. ทัศนียภาพ ท้องทุ่งนาแห่งนี้ หลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าว นาแต่ละบิ้ง เต็มไปด้วย เศษฟาง ตอซังแห้งๆ สีเหลืองซีด แทนที่ ทุ่งข้าวรวงเรียวสีเหลืองทองอร่าม ความแห้งแล้งค่อยๆคืบคลาน เข้ามาคุกคาม รุกราน ปลาในบึง หนอง นา ดิ้นรนกระเสือกกระสน ภายใต้ความแห้งแล้งของฤดู.....ในหนองน้ำปลักโคลน เด็กๆและชาวบ้าน ขมีขมัน จดจ่อ กับการวิดน้ำ จับปลาน้ำแห้ง โคลนเลอะหัว เลอะตัว บ้างลื่นล้มลงจนเป็นมนุษย์โคลน ชาวบ้าน ปล่อย วัว ควาย แพะ กัดกินซังข้าวในทุ่งนา หันไปทิศทางไหนก็มีแต่วัว ควาย กำลังเกล็ดเล็มหญ้าและฟางแห้ง เด็กๆวิ่ง แล่น เล่น ว่าวปักเป้า อย่างสนุก.......... ขณะที่ประเพณีเล่นว่าวของชาวบ้าน ยังไม่เริ่ม เสียงกังหันลมไม้ไผ่ เตาะหมาก บนปลายต้นไม้สูงส่งเสียง ยามกระแสลมพัด....เสียงยิ่งดังชัด...และไพเราะ ดอกหญ้าริมถนน อ่อนโอน ล้อลม แผ่วเบา เสียงปี่ซังข้าว ดังแว่วมา ล่องลอย แทรกอณูของอากาศ หมู่บ้านที่เราพำนัก ตั้งอยู่ในหุบเขาหมอกสีขาว สองข้างทาง ลัดเลาะ ป่ายางพาราและสวนปาล์มที่ปลูกเรียงราย ทุ่งนา ห้อมล้อม หมู่บ้านของเรา รายรอบ คล้ายๆ เกาะ ขณะที่บนเกาะก็มีท้องทุ่ง และในท้องทุ่งก็มีต้นไม้ชนิดหนึ่ง ต้นไม้ที่เรียกประสาชาวบ้านว่า"ปาบ" และมีผลกินได้ รสชาติเปรี้ยวคล้ายๆมะม่วง ลักณะ "ลูกปาบ "ออกจะแบนๆเบี้ยวๆ และจนมาถึงวันที่ต้น"ปาบ"ได้จากไป สาเหตุด้วยอสูนิบาติฟ้าผ่า หลังจากนั้นต้น"ปาบ"ได้จากไป หายสาบสูญพันธุ์.... ไม่เหลือสิ้นแล้ว........เหลือเพียงแค่ชื่อ......... 20 มกราคม 2550 .
22 มกราคม 2550 17:10 น. - comment id 648444
ลูกบาปเอามาจิ้มพริกเกลือท่าทางนะจะน่าอร่อย
22 มกราคม 2550 17:28 น. - comment id 648462
เสนอความคิดมาแบบนี้มา น้ำลายสอเลย
22 มกราคม 2550 17:46 น. - comment id 648477
ต้นบาปมีด้วยเหรอคะ..อยากเห็นจัง...
22 มกราคม 2550 22:21 น. - comment id 648654
บาปมีลูกด้วย
23 มกราคม 2550 15:59 น. - comment id 648799
ปอ อา บอ ปาบ ครับ ไม่ใช่ บอ อา ปอ บาป ครับ ชี้แจงให้ทั่วกัน..... โปรดจงสังเกตุสักนิด......