บัวบูชา..!

พุด

fuji071.jpgCP_760.jpgCP_761.jpgbungbua.jpg
อย่างช้าช้าฟ้าแปรเป็นสีโศก
โลกทั้งโลกดูราวจะหยุดหมุน
ทุกก้าวย่างอ้างว้างวางวายวุ่น
แลละมุนรายรอบนาทีนั้น

bungbua2.jpg
นั่นป่ากกรกเรื้องามเหลือล้ำ
วิถีธรรมธรรมชาติดุจภาพฝัน
ทุกชีวีพึ่งพิงกันและกัน
รู้เท่าทันรู้รักษาฟ้าประทาน
prachuapkhirikihan08.jpgtop4.jpgRhyothemis_obsolescens8284e.JPG
หอมบัวบานตระการแย้มกลีบเกสร
ยั่วภมรร่อนภิรมย์น้ำผึ้งหวาน
บ้างชูช่อรอแสงทองเหนือสายธาร
มิยอมรานราโรยรับแสงธรรม

14-20061202112142.jpg346100254_df80ed25e8.jpgLotus%20Pond.jpg
บัวสี่เหล่าพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้
ยังเวียนว่ายวิบากเฝ้าครวญคร่ำ
รับกิเลสเวทนาวนเพรงกรรม
จิตระกำย้ำทุกข์ท้อทรมาน

ratchap.jpghetangchenwu.jpg
เลือกชูช่อรอแสงทองแสงธรรมนำชีวิต
ถูกฤาผิดแค่อดีตให้พ้นผ่าน
รักษาศีลสมาธิปัญญาญาณ
ให้จิตบานเหนือโลกย์เหนือโศกกรรม...!

114755786418379.jpg
วันที่ฟ้าฉ่ำฝน
สายหมอกหม่นบางเบา
กำลังเคลียไคล้ยอดเทือกภูตะนาวศรี 
ที่ซ้อนสลับสล้าง 
ให้..
รู้สึกงามอ้างว้าง 
เหงา โดดเดี่ยว เดียวดาย
ไปกับพรายละอองฝนพรำ
ไปกับบทเพลงปีศาจวสันต์อำลา
ในท่ามเสียงฟ้าร้องครางครวญ
วันที่ ...
เราหลายดวงใจ
ต่างพร้อมร่วมเดินทางกันไป
เพื่อ...
ตามหาฝันวันแสนดี
ในอ้อมกอดแห่งขุนเขาในเงาฝน
ทอดทาบไปทั่วทุกทิศทาง
เป็นวันงามทรงจำ วันหนึ่งที่ตรึงตรา
มีค่าควรแก่การบันทึกไว้ในซอกลึกแห่งบึ้งใจ


วันที่..
ได้พบภาพประทับใจมากมาย 
ที่ได้ชิดใกล้สัมผัสด้วยหอมห้วงจากดวงใจ
ไม่ว่าที่..
*วิมานมนตราทวารวดี*
ฤาว่าที่..*ทะเลสาบสีเงิน*
ให้กำซาบซึ้งอาบเอิบอิ่มกมล
ไปกับวิถีแห่งผู้คนผู้ที่ยังรู้ครองตน
อย่างมีความสุขสงบงามสมถะเพียงพอ
ขอเพียงได้ใช้ชีวิตติดดินเรียบง่าย 
ได้เห็นบึงบัว ดอกบัวหลวงมากมาย
ท่ามฟ้าสลัว ที่ดูราวภาพฝัน
ในม่านฝนอันรางเลือน
มีทั้งบัวชูช่อรอพ้นน้ำ 
บัวปริ่มน้ำ บัวรอโรยโปรยปลิดปลิว
และ..
บัวที่มิมีแม้นโอกาส
ชูช่อดอกพลิ้วไหวรับสายแสงทองแห่งทิวาวัน 
มีอันต้องติดตมจมโคลนเป็นเหยื่อเต่าปลา
อย่างน่าเศร้าสะเทือนใจ...!

