กกกะโดนโพนกะเดาแสนเศร้าหมอง ไร้คนครองเคียงข้างสร้างทุ่งฝัน เถียงนาร้างกลางแจ้งแสงตาวัน ทุยรำพันพร่ำเพ้อละเมอครวญ พลิ้วลมพัดสะบัดใบไม้ไหวโยก กะเดาโศกสลัดใบให้คิดหวล แว่วเสียงแคนค่อนรุ่งทุ่งลำดวน แปรขบวนหนุ่มสาวเข้าสู่กรุง เคยขอเพลงให้กันวันเก็บเกี่ยว มือกำเคียวเคียงคู่อยู่กลางทุ่ง ทำนองแคนคลอรับกับเสียงซุง เคยมั่นมุ่งผดุงถิ่นแผ่นดินทอง จึงเรื้อรกกกกะโดนโพนนาเก่า เมื่อไร้เงาผู้คนดูหม่นหมอง ทั้งแอกคราดคันไถไร้คนมอง กาเหว่าร้องรอรับเจ้ากลับมา สวมชุดฟอร์มโรงงานลืมบ้านนอก ฤาหลงเมืองบางกอกลืมดอกหญ้า ฤาลืมกกกะโดนที่โพนนา กาลเวลาล่วงไปเปลี่ยนใจคน กกกะโดนโพนกะเดาดูเศร้าหมอง จะกู่ร้องหาใครก็ไร้ผล ล้วนทุ่งแล้งแห้งผากคนยากจน จำดิ้นรนจากนามาขายแรง กก หมายถึง ต้น กะโดน หมายถึง ไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง ยอดอ่อนกินเป็นผักได้มีรสฝาด ภาษาไทยกลางเรียกต้นจิก โพน หมายถึง เนินดินขนาดเล็ก กะเดา หมายถึง ต้นสะเดา เถียงนา หมายถึง กระท่อม แดนลำดวน เป็นสมญานามของจังหวัดศรีสะเกษ ซุง หมายถึง ซึงหรือพิณ
5 มกราคม 2550 10:51 น. - comment id 643423
ทีแรกอ่านซุง ก้อนึกว่า ซุง ที่เป็นท่อนๆ ที่แท้ เป็น ซึง ซะนี่ วันก่อนเมนต์คุณแก้วไปที เรื่องภาษาถิ่น ที่เวลาคุยกันทีไร มีฮาทู้กที..... หวัดดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขตลอดปี และตลอดไปนะคะ อ้อ...อย่าลืม เฝ้าโรงเรียนให้ดีดีล่ะ เป็นห่วงน้า
5 มกราคม 2550 11:06 น. - comment id 643426
ดอกกระโดนเอามาเล่นเฮือนน้อย ตอนเป็นเด็กน้อย ผักกระเดาข้างโพน เก็บมาให้อีแม่ต้มกินกับป่น เดี๋ยวสงกรานต์ก็กลับไปใหม่ค่ะ ......เอนหลังพิงโคนต้นกระโดน ยืนอยู่ใกล้โพนข้างเถียงนาน้อย สิ้นเมษาฝนตกมาปรอย ๆ เสียงเขียดจะนาน้อยร้องโอดโอยอยู่อ้อ อี อ่อ.... ......ยืนเหลียวมองโคนต้นกระโดน อยากโตนโพนให้ตายซ้ำสา อยู่ทำไม อยู่ให้อายเขียดจะนา เกิดมาด้อยวาสนา มีรักครั้งเดียวก็ช้ำชอกใจ ...ไปใต้เขียด ด้วยกันเมื่อคืนเดือนมืด..... ร้องได้ซำนี้ล่ะอ้าย อิอิ
5 มกราคม 2550 11:22 น. - comment id 643432
เฝ้าจนไม่ได้ไปไหนเลยคุณชมพู ตอนนี้ผมมีแผนขบถในใจว่าจะล่องหนซักสามสี่วัน เหนื่อยจัง ไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย ขอบคุณมากคุณกานต์ที่หาภาพมาประกอบสวยงาม สุดยอดจริง ๆ ผมไม่เติม ร ทั้งกะโดนและกะเดา ตามเสียงสำเนียงลาวนะครับ
5 มกราคม 2550 11:53 น. - comment id 643438
ที่นั่น .. แล้งแบบร้อน ๆ หรือ แล้งแบบหนาว ๆ ที่ภาคเหนือตอนบน แล้งแบบหนาว ๆ ต้นไม้ยืนซากเหี่ยวเหมือนคนหง่อม ๆ บางทีมองไปรอบข้าง มีแต่โทนสีน้ำตาลเต็มไปหมด หนาวแบบไม่สดชื่นเอาเสียเลย แต่ก็มีบ้างนะ ที่หนาวหงิกแบบเชียวชะอุ่ม เวลาลมพัดผ่านแต่ละที .. ทำให้เข้าใจกับคำว่า หนาวไปถึงกระดูกเชียวล่ะ ..
