ใจผ่องแผ้วรับกุศลจิต ปล่อยวางชีวิตสับสน ไม่ยึดมั่นถือมั่นตัวตน งามกมลก่อเกื้อด้วยแรงบุญ พุทธธรรมนำทาง มิอ้างว้างให้เรือบุญนำหนุน พายเพียรสู่ฝั่งฝันละวายวุ่น ชื่นละมุนดั่งเพชรพร่างณ..กลางใจ สุขฤาทุกข์อยู่ที่ใจใช่ไหนอื่น หากรู้ตื่นรู้เบิกบานจิตไสว เหมือนบัวทองผ่องพรายงามเหนือใด มิหวั่นไหวหลงโลกย์โศกมายา รักใดไหนเล่าเท่ารักธรรม ระรินร่ำดั่งน้ำค้างดับเหว่ว้า คือนิรันดร์ภักดิ์คู่กัปป์กาลเวลา คู่บุญญาพาจิตเราสู่แดน โลกุตตรธรรม...! ................. ดั่งดวงเนตรในทุกยาม! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html ใต้ร่มไม้ใบระยิบระยับไหว ฟังธรรมใจรับแดดทองส่องพรายพร่าง ใจดวงทองรับยอดธรรมส่องนำทาง ใสกระจ่างอัญมณีทิพย์นิรมิตใจ.. หลับตานิ่งทิ้งทุกสิ่งไว้ภายนอก ตาในบอกเปิดจิตงามรับพร่างใส ดอกบัวบุญแย้มคลี่บานกลางบึงใจ ยอดพระรัตนตรัยดั่งน้ำค้างลงพร่างริน.. ในนิมิตเราเคียงกันลานดอกจิต น้อมชีวิตกราบกรานถวายสิ้น มีเพียงว่างวางทุกข์น้ำตาริน หวังสุดสิ้นทุกข์ระทมเคยห่มใจ.. แกะเปลือกใจพบจิตใสอย่างช้าช้า แก่นชีวาคือทำดีมิหวั่นไหว รู้สละออกเพียรรู้ให้น้ำค้างใจ หอมดวงใจใสเย็นพร่างสร้างรอยบุญ.. เสียงสวดก้องสะท้อนทาบอาบอุ่นนัก ฝากใจภักดิ์สองดวงจิตอันหอมกรุ่น ใบไม้ร่วงพรูพร่างกระจ่างใจรับอรุณ ดอกพุดไพรใจละมุนรับวันพร.. แล้วดวงจิตกระจ่างก็พร่างวับ งามธรรมจับนวลเนื้อจิตซึ้งคำสอน สนิทแนบแอบแสนรักฟ้าอวยพร ให้เราสองล่วงสู่ฝั่งฝันวันนิพพาน..! ใบบัวไปวัดมาในยามเช้า นุ่งผ้าถุงตีนจกผืนสวยลายดวงดอกไม้ รัดผมด้วยดวงดอกเล็บมือนางสามสีสลับ แดงชมพูนวลพราว ขับมุ่นมวยผมยาวดำขลับ ที่พันทบยกรวบไว้เผยให้เห็นต้นคอเรียวระหงงาม มีเขาคนดีที่แสนรักช่วย หิ้วตะกร้าเงินถักสานลายสวยละเมียด ลายแมลงปอเกาะเกสรดอกไม้ฝากหยาดสายเสน่หา และ มีอาหารคาวหวานผลไม้พร้อม ในมือใบบัว ถือช่อดอกบัวสีขาว ที่*เขาคนดี*เพิ่งพายเรือลงบึง เก็บมาให้นำไป น้อมกราบถวายพระ และ ดวงดอกไม้ไทยรายรอบบ้าน ที่นำมามัดรวมงามแบบบุหงาส่าหรี่ พร้อมมีพวงมาลัยมะลิห้อยอุบะ ด้วยดวงดอกรักพราวพิสุทธิ์ แทนดอกดวงใจใบบัว..