เสมือน..เสมอ..ธรรมชาติ
กำลังวนว่ายกระซิบคำ
เฝ้าพร่ำสอนสัจจธรรมอยู่ริมหู
ให้ดู ...
ให้เห็นความเป็นไปในครรลองอนิจจังวัฏสังขารา
ว่า..
ทุก ทุกข์ สุข สรรพสิ่ง หาหยุดนิ่งจีรังไม่..!
เที่ยงแท้แล้วไซร้ คือมายา 
อันจิตอัตตาพาเกาะเกี่ยวให้เกิดวิบากกรรม
นับไม่รู้กี่อสงไขยกาลกัปป์กัลป์ 
จนกว่า...
เราทุกคนนั้นจักเพียรรักษา ศีล ภาวนา
พาให้จิตสว่างใส
เกิดดวงปัญญาญาณภายใน
ราวดวงแก้วแววไสวโชติ..จรัสกล้า
พาให้....
เหนือโลกย์พ้นโศกสุข สิ้นทั้งปวง..!
........................
LotusBlossomPond72x10.jpg				
comments powered by Disqus
  • แสงเหนือ

    15 สิงหาคม 2550 10:31 น. - comment id 738517

    สาธุ
    ภาพก็งาม
    คำก็คม
    ชมก็เพลิน...
  • พุด

    15 สิงหาคม 2550 12:15 น. - comment id 738561

    PIC00065.jpg
    น้องแสงหนือแสงอุษาอาคเนย์
    
    พี่พุดปลื้มปิติกับภาพธรรม ธรรมชาติ
    ที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดค่ะ
    และ..
    ได้สนทนากับลุกผู้ชายคนหนึ่ง
    ที่ได้เสียสละชีวิตเพื่ออนุรักษ์
    รักษาสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน 
    ดำเนินรอยตามกระแสพระราชดำรัส
    ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
    
    ที่พระองค์ทรงตระหนักชัด
    ถึงภัยแห่งธรรมชาติที่จักรุนแรงมากขึ้น
    ในไม่ช้าจากภาวะเรือนกระจก
    
    น้องแสงเหนือคะ
    
    พี่พุดจักรจนาถึงสุภาพบุรุษ
    ลูกผู้ชายคนกล้า
    ท่านนั้นในไม่ช้าค่ะ 
    
    เพื่อปันดี ปันพลี
    ให้เราทุกคน
    ได้ซาบซึ้งใจและภาคภูมิปิติใจ
    ไปกับการสร้างสาน
    คุณธรรมบุญทานบารมีความดี
    ที่..
    ชั่วชีวีแห่งลมหายใจนิดน้อยนี้
    เราทุกคนพึงทำเพื่อสนองคุณ
    แด่แผ่นดินธรรมแผ่นดินทองนี้ 
    ที่ให้เราได้หยัดยืนอย่างทรนง
    ค่ะ คนดี16.gif
  • พุด

    15 สิงหาคม 2550 12:37 น. - comment id 738568

    lotus%20flower.jpglotus2.jpgหยาดน้ำค้างกลางใบบัว!
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song101.html
    (หยาดเพชร)
    
    .................
    
    
    โลกยังคงหมุนไปหมุนไปและหมุนไป ...
    ไม่มีวันสิ้นสุดหยุดหมุน...
    มวลมนุษย์หลายพันล้านคน
    ก็ยังคงหายใจ..หายใจและหายใจ
    หากยังไม่ถึงเวลาจำพรากลาจากโลกนี้ไป
    ที่ยังคงมีทั้งทุกข์สุขคลุกเคล้า
    มากเรื่องพันราวร้อยแปดพันประการ
    
    
    ที่ยังมีดาวเดือนบนฟากฟ้าประดับราตรี
    มิให้ค่ำคืนและดวงชีวี
    มืดหมองหม่นจนเกินไป
    ประดับดวงใจให้เงียบงาม
    ยามคนบนผืนโลกได้แหงนเงยดู
    