5 มกราคม 2550 13:06 น. - comment id 643454
อย่างนี้ไม่มีใครลืมได้หรอก ยิ่งบางกอกคงไม่มีใครอยากหลงด้วยในระยะนี้ อิอิ สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะค่ะ
5 มกราคม 2550 13:31 น. - comment id 643466
บทกวียอดเยี่ยมทางจิตวิญญาณ คำบอกเล่าแห่งท้องทุ่ง ที่แสนงดงามดิบเดิม โดนใจ สาวบ้านนาค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ พร้อมพลีกำนัลด้วย ทุกบทรจนากวี..จากดวงใจใสซื่อของสาวนา สาวบ้านป่าบ้านไพรนะคะ แด่.. คุณครูใหญ่ ที่คือความงดงามไสว ในใจสาวนามานานวันค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/my_poem.php?mid=6042 เธอคือเมฆเสกสายหวานมาห้อมห่ม มาพร่างพรมขวัญเจ้าคราวเหน็บหนาว เธอคือสร้อยร้อยสวยด้วยรวงดาว คล้องฝันพราวรับขวัญพลีราตรีเพ็ญ.. ราวสายลมพรมผ่านลุกขึ้นสู้ โลกยังอยู่ดอกไม้หวานบานให้เห็น แม้นดายเดียวเปลี่ยวร้าวใจเยียบเย็น เธอยังเป็นเช่นเทียนทองส่องกลางใจ ราวรุ้งเรียวเกี่ยวฟ้าทางช้างเผือก ลบหนาวเยือกให้อุ่นพร่างสว่างไสว รจนาบทกวีที่งามงดหมดจดใจ ระรินไหวลบโลกร้อนสอนกมล... เธอคือสายธารหวานพรมห่มหอมร่าง ให้ฉ่ำพร่างฉ่ำชื่นดุจสายฝน เธอนั้นหรือคือน้ำค้างกลางกลีบรสสุคนธ์ เธอคือคนของสายธรรมนำชีวี.. เธอคือตะวันอันโอบเอื้อมนุษยชาติ สว่างวาดรจนาร้อยสร้อยศักดิ์ศรี เธอนะหรือคือยอดงามยอดความดี เป็นสร้อยสีสร้อยแสงสร้างแรงรัก.. เธอคือไม้ไพรในป่าเมืองมนุษย์ สร้างพิสุทธิ์ดุจร่มธรรมล้ำค่านัก เธอคือใครใครคือเธอเล่ายอดรัก ยอมพลีภักดิ์ศรัทธารักศรัทธาใจในวันนี้.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4721.html ข้าวคอยเคียว ได้ยินไหมพี่ เสียงนี้ คือสาวบ้านนา พร่ำเพรียกเรียกหา ตั้งตานับเวลารอคอย คอยเช้า คอยเย็น ไม่เห็นสักหน่อย ปีเคลื่อนเดือนคล้อย รักเอ๋ยจะลอยรักเอ๋ยจะลอยแรมไกล อีกเมื่อไรรักจะคืนรื่นรมย์ ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว รวงข้าวคอยเคียว น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว รวงข้าวคอยเคียว น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย... ด้วยรักจากดวงใจ สาวบ้านนา พุดไพรนะคะ
5 มกราคม 2550 13:32 น. - comment id 643467
ขายแรงขายแรงกินแกงถุง จากทุ่งมาเมืองเบื้องความหวัง มีแรงร่วมแรงเป็นพลัง เมื่อไรหนอดอกเหงื่อจะสะพรั่งแผ่นดินตน... มาเยือนกกกะโดนครับ
5 มกราคม 2550 13:41 น. - comment id 643469
สาวบ้านนาเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ แต่รู้เพียงหนุ่มบ้านนา...หลอกสวเมืองกรุงให้ช้ำใจ เป็นบทกวีที่สวยงามมากค่ะ
5 มกราคม 2550 13:45 น. - comment id 643471
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song18.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song709.html เคียงเรียม มองเดือนคล้อยดาวลอยเรี่ยยอดไม้ ใจสลายน้ำเจิ่งนองเต็มท้องทุ่ง เดือนสิบสองกระทงทองจรัสจรุง รอขี่ควายลุยทุ่งเรียมผัดแป้งเฝ้าแต่งตัว เคย.. นัดพบกับอ้ายใต้ต้นตาลรอหวานรัก ดอกโสนทายทักหอมริมแก้มแกมแสงสลัว ตะวันชิงพลบกบเขียดร้องใจระรัว นั่นดอกบัวชูช่อชันรับขวัญรอ แล้ว.. อ้ายลาไกลไปศึกใหญ่ภัยภาคใต้ ได้ชิดใกล้ความตายมิเคยท้อ ใบไม้ร่วงชีพรอหล่นทิ้งเรียมรอ โลกนี้หนอไยแล้งไร้อ้ายหวังยุติธรรม ฟ้าโพล้เพล้ใจเรียมพลอยเหว่ว้า พลีน้ำตาดั่งหยาดฝนระรินร่ำ รอและรอไยมีเพียงเงามืดดำ ฟ้ายามค่ำนกการ้องใจเลือนลาง จันทร์ทอฟ้าสว่างไสว อ้ายพรากไกลทิ้งเรือนมาแรมร้าง สวรรค์ปิดไยหยิบยื่นเพียงอ้างว้าง มีเพียงร่างเรียมรออ้ายราวไร้ใจ เสียงขลุ่ยแว่วเพรียกมาเพลงลาแผ่ว น้ำค้างแก้วหยาดระรินดั่งเพชรใส กลางใบบัววะวาววับเพชรพร่างไพร กระทงใจไยหลงทางร้างแรมลา สองฝั่งคลองวารีล้นท่วมท้นฝั่ง ชีพไทยฝังสังเวยน้ำดินฟ้า หยาดน้ำตาเรียมรินหลั่งพลีบูชา อ้ายถวายชีวาพลีพร้อมยอมเพื่อไท สายวารีไหลไปไม่ย้อนกลับ ตะวันลับยามนี้อ้ายอยู่ไหน ปณิธาณหาญกล้าเซ่นวิญญาญ์บรรพบุรุษไทย คือยิ่งใหญ่ศรัทธาหมายตายเพื่อแผ่นดิน เรียมปิติใจแล้วอ้ายแม้นไหม้หมอง คือครรลองลูกผู้ชายปองถวิล คลุมร่างด้วยธงไตรรงค์สิ้นชีวิน ทั้งฟ้าดินวิปโยคโศกดวงใจ เรียมอธิษฐานกับกระทงทองล่องหลอมจิต คู่ชีวิตคู่ชีวาภพภูมิไหน หวังร่วมบุญร่วมกุศลทุกชาติไป บนดินไทยดินทองแดนพุทธธรรม คืนเพ็ญบุญจันทร์ดวงทองผ่องพิสุทธิ์ หวังมนุษย์ทำดีพลีรินร่ำ หยาดน้ำใจใสงามสวดมนต์พลีน้อมนำ พบธาราธรรมธาราทองล่องสู่แดนทิพย์พระนิพพาน..! .................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song709.html เคียงเรียม.. เคียงเรียม ทนงศ์กดิ์ ภักดีเทวา เลียบ ฝั่ง คลอง มองละเมาะ หมู่ ไม้ สาย น้ำไหล เหนี่ยว โน้ม ใจ ให้หน้า เพลิน มอง มอง ขอบฟ้า ครอบทุ่ง ทิว และรุ้ง แดดส่อง ลมพัดต้อง ยอด โย้ โอนเอน ใจพี่ยัง เปลี่ยว นัก มองหารัก ไม่ เห็น นึกหนักใจ ยิ่งเต้น เหลือจะเข็น รักไกล หาก บุญ ได้ เดินใกล้ เคียงเรียม เลียบ ฝั่ง คลอง มองละเมาะ หมู่ ไม้ สาย น้ำไหล เหนี่ยว โน้ม ใจ ให้หน้า เพลิน มอง มอง ขอบฟ้า ครอบทุ่ง ทิว และรุ้ง แดดส่อง ลมพัดต้อง ยอด โย้ โอนเอน ใจพี่ยัง เปลี่ยว นัก มองหารัก ไม่ เห็น นึกหนักใจ ยิ่งเต้น เหลือจะเข็น รักไกล หาก บุญ ได้ เดินใกล้ เคียงเรียม...