และเขาคนดี ที่กำลังจูงมือใบบัวอยู่นะนาทีนี้ อย่างทะนุถนอมแสนรัก สองร่างค่อยๆก้าวไปในเขตขอบขัณฑสีมา เขาค่อยๆประคองใบบัวให้นั่งลง ตรงลานหินใต้ร่มปีบใบระยิบระยับ ที่ดวงดอกแดดสีทองกำลังทอทอดส่องลงมา จนเกิดประกายพร่างพราย ราวใบไม้แก้วกำลังควงฟ้อน อ้อนออดออเซาะสายลมหนาว ในยามเช้าที่ช่างแสนงามนี้ สองดวงใจน้อมจิตใสประภัสสร ชวนกันฟังธรรม และหันมาแย้มยิ้มเย็นฉ่ำ ยามสายธรรมแทรกผ่านไปรินรด *ให้บัวบุญดอกงามในลานจิตบึงใจ* ได้แย้มตระการรับหยาดน้ำค้างจากยอดพระรัตนตรัย จบฟังธรรม น้อมนำใจถวายสังฆทาน ก้มศิระกรานกราบพระสงฆ์ และพระประธานขอประทานพร เพื่อให้สองดวงใจมีความสุขและเจริญจิตในธรรม เขาขับรถพาใบบัว ไปตลาด ไปซื้อปลา ไปปล่อยในแม่น้ำ ไปยืนนิ่งนิ่ง ให้ใบบัวเอนอิงพิงไหล่กว้าง มองดูสายน้ำสายใจเจ้าพระยา ที่ระรินไหลเอื่อยๆอย่างช้าๆ ราวกับว่าคือธารน้ำรัก ระหว่างกันและกันที่แสนฉ่ำเย็น และ ยังประโยชน์ให้แด่ผืนหล้าพสุธาไทยเรานี้ที่ได้หยัดยืนดำรง.. เวลายังมีที่เขาคนดีจะ ขับรถพาใบบัวไปอยุธยา ไปนั่งใต้ต้นลั่นทม เหว่ว้า ที่เขารู้ดีว่า *คือต้นไม้แห่งรักระหว่างสองเรา* ที่มีฉากหลังเป็นโบราณสถานแสนงาม ที่ย้อนรอยกาลรอยเก่าเงางามแห่งอดีต กลิ่นลั่นทมหวานเศร้า ราวย้อนเตือนถึงคืนวันแห่งรัก ที่สวรรค์และฟ้าดินได้เมตตาส่งเขามาพบกับใบบัว เขาคนดี ค่อยๆก้มลง เลือกเก็บดอกลั่นทมสีชมพูและขาว ที่ยังสดหวานพราวแตะแต้มเต็มพื้นหญ้ามาสองสามดอก และ ยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ หันมาทัดผมให้ใบบัว อย่างแสนรักแสนทะนุถนอมอ่อนโยน เป็นกิริยาละมุนละม่อมที่หายากยิ่งนัก ที่แสนงามนักจากน้ำใจรักภักดี และมาจากนวลเนื้อใจดวงดี ดวงที่ได้รับการอบรม ให้รู้ค่าคำว่าสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ที่จักพึงให้เกียรติผู้หญิงคนเดียวคนดีที่แสนรัก เขาโอบตระกองกอดใบบัว ไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง และค่อยๆไล้ลูบจูบแผ่วผิวไปตามริมเรียวแก้ม ที่ถ่ายทอดพลังแห่งหวานหอมทั้งสิ้นทั้งมวล นัยน์ตาสีสนิมเหล็กทอแววหนักแน่นมั่นคงจงรัก ราวผู้ชายโบราณ ที่มัก..มีรักภักดิ์พลีวางไว้แทบตัก มอบให้ผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในดวงใจนี้ ที่จักเป็นดั่งรักนิรันดร์ เป็นดั่งตำนานให้ตราไว้ ให้จำจดอย่างสุดงดงามล้ำลึก..ในรู้สึกไปตราบชั่วกาล.... แล้ว ถึงพาไปวัดมเหยงค์ ที่มีธรรมชาติสวยสด ด้วยลานธรรมลานทอง และ มีกำแพงแก้วสองชั้นล้อมรอบพระอุโบสถ ที่มีลวดลายปูนปั้นแสนละเอียดสวยงาม มีพระเจดีย์ช้างล้อม ที่ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวด้านละ 32 เมตร มีช้างเห็นได้ทั้งตัวที่ประดับโดยรอบองค์พระเจดีย์ เป็นแบบลังกา เหมือนพระเจดีย์ช้างล้อมที่จังหวัด สุโขทัย และ ให้ใบบัวนั่งราวเจ้าหญิง เป็นนางแบบ ค่อยๆคลี่ยิ้มหวานเศร้า แกมเคล้าซึ้งโศก..