    
    
    ยังมีตะวันดวงกลมสีส้มเจิดจ้า 
    ส่องทายท้าใจให้*เก็บตะวัน*
    แม้คนที่เคยร้องเพลงนั้น
    เพื่อมอบให้กับทุกผู้คนมีพลังใจกำลังใจ
    ได้ลาลับโลกนี้ไปแล้วก็ตามที
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4370.html
    
    เพลง*เก็บตะวัน*
    ด้วยคารวะแด่คุณอิทธิ พลางกูร
    
    เก็บตะวัน
    ที่เคย ส่องฟ้า
    เก็บเอามา เก็บไว้ ในใจ
    เก็บพลัง เก็บแรงแห่งแสง
    ยิ่งใหญ่
    รวมกันไว้
    ให้เป็น หนึ่งเดียว
    เก็บเอากาล เวลา ผ่านเลย
    สิ่งที่เคย ผิดหวัง ช่างมัน
    หนึ่งตัวตน หนึ่งคนชีวิต
    แสนสั้น
    เจ็บแค่นั้น ก็คง ไม่ตาย
    ธรรมดา เวลาฟ้าครึ้ม
    เมฆหม่น
    พายุฝน อยู่บน ฟากฟ้า
    คงไม่นาน ตะวันสาดแสง
    แรง กล้า
    ส่องให้ฟ้า งด งาม
    หากตะวัน ยังเคียง คู่ฟ้า
    จะมัวมา สิ้นหวัง ทำไม
    เมื่อยังมี พรุ่งนี้ให้เดิน
    เริ่ม ใหม่
    มั่นคงไว้ ดังเช่น ตะวัน
      
    ธรรมดา เวลาฟ้าครึ้ม
    เมฆหม่น
    พายุฝน อยู่บน ฟากฟ้า
    คงไม่นาน ตะวันสาดแสง
    แรง กล้า
    ส่องให้ฟ้า งด งาม
    หากตะวัน ยังเคียง คู่ฟ้า
    จะมัวมา สิ้นหวัง ทำไม
    เมื่อยังมี พรุ่งนี้ให้เดิน
    เริ่ม ใหม่
    มั่นคงไว้ ดังเช่น ตะวัน...
    
    
    
    
    
    ต้นไม้ยังคงผลิใบและลอยร่วงปลิดปลิว
    ไปตามฤดูกาลฤดีคนที่หมุนวนไปพร้อมๆกันกับกาลเวลา
    หามีสิ่งใดจีรังไม่..
    ใบไม้เก่าพรากไปใบไม้ใหม่ก็ค่อยๆผลิเขียวใสสอดแซม
    แต้มประดับโลกต่อไป หากยังมี
    ดินฟ้าอากาศเหมาะสมแก่การสืบทอดแพร่พันธุ์
    
    
    
    ดอกไม้..ก็ฉันท์เดียวเฉกกัน
    ที่ยังคง
    คลี่กลีบเผยอแย้มแต้มตระการบานสะพรั่งในทุกถิ่นที่
    ทั้งแผ่นดินไทยเรานี้และทั่วทั้งหล้าโลก
    
    ไม่ว่าในกลางป่ากลางดอยหรือ
    กระถางน้อยๆริมระเบียงตึกสูงกลางกรุงกรง
    ขอแค่ให้มีดินน้ำลมไฟพัดพร่างสร้างสมถะสมดุลย์
    ในทุกทิวาวัน..ราตรีหวาน..
    
    
    
    นกไพร..ดุเหว่ายังคงร้องขับขานแว่วหวาน
    แม้จะมีบ้างที่เป็นไข้หวัดนกล้มตายหายไปก็มากมีมากมาย
    
    
    
    คลื่นยังคงคลอทรายริมฝั่ง
    ร้องครวญคร่ำหวนหาซัดสาดกลับมาเป็นระลอกๆ
    ทะเลงามยังคงเฝ้ากระซิบบอก
    ให้พรานทะลอย่ารู้แรมร้าง
    ให้ท่องท่ามกลางเกลียวน้ำกลางชล..
    ให้ได้กุ้งหอยปูปลาภักษาหารมาเลี้ยงผู้คนกันอดตาย
    
    
    
    ได้เอื้อโอบกมลคนช่างฝัน
    ให้มองทะเลจันทร์ทะเลฝันทะเลงามยามค่ำยามดึกดื่น
    หรือตื่นมาในตอนเช้า
    แล้วได้เฝ้ารอดูพระอาทิตย์ดวงโตค่อยๆโผล่พ้นน้ำทะเลสีมรกต
    มาคลี่ยิ้มงามงดประดับหล้าประดับดวงฤดี
    ให้มีพลังหวานหวังเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ในทุกวานวัน 
    
    
    
    ไม่เลือกผู้ดีมีจน
    คนรวยคนยาก..หาเช้ากินค่ำ
    หน้าดำหน้าขาวหน้าเหลือง
    ให้ได้ประเทืองประทับใจทุกดวงหน้าดวงใจ
    
    ทุกสีผิวเผ่าพันธุ์
    ได้ปันแบ่งความงามอย่างยุติธรรมเท่าเทียมกัน
    
    
    
    ไม่ว่าผู้คนนั้นจะอยู่ณ.ซีกโลกส่วนใด
    ที่ถึงมาตรแม้นดวงใจยังมืดดำ
    ยังเร่าร้อนแย่งชิงฆ่าฟันล้มตายกันสักเท่าไร
    
    
    
    ดวงอาทิตย์ดวงยิ่งใหญ่ก็ยังคงหมุนส่องนำทางใจ
    กระจ่างใสสว่างไสวไปทุกถิ่นที่
    ในโลกกว้างใหญ่นี้
    สอนทุกชีวิตให้เรียนรู้
    การดำรงอยู่แบบพึ่งพาพึ่งพิงอิงธรรมชาติ
    หากเหล่ามนุษย์นั้นหาได้ตระหนักไม่
    
    
    
    ได้แต่ใจมืดบอดมืดดำ 
    กำลังละเลยธรรม ธรรมชาติ 
    ขาดการน้อมนำมาไตร่ตรอง
    มาลองคิดพินิจดู ว่า..
    ใครเล่าจะอยู่ค้ำฟ้า เท่าดวงสุริยา เท่าฟ้าแลดิน
    
    
    เราเพียงมายลแย้มยินเพียงครู่คราว 
    หาใช่จะมาครอบครองเป็นเจ้าโลกฤาก็หาไม่
    
    ชีวิตและทุกดวงใจรัก
    ในมวลหมู่มนุษย์ยังคงคลุกเคล้า
    เศร้าสุขดายเดียวเปลี่ยวเหงาโศกสะเทือน
    
    บ้างสมหวังบ้างผิดหวัง 
    บ้างเซซังซมซานรานร้าว
    หากใช้ชีวิตรักชีวิตประจำวันไปในทางประมาท 
    มิพลาดพ้นวงกรรมย้ำรอย
    
    
    
    หาก..ทว่าเราผู้คนในชมพูทวีปนี้
    แสนโชคดี
    ที่โลกได้มีได้มอบ
    *สัตตบุรุษผู้ยิ่งใหญ่..นาม*พระพุทธเจ้า*
    ผู้หาญกล้าละทิ้งสุขนอก..ที่ลวงหลอนหลอกโลกย์
    เพียรค้นหาทางให้พบความสว่างสะอาดสงบ
    พบทางพิสุทธิ์ใสที่เรียกในกาลต่อมาว่า*อริยสัจจสี่*
    
    
    
    ที่ได้นำมาน้อมนำ  นำมาสอนใจ
    ส่องกระจ่างใจ
    ให้แด่ทุก*บัวมนุษย์*
    ผู้อยากหลุดพ้นจาก น้ำโคลนกามโคลนกรรม..
    ไม่อยากย้ำซ้ำรอยวนวง
    หลงรักหลงฝันหลงสวรรค์สวาท
    เพียงครู่คราวหาใช่สุขจริงจีรังไม่
    
    
    
    ที่บางครั้งบาดชีวิตบาดจิตจนแหว่งวิ่น
    ที่มัดสิ้นร่างใจให้ดิ้นมิหลุดพ้นพันธนา
    ราวถูกตอกตราตรึง..
    จนขึงแน่นยากพาจิตไปพบแก่นธรรม..
    ให้พบทางทองลอยล่องสู่ฝั่งพระนิพพาน
    อันคืองามว่างตราบชั่วนิจนิรันดร
    
    
    
    โลก..เรานี้จึงยังมากมีหลายโลกเลือก
    ให้เหล่ามนุษย์หลงวนว่าย
    คล้ายซ้อนรอยถอยให้โลกวัตถุซ้อนทับทอด
    ให้ยอดแห่งพระธรรมนั้นนับวันจะเรียวเล็กลงๆ
    
    
    
    นอกจากยังมีคนจิตแสนดีที่มีเนื้อนาบุญเดิมหนุนนำ
    ที่ภพก่อนชาติก่อนได้เคยเพาะเพียรพร่ำ
    ฝึกสติมีศีลบริสุทธิ์มีสมาธิมีปัญญา
    ผ่านภพผ่านชาติมา
    
    จนใกล้จะบรรลุ
    มุ่งสู่เรือสำเภาธรรมสำเภาทอง
    พาลอยล่อง
    ไปเหนือทะเลแห่งวัฎฎสังสาร 
    ราวบัวบานพิสุทธิ์แย้มเหนือน้ำชูช่อไสวเรืองรอง
    ผ่องพรรณราย..
    ไร้กิเลสตกเป็นเหยื่อกิเลสเต่าตมจมโคลนแห่งความคิดผิดๆ
    จนตราบชั่วชีวิตก็หาคิดได้ไม่
    
    
    
    
    นอกเสียจากว่า..
    เพียรสร้างกุศลภาวนาสมาธิ
    เลือกที่จะทำเสียตั้งแต่วันนี้
    ก่อนที่จะสายเกิน
    
    
    
    เลือกโลก แห่งงามใจงามจิต
    ให้คิดดีคิดได้
    ให้คิดให้คิดเป็น
    ให้คิดเย็นดับทุกข์รัก อันร้อนเร่าราวนรก
    และ
    มีผู้คนมากมายที่ได้พบทางแห่งงามว่างงามเงียบนั้น
    
    
    
    
    และ
    สำหรับ
    ใบบัว...ก็ฝันอยากจะเป็นหนึ่งในนั้น
    และแสนโชคดีที่เธอ
    ยังมีบุญเก่าราวปาฎิหารย์
    มาน้อมนำให้เธอหันมาเลือกโลกธรรมโลกทอง
    โลกอันผ่องแผ้วพิสุทธิ์ใสแสนร่มเย็น
    
    
    
    หลังจากเย็นวันหนึ่ง
    ที่เธอตะลึง
    เมื่อได้ตระหนักถึงสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น
    ในเย็นวันที่เธอเหนื่อยล้าจากงานประจำ
    และ
    เป็นวันที่รุ่นพี่ที่ทำงานระดับชาติ...
    
    หาใช่พวกมัวเมาไม่
    ได้พาเธอไปย้อนรอยพบเงาในอดีต
    ที่เธอมิอาจคาดคิด
    
    
    
    วันที่ฟ้ายามเย็น
    ยังเทาทึมด้วยละอองควันพิษตามชีวิตในเมือง
    
    วันที่เธอ ได้ตามติดรุ่นพี่
    ไปรับการพยากรณ์ทายทักจากผู้มีศีล
    หากสามารถล่วงรู้ดูดวงชะตาผู้คนได้
    
