เพียงลม เพียงลวง!

พุด

1183261502.jpg1153962365.jpg
แล้วดอกไม้ธรรมกลางดวงใจก็ไหวช่อ
แตกจากกอกุศลปาฏิหารย์ฝัน
หวังงามพอประดับใจตราบนิรันดร์
ประดับขวัญสร้างโลกงามนิยามใจ
ดั่งดอกไม้ทองงามผ่องพิสุทธิ์
หลุดพ้นพันธนาผลิไสว
จากบ่วงเล่ห์เสน่หามายาใจ
ไร้ห่วงใดรัดรึงตรึงผูกพัน
ลมหายใจแสนสั้นทิ้งวันโศก
สละโลกย์หนาวรักหนักจิตหวั่น
สละโลกย์ลวงสมมุติวนเวียนวัน
สุขทุกข์อันคลุกเคล้ารานร้าววน
จักกี่กัปป์กาลจิตหาญกล้า
เฝ้าฟันฝ่าอุปสรรคทุกข์สับสน
สู่ยอดผาเหนือโลกคนเหนือคน
ดั่งอุบลบานแจ่มพร่าง ณ กลางแดนพุทธภูมิ!


ขอคารวะแด่ดวงวิญญาณนักร้องในดวงใจ
คุณกิติคุณเธียรสงค์
ด้วยความโศกสะเทือนใจค่ะ


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song169.html
เพราะขอบฟ้ากว้าง   กุ้ง กิตติคุณ เธียรสงค์ 
ป่านนี้แก้วตา นิจจาคอยพี่
โอ้ป่านฉะนี้ คนดีคงทุกข์โศกตรม
คิดถึงคืนวัน ที่สองเรานั้นรื่นรมย์
ต่างชื่น ต่างชม ภิรมย์รักกันมา
บัดนี้พี่ยัง รักเธอไม่หน่าย
สู้อยู่เดียวดาย ไม่คลายความรักแก้วตา
รสรักยังตรึง ซาบซึ้งแน่นดวงวิญญา
ขอเพียงแก้วตา สัญญาไม่เปลี่ยนใจ
แต่เรานี้ต้องอยู่ห่างกัน ต่างคนต่างฝัน
ต่างคนตื้นตันทรวงใน
เห็นดารา นึกว่าเนตรน้อง
พี่หลงพี่จ้อง มองไป
เห็นเงากิ่งไทร พี่ยังเคลิ้มไป ว่ากานดา
อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย
อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง
แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา
ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา
อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย... 
 
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    1 ตุลาคม 2550 11:06 น. - comment id 762494

    300px-Shwedagon-Pano.jpgยอดหญิงงามกล้ากลางใจพุดพัดชา
    
    
    คุณวัชรี สายสิงห์ทอง..ผู้ร้อยเรียงค่ะ
    
    อ่านตอน1..ก่อนนะคะ
    http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/5_6_47.php
    ความรักของซู-1
    *********
    มองจากการแต่งกาย 
    เขาก็รู้ว่าเธอเป็น ผู้หญิงเอเชีย 
    เป็นนักศึกษาที่เดินเข้าออก มหาวิทยาลัย อ็อกซ์ฟอร์ดทุกวัน 
    
    เด็กสาวเจ้าของเรือนร่าง โปร่งบาง 
    ผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งคนนี้ 
    มักสวมเสื้อแขนยาวสีขาว 
    ปลายแขนบานน้อยๆ คอกลมผ่าหน้า 
    ตัวเสื้อสั้นแค่เอว นุ่งโสร่งยาวกรอมเท้า 
    ลวดลายแปลกและสีไม่เคยซ้ำ 
    
    มุ่นมวยผม ไว้ที่ท้ายทอยแล้ว เสียบช่อดอกไม้ทุกวัน 
    เขาไม่เคยเห็นว่าผมของเธอ ขาดดอกไม้แม้แต่วันเดียว 
    มันเป็น เอกลักษณ์ของเธอ
    
     ชายหนุ่มเดินตามเธอมาหลายเดือนแล้ว 
    อยากทำความรู้จักแต่ไม่กล้า
     เพราะเธอไม่มีทีท่าว่าจะชอบใคร 
    อีกทั้งมีนักศึกษาหนุ่มหลายคน
    ที่พยายามทอดไมตรี กับเธอ 
    
    จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเกิดใจกล้า
    เดินเข้าไปทักทาย 
    ในที่สุดทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกัน
     เธอบอกว่าเธอชื่อ ซู ยี มาจากพม่า 
    ***************
    
    
    
    คลิ๊กอ่านต่อให้จบเองนะคะ
    http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/5_6_47.php
    ความรักของซู-1
    http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/12_6_47.php
    และ
    ความรักของซู-2
    
    โดย..วัชรี สายสิงห์ทอง
    ****************
    
    
    พุดพัดชา....
    หลั่งน้ำตาสังเวยทุกคราที่อ่านประวัติค่ะ
    หวังทุกดวงใจงาม
    นามนิยามดวงดอกไม้
    ที่หวังประดับงามประดับใจ
    ด้วยนิยามมากล้นค่า..คน
    ในหล้าโลก..
    