สะเทือน กับงามเงาในอดีตกาล แล้ว ให้เขาวาดภาพสเก๊ตต์ ลงไปบนกระดาษที่เตรียมไว้ อย่างละเมียดละมุน และ นี่คือโลกธรรม โลกทิพย์ และ โลกรักที่แสนหวานหอมอบอุ่นกรุ่น ด้วยดวงดอกแห่งความดี อย่างที่สองดวงใจนี้ได้หลอมรวมรัก *เป็นหนึ่งเดียว* พากันเกี่ยวก้อยสู่แดนดินแห่งฝันอัน คือรักที่จักเป็นนิรันดร์ไปตราบชั่วกาล.... และ ราวกับ บทกวีแสนงาม ของคุณทมยันตี จะหวานแว่วแผ่วมากับฟากฟ้ากว้าง มาปลอบประโลมสองดวงใจอันแสนสงบงามเงียบนี้ ที่ช่างแสนสุขและเอมอิ่มเปรมปรีย์ด้วยภาคภูมิปิติเป็นยิ่งนักแล้ว.. เจ้าร่างน้อยเอย อย่าอาวรณ์เทวษ พี่ไม่ละดวงเนตร ยังอยู่กับเจ้าไม่หายไปไหน ยามตื่นจะแลหาเจ้า ยามหลับจะฝันถึงสายใจ พี่ไม่ลี้หนีหาย ห่างไกลหัวใจเจ้าเอย ..พ่อไม่ลี้หนีหาย ห่างไกลหัวใจแม่เอย... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4.html จงรัก โปรด อย่าถาม ว่าฉันเป็นใคร เมื่อในอดีตและโปรด อย่าถาม ว่าอดีต ฉันเคย รักใคร รู้ไว้อย่างเดียว เดี๋ยวนี้รักเธอ และรักตลอดไป รักมากเพียงไหน กำหนดวัดได้ เท่าดวงใจฉัน อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์ เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม อย่า เพียรถาม ว่าฉันจะรัก เธอนานเท่าใดฉันตอบไม่ได้ ว่าฉันจะรัก ชั่วกาล นิรันดร์ เพราะชี วิตฉัน คงไม่ยืนยาว ไปถึงปานนั้นรู้แต่เพียงฉัน หมดสิ้นรักเธอเมื่อ ฉันหมดลม...
28 ตุลาคม 2550 17:56 น. - comment id 778653
สวัสดีค่ะพี่พุด สบายดีน่ะค่ะพี่สาวร่างกายสุขภาพพี่พุดเป็นอย่างไรบ้างค่ะ....อากาสเริ่มเปลี่ยนแล้วรักษาสุขภาพน่ะค่ะ..... พ่อไม่ลี้หนีหาย ห่างไกลหัวใจแม่เอย... ชอบประโยคนี้ที่สุดค่ะ
28 ตุลาคม 2550 20:58 น. - comment id 778740
สวัสดีค่ะ...มาร่วมชมผลงานนะคะ.. ดีค่ะ.. ชื่นชม.. เป็นกำลังใจให้นะคะ..
28 ตุลาคม 2550 21:42 น. - comment id 778763
คุณพุดพัดชา .. ;) พอดีอัลมิตราเห็นคุณลงความเห็นที่กระทู้ของคุณปิ่น วลัยภรณ์ เ กี่ยวกับโครงการที่จะไปทำกันที่ อ.อมก๋อย ในช่วง 7-10 ธค คุณพุดพัดชาสามารถอ่านย้อนหลังในกระทู้ที่อัลมิตราวางไว้ให้ เรียงตามนี้นะคะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board5467.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board5478.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board5485.html