    
    เขา..มองหน้าใบบัวนิ่งนาน
    ก่อนจะขานคำทำนายชะตา
    
    
    
    *คุณคือผู้หญิงโบราณในสมัยราชวงค์อยุธยา
    ยุคระหว่างพระเจ้าปราสาททอง
    และกลับชาติมาเกิด*
    
    *คุณทราบไหม
    หลังจากคุณเดินทางไปอยุธยา*
    *นะวันนี้มีคนคอยติดตามมาปกป้องคุ้มครองอารักขา*
    
    *คุณเคยมีสัญญาระลึกรู้ล่วงหน้าบ้างไหม*
    
    
    
    นาทีนั้น...
    หัวใจใบบัวเต้นระทึกด้วยนึกไม่ถึง
    
    ว่าตัวเธอเองนั้น ...
    เคยคะนึงเห็นบางสิ่งบางอย่าง
    มาตรแม้นไม่กระจ่างใส
    
    หากเธอเพียงผู้เดียวที่รับรู้ยามอยู่ลำพัง
    กับสิ่งรายรอบตัวที่ดูพร่าเลือนมานาน
    ราวกับมีฌาณหยั่งรู้ 
    
    และนะบางที
    ราวมีภาพบางภาพมาฉาบฉิวให้เห็น
    
    
    
    *ให้คุณรีบไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดอัมพวัน*
    *ณ.ที่นั่นคือรอยบุญ
    จะหนุนนำทางให้คุณตามรอยธรรมรอยทอง
    ให้คุณรู้ค่าคำวิปัสสนาสมาธิ
     และ
    นิมิตรแสนดีจะปรากฎตามมา
    พาให้จิตใสสว่างกระจ่างพอที่มองเห็นทุกสิ่ง
    
    
    
    ที่เหลือเพียงรอวันเวลา
    ให้จิตคุณได้บำเพ็ญเพียรมีบารมีมากพอ
    
    อย่าท้อรีบเร่งเพียร
    และเข้าสู่ร่มธรรมร่มทองเสียนะบัดนี้*
    
    
    
    ใบบัว..
    งงงันกับสิ่งเหล่านี้ราวมหัศจรรย์ฝันไป!!
    
    ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่
    ชีวิตจิตร่างเธอพบแต่พลังปิติเกษม
    และ
    มีแต่สิ่งแสนดีมากมาย
    มาทายทัก
    มีแต่คนรักคนชื่นชม
    สมกับที่เธอวางตัวได้อย่างงดงาม
    
    
    
    ใบบัว..เชื่อมั่น
    ในพลังแห่งคุณงามความดี
    ความศรัทธา
    ความปรารถนาดีที่อยากให้ผู้อื่นมีสุข
    
    ใบบัวคือพุทธศาสนิกชน
    ที่ยึดมั่นในพระรัตนตรัยและศีลเสมอมา
    
    
    
    และ
    นะวันนี้ 
    ใบบัวตัดสินใจจะไปบวช
    เพื่อหาแนวทางที่จะตามรอยธรรมรอยทอง
    
    ที่เป็นดั่งคันฉ่อง
    ส่องในครรลองแห่งงาม
    
    ที่รอสาดส่องพรายแพร้ว
    ราวแก้วดวงวิเศษรอวันนำทางจิต
    ให้ใสพร่างสว่างไสว
    ให้มีพลังจิตแน่วแน่
    
    
    จนกว่าในที่สุดจะพบทางหลุดพ้น
    พบความงามเย็น
    พบแดนดินอันเป็นนิรันดร์อันไร้ร่างว่างเปล่า
    อันคล้ายไม่มี  ตัวตน ..
    มีเพียงกมลอันสดชื่นฉ่ำเย็น
    ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข
    
    
    
