสดค่ะรอติดตามนะคะทุกดวงใจ
9 กุมภาพันธ์ 2551 20:33 น. - comment id 821675
ชอบรูปบนสุดนั่นมากเลยค่ะพี่พุด สวยมากกกกก
11 กุมภาพันธ์ 2551 13:36 น. - comment id 822140
เดือนนี้มี 29 วัน เพื่อนแฝดจะมีโอกาสได้ฉลองวันเกิดเสียทีหลังจากที่รอแล้วรอเล่า ในถนนสายฝัน ถนนสายนี้ มีความคะนึงถึงมิรู้วาย ค่ะ