ด้วยจิตวิญญาณ!

ศิลป์กีรติ ว่าโร๊ะ

.           กว่าที่ฉันจะรู้เดียงสาว่าอะไรคืออะไร
เด็กทารก   ส่งเสียงร้องได้เพียง  อุแว้  อุแว้
ในอ้อมอก ไออุ่น  ดูด ดื่ม หยาดน้ำนม..
หยาดน้ำนมบริสุทธิ์  กลั่นมาจากสายเลือด
ในความเป็นแม่  มี ความเป็นครูสถิตย์อยู่
หยอก ชวน เล่น    เลี้ยงดูทะนุถนอม..
คุณครูคนแรก "แม่" สอนทารกให้คว่ำ ค่อยๆกระเถิบ
เรียนรู้การคลาน  เริ่มหัดเดินเตาะแตะ เดินคล่องจนวิ่งซุกซน
หัดฝึกส่งเสียงพูด จนพูดได้คำแรก  "แม่" "พ่อ" 
             ในความเป็นพ่อ ก็มีความเป็นครู อาศัยสถิตย์
พ่อสอนจากการเอาใจใส่ ล้อเล่น ชวนคุย แม้แข็งๆประสาผู้ชาย
รอยเท้าเล็กเท่าฝ่าหอย  พยายามเดินตามรอยเท้าพ่อ
พ่อสอนลูกด้วยหยาดเหงื่อ ทุ่มเท มานะ เพื่อครอบครัว
พ่อพร่ำสอนให้ลูกเข้มแข็งและติดดิน ฝ่าป่า ข้ามทุ่งนา
              กระทั่งถึงวัยเรียน..........
ฉันเข้าโรงเรียนประถมฯโดยไม่ได้ฝึกหัดเรียนจากอนุบาล
เด็กประถมหนึ่งอย่างฉัน จึงต้องเริ่มฝึกเรียนจากติดลบ
บางวัน....ฉันร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน.....
แต่แล้วครูก็ได้ปลูกฝังความกระตือรือร้นในตัวฉัน
ฉันเริ่มสนใจ .........
ก.เอ๋ย ก.ไก่,ข.ไข่ในเล้า,..........,อ.อ่างเนืองนอง,ฮ.นกฮูกตาโต
เอ, บี ,ซี ,ดี ,................................., เอ็ก ,วาย ,แซต
ฉันเริ่มค้นพบบางสิ่งในตัวเอง...ที่แฝงอยู่
ฉันเริ่มนับเลข..........ได้บ้าง.
ศูนย์,หนึ่ง,สอง,สาม,สี่,ห้า...............
ซีโร่,วัน,ทู,ทรี,โฟว์,ไฟต์........................
ฉันทดลองขยับมือวาดเขียนตัวอักษร,ตัวเลข..จนเขียนเป็น
ฉันลองขยับมือวาดเขียนบนสมุดวาดเขียนและสมุดเรียนตามประสาเด็ก
ฉันเริ่มเข้าใจ... ฉันเริ่มกระหายวิชาความรู้   อย่างแรง
คุณครูปล่อยจิตวิญญาณ ถ่ายทอดความรู้สู่นักเรียน
คุณครู ร่ายมนต์   เสก...วิชาเข้าสมองเด็ก....
ไม่ว่าครู วิชาภาษาไทย,คณิตศาสตร์,ส.ป.ช.,ส.ล.น.,พละศึกษา,
อังกฤษ,ศิลปะ,   วิชาศาสนาทั้งพุทธและอิสลาม ฯลฯ
คนแล้ว  คนเล่า  ครูทุกคนอยู่ในใจเด็ก.......
           ขณะเรียนประถมศึกษา....วันเสาร์-อาทิตย์.......
ฉันก็เรียนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม คุรุสัมพันธิ์(ตาฎีกา)
ก้าวแรกที่ฉันย่างก้าวเข้าไปในโรงเรียน........
พกพาความรู้มาจากบ้านด้วยความว่างเปล่า.........
ฉันต้องเริ่มเรียนจากการต้องนับด้วยภาวะติดลบ........
โต๊ะครูสอนภาษาอาหรับ,มาลายู นับตัวอักษรซึ่งก็คล้ายๆกัน
อาลีฟ,บา,ตา,ซา,จีม,.........................,ลามอาลีฟ,อัมซะ,ยา
โต๊ะครูสอนนับเลขอาหรับและมาลายู..
วาฮิด,อิซแนน,ซาลาซา,อัรบาอา,.....................
ซาตู,ดูวอ,ตีฆอ,อัมปัต,ลีมอ,อานำ,............................
ฉันเรียนกับโต๊ครูท่านสอนให้รู้จุดมุ่งหมายอิสลาม
เพื่อศึกษาบทบัญญัติของศาสนา..ภาคฟัรดูอีนและกีฟายะฮ์
เรียนรู้บัญญัติธรรมนูญ อัล-กุรอ่าน
ทำตามแนวทางตามแบบอย่างท่านนบีฯ(ซุนนะฮ์และอัล-ฮาดิษ)
และศรัทธาสวามิภักดิ์สิโรราบต่ออัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้า
              หลังจบประถมฯ มุ่งเรียนต่อ มัธยมต้นฯ
ฉันจึงมุ่งหน้าเดินทาง........สู่จุดหมายใหม่
โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ( ปอเนาะ )
เพื่อเรียน กีตาบ  และ  อัล-กุรอ่านจากโต๊ะครู
แสวงหาความรู้.....จากเบื้องลึก  แห่งศรัทธา
เด็กปอเนาะ สร้างกระต๊อบเล็กๆ  วึ่งเรียกว่าปอเนาะ
อาศัย  อยู่กิน  หลับนอน  อย่างโรงเรียนประจำ
แต่แร้นแค้นกว่ามาก อย่างทรหด  อดทน........
อาหาร  การกิน  ห้องส้วม  บ่อน้ำ ตามยถากรรม
มาม่า  ,ปลากระป๋อง  ,ไข่     คือ อาหารหลักที่เลิศหรู
ทุกๆครั้งที่เสียงอาซาน   ก้องทั่วปอเนาะ  วันละห้าครั้ง
เราต่างรีบเร่ง วิ่งไปละหมาด  ที่สถานบาลาย
ภารกิจในค่ำคืน  โต๊ะครูสอน  กีตาบ และ อัล-กุรอ่าน
จิตวิญญาณในความเป็นครู พร้อมจะถ่ายทอดจากโต๊ะครู
ถ่ายทอดวิชาความรู้    ตามแนวทางอย่าง อิสลาม
กิรวัตรในภาคกลางวัน    คาบเช้า เรียนวิชาสามัญ
