คลี่ยิ้มรับอรุณ รับดวงดอกไม้หอมกรุ่นฟ้อนฟ้า มาลัยริมชายหมอนเคียงนิทรา ยังฝากค่างดงามท่ามโลกลวง นั่นนกน้อยถลามาทายทัก กระซิบภักดิ์กิ่งจำปียังห่วงหวง โมกพริ้งพราวยังแน่นกอรอวันร่วง และ.. โน่นพวงดวงดอกแก้วระยับระย้ารอท่ารอ คนดี..ในดวงใจ ถึงพรากไกลสุดขอบฟ้าใจมิท้อ ยังละเมอเธอคืนเรือนคุ้มขวัญพนอ อธิษฐานขอพระพุทธพิสุทธิ์ดล... มาเคียงหมอนนอนชมมวลไม้หอม หมู่พะยอมคลี่แย้มพวงรับหยาดฝน มาเกาะเกี่ยวกุมมือไปฟังธรรมงามกมล มิว่ายวนเวียนวิบากกรรมซ้ำรอยรักพันธนา....นิรันดร์! .................... หอมเอยหอมกลิ่นการเวก ราวมนต์เสกในคืนหวานเสน่หา ดลดวงจิตสนิทนวลนัยนา เกินจักกว่าหยาดน้ำผึ้งตรึงตรา หากหอมใดไหนเล่าเท่าหอมภักดิ์ เมื่อตระหนักเนื้อแท้หอมยิ่งกว่า หอมบุญหอมคุณความดีหอมศรัทธา เนาปรารถนานิรันดร์เจ้าขวัญดวง เคลียเคล้าภิรมย์ดอกไม้บูชา นิทราลอยล่องสวรรค์สรวง เกินกว่าทิพย์บุปผาทั้งหล้าปวง ดั่งดาวดวงดารารายหมายนำทาง คือทุกสิ่งแสนงามนิยามรัก วางใจภักดิ์แทบเท้าจักหมายสร้าง เคียงคู่ขวัญลบลืมโลกไร้ร้าง ในเส้นทางธรรมทองหมายครองดี ตราบชีพนี้...นิรันดร์..! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song198.html (อันเป็นดวงใจ...ปรารถนา) ....... หอม หอมบุญ...อุ่นอุษา... อุษาสางแล้ว เดือนดวงแจ่ม..ยังค้างฟ้า แม่ดวงดอกพุดไพร.... ลุกขึ้นมาเปิดเพลง..ครูทูล..ทองใจ และตั้งใจจะไปวัด... ลุกขึ้นมาจัดเตรียมสำรับ มาหุงข้าวใหม่มะลิหอม และ.... จัดเตรียมอาหารทั้งคาวหวานผลไม้ ไปน้อมนำใจ...ไปถวายพระบวชใหม่... ที่.. งามผ่องพราวไปทั้งลานธรรม จน..มลังเมลืองกลายเป็นลานทองผ่องพรายใต้ร่มไม้ ณ..ลานหินโค้ง.. ที่มิโล่งแล้ง กลับงามพราว...ระยิบพร่าง ด้วยใบไม้ไม้ใบนานาพรรณ ที่.... กำลังฟายฟ้อนอ้อนออดรับอ้อมอวลอุ่น จาก..พรายแสงแรกละมุนของดวงอาทิตย์อ่อนอุทัย ในยามอุษาฟ้าสาง... ที่ทั่วทั้งท้องนภางค์กระจ่างแจ้ง..จากนวลนภาเบื้องบน และ.. จากระยับจับจิตจากจีวรสงฆ์แจ่มจ้า ที่สะท้อนเงาแดดวะวูบไหวในท่ามเงาไม้ คล้ายดั่งดวงชีวี ได้ย้อนรอยถอยหลังกลับไปในสมัยพุทธกาล ยาม.. ที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จเทศนา..ในวันสำคัญๆ และ.. แทบทุกครั้งครา.. ในท่ามแมกไม้ไพรพฤกษ์ในแทบทุกถิ่นที่ แห่งแดนดินพุทธชมพูทวีปนี้.... ที่แสนเงียบงามสงบสุข.. ที่.. พระพุทธองค์ มิทรงหยุดท้อแท้ เพื่อจะเผยแผ่พระบรมศาสนา.. จนตราบล่วงลาถึงพระชนมพรรษาครบแปดสิบปี ... จน.. ตราบถึงวันที่.. *พระพุทธองค์ทรงบรรทมในท่าสิริไสยาสน์ ใต้ร่มเงาไม้สาละ...บนศิลาอาสน์ เพื่อทรงดับขันธ์ปรินิพพาน ใต้ม่านไม้ใบบัง...อันแสนหอมเศร้า..เคล้าความโศกสงบ แห่งหัวใจพระอรหันต์และชาวพุทธศาสนิกชน คนในชมพูทวีปมาอย่างยาวนานตราบจนกาลวันนี้.... และ... ตั้งแต่ยาม.. ที่ดวง พระประทีปแก้วแววประภัสสร ได้ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ได้... ทรงค้นพบอริยสัจจ์สี่ *ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค* อันคือสัจจะธรรมจริงแท้ และ.. พร้อมพลี.. เยื้องย่างอย่างแสนลำบากตรากตรำพระวรกาย เพื่อไปเผยแผ่...ในทุกธุลีหล้าใต้ฟ้าธรรม...ธรรมชาติ ให้.. ทุกผองชนในสมัยพุทธกาล..และนานเท่านาน มาถึงทุกผู้คนในทุกวันนี้ ได้พบเส้นทางอันแสนสะอาดสว่างสงบ ที่ณ..บัดนี้เรียกว่า.... สังเวชนียสถานทั้งสี่.... สถานที่ประสูติ ณ ป่าลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ เนปาล สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พุทธคยา อินเดีย สถานที่แสดงปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ อินเดีย สถานที่ปรินิพพาน ณ ป่าสาลวัน กุสินารา อินเดีย... ที่..น่าอัศจรรย์ใจนัก ที่พระสงฆ์จำนวนนับพัน จะ...พลันมาประชุมพร้อมกัน โดยมิได้นัดหมาย.. คล้ายปาฎิหารย์ จากบุญญาบารมีกฤดาภินิหาร จากพลังศรัทธาแห่งความเชื่อ ที่เหลือจะกล่าวอธิบาย...ผ่านคำว่า เหนือโลกย์ เหนือโศก สุขสิ้นแล้ว... ........................... และ.... วันนี้แม่ดวงดอกพุดไพรจึงตั้งใจ จะไปวัดเพียรปฎิบัติธรรม และ.. ตั้งใจจะทัดช่อละออเข็มขาว.. ให้หอมหวานบานพราวริมเรียวแก้ม และ.. แถมจะคลี่คลุมไหล่ด้วยผ้าสไบผืนนุ่มสีไพล ที่แสนจะบรรเจิดใจ บรรเจิดจิตแจ่มกระจ่างมาก ใน... ท่ามมวลอวลอากาศหนาว แล้ว.. เดินฝ่าม่านหมอกหยอกรวงเรียวดวงดอกข้าว ที่กำลังผลิพราวในทุ่งนา ใกล้...เมืองธานีแดนทอง ที่.. ยังคงเหลือผืนนาผืนน้อย คอยรอท่าท่านนายทุนมาหมุนหว่านเงินงาม กวาดล้างสร้างเป็นบ้านจัดสรร.. หาใช่..สวรรค์บ้านนาอีกต่อไปไม่แล้ว...! และ.. ราวดวงใจแม่ดวงดอกพุดไพร คิดขอให้.. เข็มขาวและข้าวนา จักพราวพาพร...ให้นำมาเพียรสอนสัจจะใจ ให้.. ไหวงามตามทันทุกผัสสะ มีสติปัญญา..บานเบิกตระการ แตกช่อดอกจิตกระจ่างสว่างไสว ไปในท่ามกลางความวายวุ่นแห่งวิถีผู้คน อันอลหม่านอลวนปากกัดตีนถีบ รีบร้อนทุรนทุราย คล้ายเต็มไปทั้งม่านมนต์เมืองมายา...เมืองฟ้าอมร.. แม่ดวงดอกพุดไพร จะ.. พาร่างใจที่แสนรักความเดียวดายดายเดียว และ...หัวใจดวงใสดวงดี..ไปถวายวัด ให้.. จิตภายใน.. รู้สึกสงบสงัด ชัดแจ่มด้วยพลังบุญ... ที่จักละมุน.. หมุนนวลเนื้อใจ ให้หอมกุศลเกษมไปตราบชั่วนิจนิรันดร์... แม่ดวงดอกพุดไพร จึงมานั่ง.บนหินใหญ่ใต้ร่มไทรใบหนา ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้นกกาอาศัย ในม่านไพรไหวย้อยห้อยรากราย ลงมาพรายปรายปกคลุม ในท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดกรูกราว พร่างพราว... ให้.. ใบไม้ใบนิดๆน้อยๆ ค่อยๆพร่างพลิกพลิ้วปลิดปลิว..ละลิ่วลอยลงมา ใน.. ท่ามสายแสงแดดสีทอง ละอองอ่อนอุ่นอาบทอทาบทามาในยามอุษา และราวกับว่า... นั่งอยู่ในท่ามป่าใหญ่ไพรกว้าง อย่างแสนสวยงามอ้างว้าง ให้ ดวงจิตดวงว่างยิ่งงามแสนงาม ในครรลองทองผ่องผุด ราว... *โลกตรงหน้ากำลังหยุดหมุน* ให้ น้อมรำลึกนึกย้อน *ตามรอยพระบาทองค์พระบรมศาสดา* องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปในยามสมัยพุทธกาล... และ... ในท่ามทิพย์นิรมิตใจนั้น..แม่ดวงดอกพุดไพร เห็นแสงจรัสจ้า... ประดุจดั่ง.. สายแสงเพชรพราวพรายฉายฉาน โชติช่วงจับฟากฟ้า จาก.. ปวงพลังแห่ง*พุทธธรรมทายาทรังสี* ที่.. พลีพร้อมใจกันมาบวชรวดเดียวกันถึงหกสิบสองรูป พลังจิตนั้น จึง.. พลัน...สว่างไสว..ดั่งมณีดวง ช่วงโชติ โรจน์รุ่งรัศมี ประดุจรัตนมณีแห่งนาคร ... ให้... ดวงใจอรชร..ในนาทีนั้น เกิดปิติบุญและอุ่นเอิบไปด้วยความงามจิตงามใจ เกินหาค่าคำใดมาบอกกล่าว ในพราวพราย.. จากอัญมณีชีวิต..อันแสนนิดหนึ่งน้อยนี้ ที่ได้สัมผัสพบเห็น... และ.. หวังเพียรพลี ทุกลมหายใจนี้ให้เพียงคิดใฝ่ดี พูดดี ทำดี และ.. พร้อมพลีให้...ผองเพื่อนมนุษย์อย่างมิสิ้นสุด...รัก มิ...สิ้นสุดหยุดศรัทธา..ในคำสอน อันคือ*อมตะนิรันดร์*... ในสัจจะธรรมแห่งพระบวรศาสนา เพื่อ.. ให้ชีพชนม์ทุกผู้คนบนผืนหล้า... ยังคงดำรงคงความดีประดับฟ้าไทยไปตราบชั่วกาล... และ.. ให้สมกับการ ที่ได้เกิดมาในร่มฉัตรร่มพระรัตนตรัย ได้มีโชค รู้ดับโศกพ้นทุกข์ จากทุกคำสอนของพระบรมศาสดา..พระพุทธศาสนา ดั่งบัวขาวพราวหล้า... ให้.. หลุดพ้นจากพันธนาทุกข์โคลนตม เป็นบัวพ้นน้ำบัวบูชาชูช่อไสว รับทานธรรมนำมาส่องนำทางใจ ไปตราบชั่วชีวีนี้...ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ...!!! .......................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song206.html อันเป็นดวงใจ ครูทูล ทองใจ ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่ เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า เหมือน ดังแสงสุริยา สาดแสงส่องพื้นภพหล้า ลงมาจูบทานตะวัน เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง เทิดทูนความรักสูงส่ง ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน หวัง ใจได้คู่เคียงกัน ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท เป็นทาสความรักเสมอ อันเป็นดวงใจมานานแรมปี เป็นราชินี แห่งใจฉันนี้คือเธอ ทุกๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ จิตใจพร่ำแต่เพ้อว่า รัก รักเธอรักจริง ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา ไม่เคยจะคิดเลยว่า สัญญาแล้วจะทอดทิ้ง เห็น ใจฉันบ้างยอดหญิง มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง ด้วยความสัตย์จริงเสมอ แด่เธอ ผู้เป็น ดวงใจ...