    ขอพลีพร้อมน้อมใจดวงดอกไม้ไทยดอกไม้ไพร
    น้อมใจคารวะแด่เธอ!นะคนดี..ของโลก!
    ***********
    
    
    
    ซู ยี ถูกกักบริเวณ
    อยู่ในบ้านริมทะเลสาบ อิลยา
    มานานหลายปีแล้ว 
    เธอทุกข์ทรมานใจมาก 
    
    จดหมายของ สามีและ ลูกจากอังกฤษเท่านั้น 
    ที่ปลอบใจให้สู้ชีวิตต่อไป 
    ยามว่างเธอทำสมาธิ เขียนบันทึก 
    และอ่านวรรณกรรมของเจน ออสเตน 
    
    ขณะเดียวกันทหารเผด็จการ 
    ก็ได้ออกข่าว บิดเบือนทำลายในทำนองว่า
    
     ขอประชาชนอย่าเชื่อถือซู ยี 
    ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดีเด่อะไร 
    ตอนอยู่อังกฤษก็เป็นโสเภณี 
    คบผู้ชายไม่เลือกหน้า 
    เป็นผู้หญิงไร้สาระที่เรียกว่า Party Girl 
    ซ่าส์อยู่ตามงานต่างๆ จนมีผัวเป็นฝรั่ง 
    และได้สัญชาติอังกฤษไปแล้ว 
    
    มันไม่ได้เป็นพม่า 
    แต่กลับมาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง
    เพื่อความดังให้ตนเอง 
    
    ซู ยี ไม่มีโอกาสจะรู้ข่าวบิดเบือนนี้ 
    เพราะต้องอยู่ในโลกแคบๆที่ขัดสนของตนเอง 
    
    เธอส่งข่าวถึง สามีว่าไม่มีเงินซื้ออาหาร 
    ต้องกินสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ 
    ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเพราะ ขาดสารอาหาร 
    เธอเป็นลมบ่อยๆ และคิดว่าเป็นโรคหัวใจ 
    เวลาเดิน รู้สึกหูอื้อ สายตาพร่า มัวลงเรื่อยๆ 
    
    ซึ่งทางทหารก็เยาะเย้ยว่า
    พ่อมันถูกฆ่าตาย 
    แต่เราจะไม่โหดร้ายขนาดนั้น 
    ปล่อยให้มันตายคาบ้านหลังนั้น ไปก็แล้วกัน นี่ก็จวนแล้ว!
    
    คิม, ลูกชายคนเล็กเขียนมารำพันว่า 
    รู้สึกเหงาและคิดถึงแม่เหลือเกิน 
    
    พ่อมีแต่ความทุกข์ 
    ต้องทำงานหนักมากและเลี้ยงลูกทั้งสองคน 
    
    บ้านที่ อ็อกซ์ฟอร์ดไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว 
    สมัยอยู่ด้วยกัน
    แม่เคยทำอาหารจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วบ้าน
    เพราะแม่ปรุงอาหารเก่ง 
    เราพ่อลูกเคยได้กินอาหารที่อร่อยๆ จากฝีมือแม่ 
    
    แต่เวลานี้กินแบบ กันตาย 
    ตอนนี้เขาโต ขึ้นจึงเข้าใจเหตุผลของแม่
    ที่ยังกลับอังกฤษไม่ได้ 
    
    เพราะแม่ มีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ 
    พม่าต้องการ เสรีภาพ และควรมีการเลือกตั้งทั่วไป
    
    มันเป็นเรื่องยาก คิมให้ สัมภาษณ์ 
    ผมอยากช่วยแม่ 
    แต่ไม่สามารถช่วยได้ 
    และแม่ก็ไม่ ต้องการให้ช่วย 
    มันเป็นสิ่งที่แม่ต้องทำด้วยตัวของแม่เอง
     แม่มีจิตวิญญาณในการต่อสู้และ เสียสละ
     แม่ทำให้พวกเราเข้มแข็ง
    
    ไมเคิลพาลูกๆ มาเยี่ยมซู ยี 
    เท่าที่สามารถจะทำได้ 
    แต่ค่าเครื่องบินไป-กลับแพงมาก 
    
    อีกทั้งคณะทหารก็หาทางกลั่นแกล้ง
    โดยอนุญาตให้เข้าประเทศได้ 
    
    แต่อีก 2-3 วันต่อมาบอกว่าไม่อนุญาต 
    ไมเคิลหมดปัญญาที่จะช่วยภรรยาสุดที่รัก 
    
    เขาทำได้แค่ให้กำลังใจ 
    และปลอบโยนเธอ 
    บางครั้งก็อ้อนวอน
    ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเสียที 
    
    ผู้หญิงตัวคนเดียว 
    จะไปสู้รบตบมือกับทหารโหดไม่ได้ 
    อย่างไรก็ตามเขาทราบดีว่า 
    เธอไม่เลิกล้มความตั้งใจ อย่างเด็ดขาด 
    
    ไม่มีสิ่งใดในโลกสามารถขัดขวางเธอได้
    
    ต่อมาเกิดเหตุการณ์รุนแรง 
    
    รัฐบาลทหารสลายตัวไป 
    เกิดมีสภาปฏิรูปกฎหมาย
    ที่เรียกว่า สล็อร์ก
     (State Law and Order Restoration Council) 
    โผล่ขึ้นมาแทนที่ 
    เริ่มแรกก็ประกาศกฎอัยการศึก
    และให้สื่อของรัฐประโคมข่าวใส่ร้ายซู ยี, สามีและลูกๆ 
    อย่างต่อเนื่อง 
    
    แต่ด้วยเหตุอื่นกดดัน
    ให้สภาสล็อร์กจัดการเลือกตั้งในปี 1990 
    
    ซู ยี ก็ลงสมัคร ผลปรากฏว่า
    เธอชนะการเลือกตั้งอย่างขาดลอยถึง 82% 
    ทำให้สภาสล็อร์กเสียศักดิ์ศรี อย่างรุนแรง 
    
    จึงกักตัวเธอไว้ในบ้านดังกล่าวต่อไป 
    
    แต่การต่อสู้อย่างทรหดของซู ยี ไม่เสียเปล่า 
    โลกต่างรับรู้ และเอาใจช่วยเธอ 
    
    จนในที่สุดเธอได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี 1991
    
    แต่แล้ววันหนึ่งในปี 1999 
    โลกทั้งโลกของซู ยี ก็พังทลายลงมา 
    
    ไมเคิลโทรศัพท์ไปหา เพื่อนสนิทชื่อปิเตอร์ แครี่
     ผมมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายจะบอก 
    เขาเล่า เอาข่าวร้ายก่อนนะเพื่อน, 
    คือ...หมอตรวจพบว่า
    ผมเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก 
    และข่าวดี...ก็คือ ผมจะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ 
    จนสุดความสามารถ ผมไม่ยอมแพ้!
    
    เพื่อนๆที่อังกฤษตกใจมาก 
    ต่างขอร้องให้ซู ยี กลับไปอยู่ใกล้สามี 
    
    แต่เธอไม่ยอม 
    
    ไมเคิลเองกระเสือกกระสนขอวีซ่า 
    เพื่อเดินทางไปพม่าทั้งๆ ที่กำลังป่วย
     เพียงเพื่อพบภรรยา เป็นครั้งสุดท้าย 
    
    หวังเพียงกล่าวคำอำลาต่อเธอ 
    แต่อาการของเขาทรุดหนักลง 
    ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและ 
    พยายามโทรศัพท์ถึงเธอทุกคืน 
    
    
    แต่คู่สายโทรศัพท์ของเธอถูกทหารสั่งตัด 
    จนไมเคิลไม่สามารถติดต่อกับภรรยาได้ 
    ครั้นในวันรุ่งขึ้น เ
    ธอได้รับข่าวจากสถานทูตอังกฤษว่า ไมเคิลสิ้นใจเสียแล้ว!
    
    ซู ยี ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด 
    ศพของสามีได้ทำพิธีฌาปนกิจ 
    ที่อ็อกซ์ฟอร์ดตามประเพณีในศาสนาพุทธ 
    
    เธอเขียนไปหาเพื่อนๆที่นั่นว่า
    
    ฉันเป็นคนโชคดีมาก 
    ที่มีสามีดีเลิศอย่างไมเคิล 
    เขาให้ความเข้าใจเห็นใจ 
    ในสิ่งที่ฉันทำ 
    
    ความทรงจำที่ดีเหล่านี้
    ไม่มีวันลบเลือนไปจากหัวใจ ของฉันตลอดชีวิต
    
    จนกระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 
    มีข่าวจากทูตแห่งสหประชาชาติ 
    รวมทั้งนายพลขิ่น ยุ้นต์ นายกฯคนใหม่ ว่า 
    ซู ยี จะได้รับอิสรภาพในเดือนเมษายน 2004
    
     แต่นี่ย่างเข้าเดือนมิถุนายนแล้ว
     อิสรภาพก็ยังริบหรี่ 
    ไม่มีวี่แววว่าเธอจะรอดพ้น
    จากเงื้อมมือของเผด็จการทหารไปได้ 
    ในขณะที่ โลกต่างรอคอย
    การคืนสู่เสรีภาพที่มนุษย์อย่างเธอควรต้องมี 
    
    เผด็จการทหาร 
    กลับรอคอยการตายของเธอ 
    พวกเขากลัวผู้หญิงร่างเล็กคนนี้ที่สุด!
    
    ********************
    
    
    
    
    พุดพัดชา
    และทุกดวงใจในหล้าโลกนี้
    ที่รักสันติภาพ
    แสนเงียบงาม
    และโดยเฉพาะ
    ทุกยอดดวงใจที่ได้ชื่อว่าคืออิสตรี
    ขอพลีใจน้อมคารวะ
    แด่
    คุณวัชรี สายสิงห์ทอง..ผู้ร้อยเรียงด้วยค่ะ
    
    
    พุดหวังงานงามนี้จะเป็นดั่งบทเรียน
    พร่ำเพียรสอนใจเพื่อนมนุษย์
    
    ให้รู้สร้างคุณค่าในตัวเองเพื่อโลก
    และสร้างความงามความดี
    ความรักภักดิ์พลียามเราได้มาพานพบกัน
    ขอให้ถือเป็นขวัญเป็นโชค
    สร้างสุขลบโศก
    และเอื้อใจน้ำใจพร่างใสเมตตา
    ใช้ศาสนาบ่มเพียรภาวนา
    และให้รู้ค่าน้ำใจรัก
    เพราะ..ชีวินี้แสนสั้นนักนะทุกดวงใจ..
    ก่อนสายเกิน...
    
    
  • bananaleaf

    1 ตุลาคม 2550 11:50 น. - comment id 762540

    สวัสดีตอนสาย ๆ เกือบเที่ยงแล้วค่ะพี่พุดไพรคนงาม
    
    หญิงรพีเข้ามาเยี่ยมค่ะ และร่วมไว้อาลัยให้กับคุณกุ้ง
    นักร้องในดวงใจของหญิงรพีด้วยค่ะ
    พี่พูดสบายดีนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ..36.gif16.gif8.gif
  • คนบนเกาะ

    1 ตุลาคม 2550 12:06 น. - comment id 762553

    36.gifสวัสดีตอนเที่ยง ๆครับ  เข้ามาชมผลงาน  สบายดีนะครับท่านพี่
  • ก่องกิก

    1 ตุลาคม 2550 12:14 น. - comment id 762560

    พี่มาชวนพุดทานข้าวเที่ยงครับ
    
    11.gif6.gif36.gif
  • ทะเลใจ

    1 ตุลาคม 2550 12:20 น. - comment id 762568

    อองซาน ซู จี ( ซู ยี ) เป็นผู้หญิงที่มีความอดทนและเข้มแข็งมากค่ะพี่พุด ..
    
    ถ้าเป็นเอมเอมไม่รู้เลยว่าจะเข้มแข็งได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่
    
    ขอให้สันติภาพมาสู่พม่าโดยเร็ว  และขอให้ซูจี เจอแต่สิ่งดีดีในวันข้างหน้าทดแทนกับความเสียใจและอิสรภาพที่เคยสูญเสียไป
    
     36.gif36.gif
  • whitelily

    1 ตุลาคม 2550 14:53 น. - comment id 762721

    แวะมาสวัสดีตอนบ่าย ๆ  ค่ะคุณพุด.....11.gif
  • sonax0651

    1 ตุลาคม 2550 15:04 น. - comment id 762732

    สวัสดียามบ่ายครับ
    ขอไว้อาลัยแด่คุณกุ้ง
    ด้วยคนครับผมเป้นแฟนเพลง
    1.gif1.gif1.gif
  • rain..

    1 ตุลาคม 2550 22:33 น. - comment id 763043

    66.gif..
  • วชรกานท์

    2 ตุลาคม 2550 15:53 น. - comment id 763591

    สมาชิกใหม่รายงานตัวครับ 29.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน