http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html (บทเพลง ณ..วันนี้) ณ.... ตรงนี้..ที่ที่ดินสวยสุด ด้วยเป็นเนินสูง แลลาดไล่ละลดหลั่นลงไป คือเวิ้งหุบเขาที่เต็มด้วยดงสัปปะรด ตะวันกำลังจะลาลับฟ้า ได้ยินเสียงเพลงลอยลมเหว่ว้าหวานแว่ว มาคลอใจ..ออดอ้อนใจ ไผ่ป่ารายรอบระบัดกิ่งไกวไหวเสียดสีราวเสียงทิพย์ไพร ฟ้าใกล้ค่ำ กำลังเล่นแสงแปรสีสาดส่องผ่านม่านเมฆราวเรียวรุ้ง นี่ประดุจดั่งวิมานรุกขเทวาขวัญป่าเขา ในเงื้อมเงาแห่งวิมานมนตราทวารวดี ที่แสนสงบงามเป็นยิ่งนัก... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song193.html รังรักในจินตนาการ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1933.html วิมานดิน คือเส้นทางสายรุ้งแห่งความสุข คือวิมานรุกขเทวาขวัญป่าเขา คือร่มรื่นท่ามแมกไม้ในลำเนา ในเงื้อมเงา*มนตราทวารวดี* มาสถิตทายทักให้พักใจ กับเรือนไทยเรียบง่ายงามเงียบนี้ ทะเลหมอกหยอกไศลฝากชีวี มหัศจรรย์ฝันวันแสนดีริมสายธาร พะยอมไพรรายรอบหอมอวลกลิ่น มาประทิ่นประทับหวานแสนหวาน ใช้ชีวีเหนือโลกย์ทิ้งโศกราน กับสายธารนิรันดร์ขวัญหอมทรวง รับอรุณอุ่นไออาบแสงทอง วิหคไพรพร้องร้องระงมราวฝันสรวง เด็ดดอกไม้ริมชายสวนหอมอบอวล แล้วก็ชวนเกี่ยวก้อยกันไปวัด กราบพระพุทธปฏิมาในโบสถ์คร่ำ แล้วน้อมนำวัฏฏปฏิบัติ ศีลสมาธิปัญญาสว่างชัด สงบสงัดท่ามวิมานหล้าทวารวดี วางมาลัยริมหมอนก่อนหลับฝัน แสนเงียบงันงดงามหนึ่งชีพนี้ คือสวรรค์ฝันให้ถึงนะคนดี มนตราทวารวดีพาเพียรพลีพบทางธรรม..นำนิพพาน....! ดวงตะวันลา กำลังลอยดวงเรี่ยเหนือทิวเขา ที่ทอดตัวราวดั่งพญานาคราช รออำลาอาลัยแผ่นหล้าผืนพสุธาไทย แล้วให้คำมั่นสัญญา ว่าจะคืนกลับมาใหม่ กับรุ่งอรุโณทัยแผ่นดินแม่ แห่งความร่มเย็นเป็นสุขสืบมาช้านาน เขา...ยืนอยู่ตรงนี้ ..... ชานไม้ที่ต่อทอดตัวโอบกอด*เรือนมนตราทวารวดี* บ้านเรือนไทยประยุกต์ที่เขาได้บรรจงออกแบบ โดยการผสานผสมจิตวิญญาณทั้งตะวันออกและตะวันตก ให้ผู้อยู่อาศัยได้พบกับความอบอุ่นแสนสบาย เขา..ตั้งใจ จัดสวนตรงหน้า..*ประหนึ่งสวนฝัน* ปานประดุจดั่งวิมานแก้ววิมานทิพย์ ดั่งสวรรค์เนรมิตร สวนทิพย์สวนขวัญ มากำนัลมามอบให้ด้วยมากเมตตา วิมานดิน..กระท่อมทิพย์มนตราทวารวดี ที่งามล้ำเคียงหล้าเคียงใกล้ทะเลสาบสีเงินงาม นามแก่งกระจาน ที่ยามแสงสุริยาส่องแสงพรายพร่างงามระยับระยิบ ดั่งมือนางฟ้าเพิ่งมาปรายโปรยเกร็ดเพชร ลงในท้องน้ำเบื้องล่าง..ให้งามพรายอย่างหาที่ติไม่ได้ และ.. เขาได้บรรจงวางผัง อาคารเป็นสไตล์ล้านนาท้องถิ่น จำลองมา ให้ราวแยกเป็นสองส่วน มีอาคารหลักราวแบบวิหาร และ มีอาคารเปิดโล่ง โปร่ง เพื่อเปิดรับสายลมเย็นและกลิ่นไม้หอม ดวงดอกไม้ป่าดวงดอกพุด ที่กำลังล่งกลิ่นสะพรั่งรินอวลมาเป็นระยะๆ กับสายลมหนาวในยามค่ำ ที่ตะวันดวงโตสีไพล กำลังค่อยๆผันดวงลงสู่ทิวเขาอย่างละมุนละไม อีกอาคารรองถัดมา มีลักษณะเป็นศาลาบาตร สำหรับรับรองแขก ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ เพราะ มีเตียงสี่เสาและตั่งสำหรับนั่งเอกเขนก มีหมอนขวานหมอนอิง ที่ใช้ผ้าไหมหลากสีมาประดับตกแต่ง แบบตะวันออก อาคารและการก่ออิฐถือปูน การใช้ไม้ในการปลูกสร้าง เป็นการยืนยันเอกลักษน์ของสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ที่ดัดแปลงให้เข้ากับการใช้งานจริง มีหน้าบันวิหารเก่าแบบล้านนา เครื่องเรือนอื่นๆเช่นตู้ โต๊ะ ตั่งเตียง ก้ล้วนแล้วแต่ใช้ช่างฝีมือพื้นถิ่นทำ เพื่อรักษาวิถีภูมิปัญญาไทย รวมทั้งงานศิลปะยุคทวารวดี รูปสลักหินทุกทุกชิ้น ที่สื่อแสดงความเป็นไทยโบราณ ย้อนรอยอดีตอันงดงาม..แต่กาลก่อน ที่วางประดับตามสวนในมุมต่างๆ ที่นะบัดนี้ สายแสงเทียน กำลังอวดแสงโชนจากทุกดวงโคมไผ่ ที่ซุกซ่อนไว้ตามสุมทุมพุ่มพฤกษ์ และ กำลังถุกจุดขึ้นทำหน้าที่พร่างไสววะวูบวับ รับล้อกับตุงผ้าฝีมือประดับไปรายรอบเรือน และ ที่แสนงามใจอย่างที่สุดคือ มีชานเรือนไม้ที่ยื่นชิดออกไป ให้คลอชิดใกล้ลั่นทมหลากสี ที่เคลียใกล้ชายคาแห่งรักแห่งฝัน และ ราวกับกำลัง ได้ยินเสียงมหากาพย์ดนตรีแห่งพงไพร และเสียงแห่งสายน้ำที่ราวกำลังร้องเพลงเห่ครวญ ให้สุดหวนไห้ในดวงใจอย่างหวานเศร้าละมุน ในท่ามกลางความสงบสงัด และมีเสียงเรไร จั๊กจั่น กำลังช่วยบรรเลงเพิ่มเติมตามต่อคลอใส ด้วยเสียงหวานหวานหวาน ในท่ามกลางนวลพรายสายแสงจันทร์ ที่กำลังลอยเลื่อนพ้นดงไม้รำไรๆ ข้ามพ้นขอบโค้งภูเขามาอย่างช้าๆ ในคืนหนาว ที่ดาวกำลังระดะดวงเต็มอ้อมฟ้าอ้อมฝัน ที่นางฟ้าได้มาปันโปรยหว่านหวาน ให้ทั่วทั้งท่องนภาฟ้ากว้างราวมีทางช้างเผือก ประดับประดา กับทุ่งดวงดอกหญ้า ทุ่งดอกไม้ป่าดอกไม้ไพร กับเถาวัลย์ที่กำลังพันเลื้อย ออดอ้อนกิ่งมะลิวัลย์ กับเสียงวิหคไพร ที่กู่ก้องร้องเพลงหวานแสนหวานมาจากแมกไม้ กับมนต์หวานในม่านเมฆงามเงา กับกลิ่นของความเป็นชนบท และ ที่สำคัญที่สุดคือกับความงดงาม แห่งเนื้อใจของผู้อันเป็นที่รักภักดิ์พลี ที่ได้มีโอกาสมายืนชื่นชมฝันอันเป็นจริง.. ร่วมกันเคลียคลอชิดใกล้ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=82 รักข้ามขอบฟ้า ขอบฟ้า เหนืออาณาใดกั้น ใช่รักจะดั้น ยากกว่านก โบยบิน รักข้ามแผ่นน้ำ รักข้าม แผ่นดิน เมื่อความรักดิ้น ฟ้ายังสิ้นความกว้างไกล ขอบฟ้า ทิ้งโค้งมาคลุมครอบ อ้าแขนรายรอบโอบโลกไว้ ภายใน เหมือนอ้อมกอดรัก แม้ได้ โอบใคร ชาติภาษาไม่ สำคัญเท่าใจตรงกัน รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือ สื่อภาษาสวรรค์ อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์ ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือสื่อภาษาสวรรค์ อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์ ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว... และกับ ริมเรือน...ราตรีนี้ ที่ดวงดอกลีลาวดี กำลังทิ้งช่อฟ้อนกิ่งใกล้กระจกหน้าต่างห้องนอน บานกว้างยาวจรดพื้น ที่ทุกคืนรอออดอ้อนเห่กล่อมให้สนิทในนิทราอย่างฝันดี ท่ามแสงเทียนทอที่ถูกจุดไว้ตามมุมต่างๆให้ละออใจ ให้ละมุนใจ จันทร์เสี้ยวกำลังโผล่พ้นเรียวฟ้า แย้มยิ้มกับมวลดวงดาราอย่างอารมณ์ดี ฟ้ากำมะหยี่ค่อยๆคลี่คลุมไปทั่วทั้งเนินเขา สายแสงจันทราเริ่มสาดส่องพลังสีเงินยวง ไปทั่วทั้งปวงป่าไพร ปลอบประโลมให้มวลหมู่สรรพสัตว์ ได้พักผ่อน หลังจาก.. บินเร่ร่อนรอนแรมพเนจรออกล่าเหยื่อ เสมือนเสมอ.. ชีวีของเขาคนดี.. ที่ณ..วันนี้ ได้...คลี่ยิ้มด้วยความเอมอิ่ม..ปิติใจ กับวันหนึ่ง..วันนี้...ที่รอคอย...! ......................... ........................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4258.html ณ.วันนี้ ญ ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น นานแสนนาน ฮืม จึงมาเจอกัน คล้ายบางสิ่งผูกพัน ร้อยใจเราร่วมกัน ช ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา ช ฝากคำสัญญา ฝากวาจา รักเธอไม่เสื่อมคลาย ญ หมื่นพันสัญญา ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ ช รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน ญ คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ และหวังเพียงได้ครอง รักจนตราบนานตลอดไป ช ฝากคำสัญญา ฝากวาจา รักเธอไม่เสื่อมคลาย ญ หมื่นพันสัญญา ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ ช รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน ญ คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ และหวังเพียงได้ครอง รักจนตราบนานตลอดไป นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ และหวังเพียงได้ครอง รักจนตราบนานตลอดไป...
15 มิถุนายน 2550 22:28 น. - comment id 710777
วิมาน ทวารวดี จากวิมานในฝันอันนานแสนนาน กำลังจะกลายเป็นจริง เร็วๆนี้ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ พากเพียร จักเป็นสถานที่พักผ่อน สงบนิ่งอยู่กับธรรมชาติ ที่ใกล้แค่เอื้อม ห่างจากกรุงเทพเพียง ๒ ชั่วโมง ในเส้นทางการเดินทางผ่านทุ่งนา ป่าดงตาลที่หาดูได้ยากยิ่ง เลียบเคียงด้วยบึงบัวเลียบถนนคลองชลประธาน มองผ่านข้ามทุ่งนาเขียวขจีที่สวยงามดั่งภาพวาด ใครอ่านถึงตรงนี้คงอยากจะไปสัมผัสด้วยตนเองแล้วสินะ ก็เป็นเส้นทางสู่แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จะได้พบความงามอัศจรรย์แห่งทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย และ ในโลก มีเส้นทางท่องเที่ยวชมทะเลหมอกที่พะเนินทุ่ง ป่าไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ผีเสื้อธรรมชาตินาๆพันธุ์ที่หาชมที่ไหนไม่ได้ ที่บ้านกร่าง หรืออยากล่องแก่ง ชมน้ำตก แต่ที่จะทำให้ธรรมชาติเหล่านี้งดงามและกลมกลืนคือ บทกวีที่เขียนจากหัวใจของพุดพัดชา ช่างงดงาม อ่อนโยน สละสลวยยามได้อ่านด้วยความปลาบปลื้มที่สุด ขอขอบคุณจากที่สุดแห่งหัวใจ
15 มิถุนายน 2550 22:53 น. - comment id 710779
16 มิถุนายน 2550 02:37 น. - comment id 710788
ภาพสวยจังครับ
16 มิถุนายน 2550 09:27 น. - comment id 710831
ไปค่ะ ... ยกมือคนแรก เลย
16 มิถุนายน 2550 12:58 น. - comment id 710870
ผมก็อยากจะไป นอนหลับไหลในอ้อมกอดของธรรมชาติ เหมือนกันครับ คงต้องหา โอกาสเหมาะๆ ************************************** ด้วยความเคารพ ************************************* ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี ************************************ http://wwwthaiallnet
16 มิถุนายน 2550 22:14 น. - comment id 710937
สวยจัง