ผีเสื้อเอย ใยเจ้าจึงร่ายรำแค่ในบทกวี แล้วในท้องฟ้านั้นเล่า ...ปีกเจ้าช่างดูอ่อนล้า นกน้อยเอย ใยเจ้าจึงร่ำร้องแค่ในบทกวี แล้วในแมกไม้นั้นเล่า ...เสียงเจ้าช่างแหบพร่า เด็กน้อยเอย ใยเจ้าจึงร่าเริงแค่ในบทกวี แล้วใต้แสงดาวนั้นเล่า ...เพียงเริ่มฝัน เจ้ากลับหวาดผวา ท้องฟ้าเปลี่ยนไปใช่ไหม พงไพรไม่เหมือนเดิมรึเปล่า โลกล่ะ แตกต่างไปจากเดิมเช่นไร เธอ ยังมีดอกไม้บ้างไหม เธอ ต้นไม้ยังผลิผลรึเปล่า เธอ สายลมยังพัดโชยใช่ไหม หากยังมีกลิ่นหอมลอยมา เธอลองสูดลมหายใจ อาจจะพบว่ามีเรี่ยวแรง หากยังจำความหวานนั้นได้อยู่ จงเปล่งเสียงร้องอย่างเริงร่า อาจจะพบว่าความสุขไม่จากหาย หากลมยังพัดกล่อมให้เธอหลับ จงผ่อนคลายความเหนื่อยล้ายามหลับไหล ความฝัน ความหวังใดใดอาจจะเติบโต
23 พฤษภาคม 2550 16:06 น. - comment id 700295
นึกถึงกวีบทนี้ทุกที ไยบางวัน จึงเป็นแค่บางวัน แล้วบางวัน ไยจึงสำคัญกว่า ใยบางๆวางไว้บางเพลา ไยเวลา พาบางคน ให้บางใย ไยบางคืน จึงเป็น แค่บางคืน บางคนฝีน ยึดใยบาง บางคนไส ฝืนจนบาง กางจนขาด บาดบางใจ สิ้นเยื่อใย ใจบางขาด ปราศน้ำตา ไยบางคน ไม่เป็น แค่บางคน ใจบางคน ใยบาง บางยิ่งกว่า ไยยามห่าง บางใจ ไม่คืนมา ไยเวลา พาบางใจ ไปไม่คืน ไยบางวัน จึงเป็น แค่บางวัน ไยความฝัน จึงจางบางเมื่อตื่น คนบางคน ใจบางไป ให้กล้ำกลืน ตัดใยคืน ตื่นฝันคว้าง ตอนกลางวัน เขียนได้น่าอ่านเหมือนเดิม
23 พฤษภาคม 2550 21:00 น. - comment id 700373
``ขอบคุณครับที่ยังจำกันได้
23 พฤษภาคม 2550 21:16 น. - comment id 700375
สูดกลิ่นหอม ดอมดม ชมดอกไม้ โถเจ้าสาย หยุดฉุด ชวนถนอม แม่ดอกรัก รักเล่ห์ เสน่พยอม ประทินหอม ชลอมใจ หทัยงาม ................... เพราะมากค่ะ อ่านแล้วอยากไปสูดอากาศดีๆให้เต็มปอด