5 มกราคม 2550 13:53 น. - comment id 643478
แต๋ แร่น แต แร่น แต๋ แร่น แต ....... เป็นต่ามวน หือวาเป็นต่าโศกดี่น้อ อิพอใญ สวัสดีปีใหม่ สุข สดชื่น สมหวัง ตลอดปีและตลอดไปเด้อ
5 มกราคม 2550 14:49 น. - comment id 643516
แหมม อ่านแล้าเหมือนสาวกรุงลืมบ้านนา เลยนะครับครู....โดนใครทิ้งไปป่าวหว่า.. หลงแสงสีศิวิไลซ์ในบางกอก ลืมบ้านนอกท้องนาลืมป่าเขา ลืมรสชาติกกกระโดนต้นสะเดา ลืมสิ้นเสียงกาเหว่าเฝ้าร้องเพลง ............................................... แปะโป้งไว้ก่อนแล้วกันครับครู..คิด บ่ ออก
5 มกราคม 2550 16:01 น. - comment id 643547
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ...คุณครู
5 มกราคม 2550 16:33 น. - comment id 643564
เถียงนาน้อยหงอยเหงาคราเจ้าจาก ไปลำบากตรากตรำกรำเมืองหลวง ลืมท้องทุ่งนาไร่ให้ร้าวทรวง ไม่คิดห่วงบ้านนาพาเศร้าใจ ................................. สวัสดีปีใหม่ค่ะครูใหญ่
5 มกราคม 2550 17:48 น. - comment id 643593
5 มกราคม 2550 19:05 น. - comment id 643609
คุณอัล หนาวแล้งครับ อากาศบางวันร้อน เป็นหวัดได้ง่าย ไปเจียงใหม่กี่วันครับ ผู้หญิงไร้เงา ครับน่ากลัวนะ กทม เดือนหน้าผมจะมีโอกาสไปสัมมนา ปีนี้ได้ไป กทมแต่ต้นปี สงัสยจะได้ไปบ่อยๆ สาวนาครับ เพลงเหมือนข้าวคอยเคียวผมชอบมาก ผมดีดพิณได้ด้วยนะครับเพลงนี้ รูปที่สรรมาล้วนมีแต่งดงามทั้งนั้นเลย ถูกใจครับ ส่องหล้า ผมอยู่บ้านนาก็กินแกงถุงเหมือนกันครับ เปเป้ซัง ระวังโดนหลอกกลับนะครับ (กรรมสนอง) ผมโดนมาแล้ว มอมแมม เจ้าสิโศกไปหยัง ม่วนปานนั้น เร อย่าแปะนานนะ ก้าวที่กล้า ขอบคุณมากครับอวยพรให้คุณมีสุขเหมือนกันครับ เฌอ อย่าปล่อยให้เถียงนาเหงานานนะครับ วง (วงไหนหนอ?) ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมชม ขอบคุณสำหรับพรปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพดี อย่าทุกข์ ทำดี ทำดีและทำดีนะครับ
5 มกราคม 2550 22:31 น. - comment id 643664
สวมชุดฟอร์มโรงงานลืมบ้านนอก ฤาหลงเมืองบางกอกลืมดอกหญ้า ฤาลืมกกกะโดนที่โพนนา กาลเวลาล่วงไปเปลี่ยนใจคน ชอบบทนี้เป็นพิเศษค่ะ ช่วงเวลาวันหยุดเทศกาลใหญ่ๆ เป็นช่วงเวลาแห่งครอบครัวของสาวโรงงาน ลำบากแค่ไหน ก็ขอให้กลับไปเยี่ยมบ้าน คุณครูใหญ่สบายดีนะคะ อยู่ศรีษะเกษ ร้อนแค่ไหน ก็คงไม่เท่ากรุงเทพฯ ตอนนี้แล้วล่ะค่ะ
6 มกราคม 2550 02:21 น. - comment id 643696
กะโดนเศร้า กะเดาโศก กระดกซด กาแฟขม แจมครับ(ขอมั่วแจมนะครับ)
6 มกราคม 2550 10:37 น. - comment id 643746
สวัสดีปีหมู .. ขอให้คุณครู(มีคู่ที)จงเจริญ .. สุขสันต์วันปีใหม่นะคะคุณครู ..
7 มกราคม 2550 00:04 น. - comment id 643891
ไปแม่ฮ่องสอนค่ะ .. ไม่ได้ไปเชียงใหม่ คุณถามแล้วนี่ ที่ msn .. สังสัยไม่ตั้งใจอ่านที่อัลมิตราเขียนตอบ
7 มกราคม 2550 16:28 น. - comment id 643985
มาทักทายคุณครูค่ะ...ชื่นชมกับธรรมชาติ...ทำให้เราจินตนาการได้..ทั้งความสุข..และความว้าเหว่...ชื่นชมผลงานค่ะ... ..ขอให้มีความสุขมากๆ..ในปีใหม่..ตลอดไปนะคะ..
9 มกราคม 2550 07:31 น. - comment id 644551
สวัสดีปีใหม่ครับครูใหญ่ ..
3 พฤษภาคม 2550 17:16 น. - comment id 691080
หวัดดีค่ะครู แวะเวียนมาเจอคะ เพราะจังค่ะ ทำไมต้องโศรกหรือค่ะ