อาจารย์วิชาภาษาไทย,วิทยาศาสตร์,คณิตศาสตร์,อังกฤษ,
สังคมศึกษา,ศิลปะศึกษา,พละศึกษา,พลานามัย, ฯลฯ
.............ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าสอน.......
อาจารย์ถ่ายทอดวิชาความรู้     จนหมดไส้หมดพุง..
ภาคบ่ายเราเรียนวิชาศาสนา.........
โต๊ะครูหมุนเวียน  สับเปลี่ยน  ถ่ายทอดวิชา
วิชาอรรถาธิบายอัลกุรอ่าน,ฮาดิษ,เตาฮีด,ฟิกส์,จริยธรรม,
ภาษาอาหรับ,ภาษามาลายู,ศาสนประวัติ, ฯลฯ
ปูพื้นฐาน  และเติมวิชาการ  ความรู้ทางศาสนา
หล่อหลอม  เจียรนัย เยาวชน บนหลักศรัทธา
จุดประสงค์  มุ่งหมาย  ใน พระองค์ อัลลอฮ์
จนกระทั่งจบหลักสูตรอิสลามศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เล่าเรียนควบคู่กัน  ทั้งทางด้านศาสนา และ  สามัญ
              จบ ม.ต้นจากปอเนาะ...สู่ ม. ปลาย..
จุดมุ่งหมายต่อไปมุ่งสู่โรงเรียนกรมสามัญมีชื่อเสียงในตัวจังหวัด
ฉันตวัดตัวเอง หักเหอนาคต  ที่หวังไว้ว่าดี....
เด็กผู้ชายคนหนึ่ง   เคลื่อนเท้า  ก้าวย่าวสู่โรงเรียนใหม่
เส้นทางสาย  ม.ปลาย ยังต้องเรียนรู้และปรับตัว
เด็กผู้ชายในชุดนักเรียน บนวัยที่หักเห ณ.โค้งหักศอกอันตราย
จนนำไปสู่หนทางเขาวงกต  หลงทาง วกวน หาทางออกไม่เจอ
คึกคะนอง  เสเพล  เริ่มเกเรจนอาจารย์และทางบ้านปวดขมับ
วิชาความรู้จากอาจารย์ที่ฉกฉวยมาได้   ผลการเรียนอ่อนบรมอ่อน
ทั้งๆที่...............ฉันเป็นเด็กสายวิทย์-คณิต
ในความเป็นครู    อยากให้ศิย์ได้ดี.........หวังดี
ปล่อยรัศมีวิชา เจิดจ้าทุกๆคาบเรียน  ทุกๆวิชาแต่สมองฉันไม่รับ
อาจารย์ฝ่ายปกครอง คือ อริศรัตรูตัวฉกาจ.........
ชอบจับผิดแต่งตัวผิดวินัยบ้าง  ทรงผมไม่เรียบร้อยบ้าง
วิ่งไล่จับฉันและเพื่อน สูบบุหรี่  ดื่มเหล้า หลังห้องน้ำเป็นประจำ
แต่ฉันเข้าใจท่าน ปรารถนาดี........
ขอบคุณความเมตตา ปราณี สงสาร ของอาจารย์ กระทั่งจบ ม.ปลาย
ในความเป็นครู รู้ว่าท่านหวังดี พยายามสอนสั่งทุกวิถีทาง
สุดท้าย  ฉันจบ ม.ปลาย เอาตัวรอดมาได้.........
               ณ. สถานี รถไฟ.........
การแต่งตัวของฉันในคราบบ้านนอก หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ 
บริเวณชานชลา  ตีตั๋ว รถไฟชั้น3 ปลายทางสถานีรถไฟหัวลำโพง
กับเพื่อนอีกสองคน    เป้าหมายศึกษาต่อปริญญาในกรุงเทพฯ
วาดหวังถึงใบปริญญา   มุ่งหน้า สู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เท้าเหยียบเคลื่อนที่ไปใน กทม.  แหวกความวุ่นวายของฝูงชน
ควันพิษกระจายทั่วทุกแห่งหน บนท้องถนนรถติดยืดยาว
แม่น้ำ ลำคลอง เน่าเหม็น   ตลึงงันในป่าคอนกรีต
 เด็กผู้ชายคนหนึ่ง   นักศึกษาปี1มหาวิทยาลัย
อาจารย์บรรยายอยู่หน้าห้องเรียนใหญ่มโหฬาร
มองจากแถวหลังไม่เห็นหน้าอาจารย์....
ตั้งใจฟังอาจารย์สอน ได้ยินและเห็นหน้าอาจารย์ จากภาพโทรทัศน์
   เด็กปี1  ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่จะศึกษา
   ปี 2       ล่วงผ่าน ไม่เคยเข้าเรียนฟังอาจารย์บรรยาย
                อ่านหนังสือ   หนังสือเป็นครู
   ปี 3       ล่วงผ่าน ไม่มีทีท่าจะเข้าไปนั่งฟังอาจารย์สอน
                 อ่านหนังสือ  เป็นครูให้ตัวเอง
   ปี 4       เข้าเรียนบ้างประปราย  ฟังอาจารย์ บรรยายสอน
                  ศึกษาเนื้อหา  รายละเอียด  แนวข้อสอบวิชายากๆ
และสุดท้าย  ฉันก็เอาตัวรอดมาได้อีกครั้ง
จวบจนกระทั่ง  ฉันสำเร็จการศึกษา   เข้าพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร
..........โดยที่ฉันแทบไม่รู้จักอาจารย์ท่านใด.............
                ในความเป็นครู  แฝงไว้ด้วยความยิ่งใหญ่
อุดมการณ์จิตวิญญาณ      ปลูกฝังเยาวชนไทย
วิชาความรู้ พร้อมจะถ่ายทอด  ด้วยความบริสุทธิ์   จริงใจ
แต่ทำไม ครู ถึงเป็นเป้าหมาย............
กราด ลอบยิง ทำร้าย สังหาร  .........................
......................มันช่างน่าร้องไห้...................
                                                     14 มกราคม 2550
                                             
.				
comments powered by Disqus
  • แม่มดใจร้าย

    16 มกราคม 2550 20:10 น. - comment id 646742

    ทุกคนล้วนมีจิตวิญญาณของการเป็นครูค่ะ
    
    แต่คนที่ลอบสังหารนี่สิคะ ไม่รู้ว่าจิตวิญญาณ
    
    ไปอยู่นะที่ใด
    
    36.gif
  • กุหลาบขาว

    16 มกราคม 2550 21:38 น. - comment id 646800

    บทสุดท้ายคำว่าถ่ยทอดลืมสระอาค่ะ..
    
    
    สงสารครูจังเลย ถูกฆ่าตายเป็นรายวันเลยค่ะ..10.gif
  • เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย

    17 มกราคม 2550 04:33 น. - comment id 646845

    จิตวิญญาณความเป็นครู..มันสู้ไม่ได้กับใจที่โหดเหียมและเลวทราม
    หวังเพียงจะทำร้ายไม่ให้อนาคตของชาติมีอนาคตที่ดี
    ไม่อยากให้บ้านเมืองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
    เพียงเพราะความอิจฉาความสงบสุขของพวกเราคนไทย10.gif
  • เพียงพลิ้ว

    17 มกราคม 2550 08:04 น. - comment id 646878

    ชื่นชมในความเสียสละของครูเสมอค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน