นั่งรอท่าจันทราแย้มเยือนโลก ดับเหงาโศกโลกแล้งทุกแห่งหน ได้แบ่งฝันปันดีเกื้อกมล ลืมทุกข์ทนรายรอบเฝ้าปลอบใจ คือธรรมชาติสัจจธรรมล้ำค่ายิ่ง ทุกสรรพสิ่งมิเคยหยุดเคลื่อนไหว เกิดมาตั้งอยู่แล้วดับไป บทสอนใจเรียนรู้คู่มือมนุษย์ ทุกข์และสุขคู่กันไปในชีวิต ถูกหรือผิดโลกบรรเลงเพลงสมมุติ ไม่หลงมั่นฝันเพียงปองครองวิมุตติ หวังให้หลุดพ้นจากบ่วงรักพันธนา ไร้ตัวตนวิบากใดไม่ตามทัน อยู่กับปัจจุบันอันงามงดเหนือปรารถนา รักนิรันดร์ปันแบ่งด้วยเมตตา ตถตาทุกสิ่งนิ่งวางว่างณ..กลางใจ..! อย่าร้องไห้เพื่อฉัน..นะเชน! ปริมกำลังเดินทางไปสุราษฎร์ธานี.... กับเที่ยวบินของสายการบินไทย....... ด้วยใจ ที่เต็มไปด้วยความสุข.......... จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไรเล่า........ เมื่อมีหนุ่มคนดีของปริมรอรับอยู่ที่นั่น .......... ปริมรอเวลานี้มาแสนนาน..... เวลาที่จะโผเข้าสู่อ้อมกอดอันแข็งแรง และอบอุ่นของคนที่ปริมรัก และภักดีด้วยใจทั้งดวง......... ........ หนุ่มคนซื่อของปริมถูกย้ายไปทำงานที่นั่นในตำแหน่ง.. เจ้าหน้าที่ที่ดินประจำอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง........... ........ ปริมรักกับเชนมานานหลายปี ตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ เชนเป็นทั้งเพื่อน...ทั้งพี่ ผู้แสนจะอ่อนโยน..ใจดี.. .และ..เชนไม่เคยห่างหายไปจากชีวิตของปริม ไม่ว่าในยามใดที่ปริมต้องการ.......... นานหลายเดือน......... ที่ปริมรู้สึกมีบางสิ่งขาดหายไปจากชีวิต....ไม่มีเชนคอยชิดใกล้....ช่วยเหลือ.......ทุกเย็นเชนจะขับรถไปรับปริมจากโรงเรียนอนุบาลเล็กๆ ที่ปริมสอนอยู่......... เชนหัวเราะง่าย...ใจดีนักหนา จะมีขนมไปแจกเด็กๆ..... และบางครั้งจะแอบพ้อกับปริม....เมื่อไหร่หนอ.... ปริมจะใจอ่อน..ยอมรับคำขอแต่งงานของเชนสักที....... ปริมจะได้สอนลูกของเราเองบ้างนะ.... ปริมสับสน.......ปริมเพียงแต่รอบคอบ... ใจแข็ง..เพื่อจะรอให้ทุกอย่างลงตัวมากกว่านี้..... .ปริมอยากมีเงินเก็บสักก้อนเพื่อจะได้เริ่มชีวิตใหม่ที่แสนจะสวยงาม......... แต่.......... วันนี้ปริมพร้อมแล้ว เชนทำให้ปริมไม่รีรออีกแล้ว...... ตั้งแต่เชนจากไป...ปริมรู้สึกโลกนี้ช่างว่ างเปล่า... เดียวดาย ไร้หวัง ซะเหลือเกิน จดหมายเชนที่เล่าถึงสภาพความกดดัน..... ของการเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ตงฉินของเชน แต่ไปขัดผลประโยชน์ของ ผู้มีอิทธิพล ทำให้ปริมรู้สึกร้อนรุ่มใจ............ .และยิ่งเชนพร่ำพรรณนาถึงความคิดถึงปริมอย่างมากมาย........... ในคืนวันที่เดียวดาย........ในอำเภอเล็กๆ ซึ่งห่างไกลความเจริญ.. โดยที่ไม่มีปริมเคียงข้าง........... เดือนก่อนเชนขึ้นมาหาปริม และก่อนจากลา...... เชนดึงปริมเข้าไปกอด ...พร้อมกับทำให้ปริมประหลาดใจ ด้วยการสวมแแหวนวงเกลี้ยงให้ปริมที่นิ้วนางซ้าย....... .เชนกระซิบบอกว่า..นี่คือแหวนหมั้นจากหนุ่มข้าราชการคนจน..... และคิดว่าถ้าปริมยินดี ก็ให้สวมมันไว้........ จนกว่าจะถึงวันนั้น..ของสองเรา ปริมน้ำตาซึม...โลกทั้งโลกตรงหน้าที่เคยว่างเปล่า................ เมื่อขาดเชน......กลับสว่างไสวโดยพลัน..... .ปริมรู้..นับจากนาทีนั้น..ว่าปริมขาดเชนไม่ได้ .. และจะไม่มีวันทำให้เชน...ต้องรอคอยอีกต่อไป.......... ปริมตัดสินใจในวันนี้....เพื่อจะบอกเชนว่า.. ปริมจะไม่จากไปไหน ปริมเพียงแต่ขอให้เชนจัดพิธีมงคลเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของการเริ่มชีวิตคู่ ..... เพื่อการเริ่มต้นที่งดงามในชีวิตหนึ่งนี้....... ปริมรู้ว่าเชนรอคำตอบนี้........มาแสนนาน................... เชนคงจะยิ้มแก้มปริ และคงจะกอดปริมแน่นด้วยความดีใจ................ ปริมเหลือบดูแหวนอีกวงที่ปริมสวมคู่กับแหวนของเชน... ที่ปริมตั้งใจจะมอบให้เชน..และจะบอกคนที่ปริมรักดังดวงใจว่า................ เราจะไม่มีวันพรากจากกันอีกตราบชั่วนิรันดร์ ................ ปริมหลับตาคิดและฝัน..... รอที่จะให้ถึงเวลาแห่งความสุข รอเวลาที่เครื่องบินจะแตะรันเวย์...... และปริม...... จะได้โอบกอดใครบางคนแนบแน่นเท่ากับแรงใจแห่งรักที่มี ........ ปริมจะสร้างชีวิตใหม่.......ชีวิตที่สมถะ เรียบง่าย...งดงาม..มากล้นด้วยความรัก .....ความเข้าใจ......กับเชน...........ปริมจะเนรมิตให้บ้านเล็กๆริมลำคลองในชนบทแห่งนี้....ให้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา....... ปริมจะปลูกผักสวนครัวมุมหนึ่งของบ้าน.......เย็นๆปริมจะขอให้เชนดูแลรดน้ำให้..........และปริมจะปลูกไม้ดอกที่จะออกดอกชูช่อสวยงาม.....จนกลายเป็นบ้าน.....ในดงดอกไม้นานาพรรณ......... เย็นๆปริมจะทำกับข้าวที่เชนชื่นชอบไว้รอท่า..........และเมื่อค่ำคืนมาเยือนปริมจะออกมานอนชานระเบียงเพื่อชื่นชมดาวเดือน ในอ้อมกอดของคนที่ปริมรักนักรักหนา................. ปริมฝัน..........และฝัน.................จนนาทีสุดท้ายของชีวิตที่ปลิดปลิว................ .......... สถานีข่าวทุกหนแห่งในประเทศไทย.....กำลังแพร่ภาพออกไปพร้อมข่าวด่วน........เครื่องบินของสายการบินไทย..ตกที่สุราษฎร์ธานี..ตอน 3ทุ่ม..ขณะที่ฝนตกหนักและมีพายุ..........และหนึ่งในรายชื่อผู้โดยสาร.......มีชื่อของนางสาวปริม บุรีรักษ์ .................................................................................................................................. เขียนจากความทรงจำอันเจ็บปวด จากการสูญเสียคนที่รักไปด้วยเหตุการณ์ในวันนั้น
1 สิงหาคม 2550 23:06 น. - comment id 732581
มาช่วยแบ่งเบาความเศร้าในใจค่ะ..พี่พุด
1 สิงหาคม 2550 23:28 น. - comment id 732587
ที่สุดแห่งที่สุดคือ ตัวตนที่เป็นที่รักพอใจของทุกๆคนในโลก บอกว่าเราดี เราเก่ง เราประสบความสำเร็จ มีเมตตาสูงส่ง ทำเพื่อสังคมและเพื่อชาติ คำชมอีกมากมายมหาศาล แต่สิ่งต่างๆเหล่านี้ เข้าสู่จิต และ บอกว่าเป็นสุข แต่ถ้าสังเกตให้ดี มันก็แค่ชั่วอึดใจ พยายามให้อยู่นานแสนนานในภายนอก แต่ภายในความสุขดับลงแล้ว และก็สร้างตัวตนว่า คราวหน้าต้องให้ได้คำชมมากกว่านี้ จะได้มีความสุขมากกว่านี้ แล้วก็ย้อนรอยเดิม คือ เกิดขึ้นเดี๋ยวเดียว แล้วก็ดับไปอีกแล้ว นี้คือสิ่งที่เป็นความปราถนาสูงสุดของความเป็นมนุษย์ ยังเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะบังคับความสุขให้อยู่กับเราตลอดไปไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับปุถุชน คนธรรมดา ที่ทำดีบ้าง ทำเลวบ้าง จะได้รับความสุขอย่างไร ความทุกข์อย่างไร แต่ทั้งหลาย ก็ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และ บังคับบัญชาไม่ได้ สรุปรวมความแล้ว จะสร้างตัวตนหรือ อัตตาให้มากมายทำไม เพราะยิ่งมาก ก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งก่อกรรม ไม่มีวันสิ้นสุด เลยละคลายตัวตนออก สู่ความไม่มีตัวตน ก็เลยไม่มีที่แบกทุกข์และแบกสุขอีกต่อไป สู่ความว่างจากภายใน สงบนัก เยือกเย็น เช่นนั้น ตลอดไป อุปมากับงานเขียนของพุด ชัดเจนในธรรมดาโลก ที่ยังมองเห็นทุกข์ได้ชัดเจน ยอมละคลายตัวตนสู่ความว่าง เป็นการคลายทุกข์อย่างแท้จริง ขอชื่นชมงานเขียนที่มีคุณค่านี้
2 สิงหาคม 2550 00:07 น. - comment id 732604
ดวงจันทราจะมาให้เห็นหรือไม่มาก็ตาม พระราชยัญญัติเพื่อความสงบเรียบร้อยในการลงประชามติรับหรือไม่รับรางรัฐธรรมนูญกำลังมีผลบังคับใช้เดี๋ยวนี้แล้ว อิอิ
2 สิงหาคม 2550 16:25 น. - comment id 732935
ความทรงจำบางครั้งทำให้รามีความสุขที่นึกถึง บางทีมีความจ็บปวดปนเศร้าเข้ามาหา บางครั้งกลับอย่างปลดปล่อยจากพันธนา แต่บางคราอยากจดจำจารึกไว้ ด้วยรักและเคารพพี่พุดเสมอมา กระต่ายใต้เงาจันทร์
2 สิงหาคม 2550 17:02 น. - comment id 732961
เหนือดวงชีวา ข้านี้จักพร้อมยอมพลี.... เศร้าจังค่ะพี่พุด... พี่พุดรักษาสุขภาพนะคะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ๆ