    ที่เรียกว่าทางสายกลาง
    ที่วางว่างไร้ร้างเรียกว่าวิมุตติหยุดวนว่ายในทุกสิ่ง
    อันไม่จีรัง
    อันคืออนิจจังอนัตตา..
    อันคือความปรารถนาเหนือไม่ปรารถนา
    ที่จะค้นหาค้นพบได้ด้วยตัวเอง
    ด้วยความเพียรพยายาม
    ก่อนจะข้ามพ้นมหานทีสีทันดร
    ก่อนจะพบแดนดินนิรันดร์
    แดนดินแห่งฝันหากไร้ฝัน ในวันหนึ่งวันหน้า
    
    
    
    ณ..กาลเวลาที่ไร้รอยต่อ..ขอเพียงได้พบ..ประจักษ์จิตสักครั้ง
    
    ก่อนที่ผืนดินจะกลบหน้า
    ก่อนที่ดวงชีวาชีวิตจะสิ้นแสงตะวันลา
    ก่อนที่ดวงดอกไม้แห่งฝันขวัญ
    จะพลันพาร่วงโรยโปรยปราย
    ปลิดปลิวลงสู่พื้นพสุธาชั่วนิจนิรันดร์
    
    
    
    ให้ได้สมค่าคำมนุษย์ผู้พิสุทธิ์จิตพิสุทธิ์ใจ
    ได้พบพุทธศาสนาในชาติหนึ่งนี้..อย่างไม่เสียชาติเกิด..
    
    
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1822.html
     น้ำค้างในใจ   
    
    กับบางวัน
    วันที่ดู มันร้อนแรง
    เหมือนมี เปลวเพลิง
    ที่ลุกลาม
    ให้เธอ มองดู
    กิ่งใบ พฤกษ์ไพร ยังงดงาม
    ด้วย น้ำค้างพราว
    ถ้ายามใด
    ในจิตใจ เธอร้อนเกิน
    ท่ามกลาง ทางเดิน ที่ร้อนรน
    ทุกข์ประดัง จนเกิน จะฝืนทน
    ทั้งล้า และอ่อนแรง
    ให้เธอ รับรู้ ว่ามี
    น้ำค้าง ในใจเธอ
    ที่อยู่ ในใจ เสมอ
    ทุกคืน ทุกวัน
    ดับไฟ ที่สุม จิตใจ
    แรงร้อน ในบางวัน
    ให้ มลายไป ด้วยหยดน้ำ
    น้ำ ค้าง ในใจเธอ
    ไม่มีวัน วันที่ใจ
    จะร้อนเกิน
    ไม่มี ทางเดิน ที่ร้อนไป
    เพราะเธอมี
    หยดหนึ่ง น้ำค้างใจ
    ที่ช่วย ให้ฉ่ำเย็น
    ให้เธอ รับรู้ ว่ามี
    น้ำค้าง ในใจเธอ
    ที่อยู่ ในใจ เสมอ
    ทุกคืน ทุกวัน
    ดับไฟ ที่สุม จิตใจ
    แรงร้อน ในบางวัน
    ให้ มลายไป ด้วยหยดน้ำ
    น้ำ ค้าง ในใจเธอ
      
    ถ้ายามใด
    ในจิตใจ เธอร้อนเกิน
    ท่ามกลาง ทางเดิน ที่ร้อนรน
    ทุกข์ประดัง จนเกิน จะฝืนทน
    ทั้งล้า และอ่อนแรง
    ให้เธอ รับรู้ ว่ามี
    น้ำค้าง ในใจเธอ
    ที่อยู่ ในใจ เสมอ
    ทุกคืน ทุกวัน
    ดับไฟ ที่สุม จิตใจ
    แรงร้อน ในบางวัน
    ให้ มลายไป ด้วยหยดน้ำ
    ให้เธอ รับรู้ ว่ามี
    น้ำค้าง ในใจเธอ
    ที่อยู่ ในใจ เสมอ
    ทุกคืน ทุกวัน
    ดับไฟ ที่สุม จิตใจ
    แรงร้อน ในบางวัน
    ให้ มลายไป ด้วยหยดน้ำ
    ให้เธอ รับรู้ ว่ามี
    น้ำค้าง ในใจเธอ
    ที่อยู่ ในใจ เสมอ
    ทุกคืน ทุกวัน
    ดับไฟ ที่สุม จิตใจ
    แรงร้อน ในบางวัน
    ให้ มลายไป ด้วยหยดน้ำ
    ให้เธอ รับรู้ ว่ามี
    น้ำค้าง ในใจเธอ
    ที่อยู่ ในใจ เสมอ
    ทุกคืน ทุกวัน
    ดับไฟ ที่สุม จิตใจ
    แรงร้อน ในบางวัน
    ให้ มลายไป ด้วยหยดน้ำ
    น้ำค้าง ในใจเธอ...
    
    ...................
    
    
    
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song101.html
    หยาดเพชร   
    
    เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
    หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
    หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
    ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
    หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก
    ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้
    หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส
    นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน
    แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
    ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น
    ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
    มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
    เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
    เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
    หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส
    แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
    
    แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
    ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น
    ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
    มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
    เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
    เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
    หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส
    แม้นอยู่ใน ความ มืด มน...
     
     
    
    97989238ouxsQB_ph.jpgIMG_0096.jpgR813-37.jpg
  • ก่องกิก

    15 สิงหาคม 2550 13:28 น. - comment id 738598

    แวะมาทีไร หัวใจออุ่น
    16.gif
  • ดอกบัว

    15 สิงหาคม 2550 13:52 น. - comment id 738602

    เกินคำอธิบายในบางสิ่งบางอย่างนะค่ะพี่พุด
    สวัสดีค่ะพี่พุด
    พี่เขียนเหมือนสัมผัสได้กับสิ่งที่ยากอธิบาย
    บัวขอให้พี่พุดสมความปรารถนา
    ในสิ่งที่พี่ตั้งใจค่ะ
    57.gif46.gif36.gif
  • แสงเหนือ

    15 สิงหาคม 2550 15:01 น. - comment id 738616

    แม้มิได้เป็นบัวบูชาพระ
    ก็สวยสะ กลางน้ำปริ่มริมบึงใส
    แม้ไม่มี ใครเห็น ไม่เป็นไร
    เพียงสุขใจ ได้แอบอิง พิงใบบุญ..
    
    (ทำดีไม่ต้องมีใครเห็น)
    
    ช่วยบอกวิธีลงภาพ หญ่าย ๆ 
    และ ลงเพลงของเราเอง ได้ไหมครับ
    ขอบพระคุณล่วงหน้า....
    ....24.gif
  • แก้วนีดา

    15 สิงหาคม 2550 15:06 น. - comment id 738617

    สวัสดีค่ะพี่พุด ไม่ได้เข้ามาอ่านกลอนของพี่พุดเสียนาน เพราะงานยุ่งๆ วันนี้ได้เข้ามาอ่านต้องบอกว่า...โห...พี่พุดยังคงเขียนได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย และยังมีรูปสวยๆให้ดูมากขึ้นอีกด้วย...11.gif
  • แทนคุณแทนไท

    16 สิงหาคม 2550 10:10 น. - comment id 738903

    งดงาม ใครจะเลียนก็มิเหมือน36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    
    สวัสดีครับ
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    16 สิงหาคม 2550 12:27 น. - comment id 738961

    เห็นดอกบัวเลือนลางอยู่กลางบึง
    จะเอื้อมเด็ดไม่ถึงสุดมือสอย
    ปล่อยภู่ผึ้งคลึงเคล้าเฝ้าแลคอย
    กลีบบัวลอยโรยร่วงแสนห่วงนัก
    
    อยากบุกบั่นลุยโคลนโผนเข้าเด็ด
    ต้องขามเข็ดเพราะมีอุปสรรค
    ข้อสำคัญมั่นใจบัวไม่รัก
    จึงทุกข์หนักบัวโรยโหยแห้งใจ
    
    ให้มีคุณประโยชน์เพียงบูชาพระ ?

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน