Colors Of The Wind . . สี สั น แ ห่ ง ส าย ล ม . . ..๏ เจ้าโปรดได้ใคร่ครวญอย่างถ้วนถี่ ถึงถิ่นที่พสุธาเจ้าอาศัย มีคุณค่าหลายหลากมากเพียงใด ฤๅปล่อยให้อุดมการณ์นั้นสิ้นลง อันห้วงน้ำธรรมชาติเคยปรารถนา ควรรักษาให้งามดั่งความประสงค์ ไยปล่อยร้างหมางเมินเกินดำรง ให้จบลงสมัยเจ้าเท่านั้นฤๅ เจตน์จำนงคงมิใช่นัยยะนั้น ซึ่งสารพันความจริงสิ่งยึดถือ- ขอเพียงเจ้าตรองบ้างอย่าวางมือ ทุกสิ่งคือชีวิตและจิตใจ ด้วยข้า ฯ รู้ว่าภูผามหาศาล เด่นตระหง่านเป็นนิยามความยิ่งใหญ่ ทั้งรวยระรินกลิ่นบุปผาพฤกษาไพร ล้วนทำให้สดชื่นจิตรื่นรมย์ เห็นสรรพสัตว์ชาติพันธุ์อันหลากหลาย เยื้องย่างกรายแสนสนุกต่างสุขสม จึ่งเข้าใจในสัตยธรรมความนิยม เป็นสังคมธรรมธาติอาจอ้างอิง ลองใคร่ครวญพิจารณาซึ่งสาเหตุ โดยสังเกตุมนุษยชนจนสรรพสิ่ง แม้พวกเราแตกต่างอย่างแท้จริง แท้ชายหญิงเสมอกันทุกชั้นชน มีชีวิตจิตใจวิสัยทัศน์ จงแจ้งชัดพิจารณาหาเหตุผล เราต่างเป็นสุจริตวิศวชน เฉกเช่นเจ้า ฯ ผู้ดั้นด้นคนเมืองนั้น ถ้าเจ้ามีความฝันอันยิ่งใหญ่ ด้วยจิตใจเปี่ยมพลังทั้งมุ่งมั่น จักพบสิ่งสารพันอันอัศจรรย์ ที่เจ้านั้นคาดหวังทั้งชีวี นั่นเสียงวฤก*พฤกษ์ไพรใดเห่าหอน ครั้งศศิธรแจ่มจรัสเรืองรัศมี ? เจ้าแมวป่าว่องไวในท่วงที ต่างหลบรี้โจนทะยานผ่านไปมา ลวดลายหลากมากมีสีสวยสด เช่นปรากฏให้คิดซึ่งปริศนา เจ้าจักเลียนเปลี่ยนเสียงเยี่ยงสกุณา ทั้งสัตว์ป่าทั่วไปในบรรพต ? ที่เจื้อยแจ้วแนวป่าพนาสัณฑ์ เสียงลดหลั่นสูงต่ำเกินกำหนด ชมไม้ป่าเถาวัลย์อันเลี้ยวลด ซึ่งไม่คดเหมือนหนึ่งในจิตใจตน เจ้าจักเพียรเขียนวาดสมปรารถนา ให้โสภางดงามตามเหตุผล เป็นลมพัดผ่านคีรีคิริกานน* บันดาลดลแตกต่างนั้นอย่างใด ? อันฤดูกาลแห่งพระพายอันกลายผัน บางครานั้นเสมือนโกรธโทษยิ่งใหญ่ บางครั้งแผ่วพัดผ่านซ่านทรวงใน เจ้าจักเพียรเขียนได้ให้ครบครัน ? มาค้นหาพุทธธรรมอันล้ำค่า ในขุนเขาลำเนาป่าพนาสัณฑ์ มารับรู้สัจจริงสิ่งสามัญ ชิมผลสุกลูกไม้นั้นอันโอชา มาสัมผัสสัตยธรรมล้ำเลอยิ่ง แล้วทุกสิ่งที่เจ้าเฝ้าค้นหา ล้วนรายล้อมทั่วไปให้พิจารณา ต่างสวยงามล้ำค่ากว่าคาดเดา แท้ลมฝนบนฟ้าอีกชลาศัย เช่นพี่น้องคล้องใจในเรือนเหย้า นกกระสาตัวนากหลากหลายเชาว์ เป็นเพื่อนเราตลอดไปด้วยไมตรี แล้วเมื่อเราเปี่ยมล้นกุศลจิต เหมือนญาติมิตรสนิทใจไม่หน่ายหนี พร้อมโอบเอื้อทุกคราอย่างปรานี ยามเรามีประสบเหตุพบเภทภัย ตราบยังเพลินเดินหลงในสงสาร จวบสิ้นกาลไม่รู้ฝั่งอยู่ไหน กิเลสกรรมนำวิบากหลายหลากไป ครั้นเผลอไผลหลงกลจักวนเวียน จงใคร่ครวญให้ถ้วนถี่ที่ดวงจิต สิ่งถูกผิดชนะแพ้ล้วนแปรเปลี่ยน เจ้าจักแจ้งในสัจธรรมอันจำเนียร หมายรักษ์เกียรติ์สุขไว้อย่างไรกัน หากประหาณ*โพธิญาณพิศาลสุทธิ์ ซึ่งประดุจคุณธรรมนำสุขสันต์ แล้วเจ้าจงเพ่งพินิจจิตสัมพันธ์ สิ่งเหล่านั้นจักยังคงสูงส่งฤๅ ? หากเจ้ามีความฝันอันยิ่งใหญ่ ด้วยจิตใจเปี่ยมพลังทั้งเชื่อถือ ความพิลาสอัศจรรย์อันเลื่องลือ เหล่านั้นคือผลสัมพัทธ์แห่งปรัชญา นั่นเสียงวฤก*พฤกษ์ไพรใดเห่าหอน ครั้งศศิธรแจ่มกระจ่างกลางเวหา ? แม้นชนชั้นพันธุ์เผ่าเราแปลกตา เจ้าจงอย่าได้วิตกตระหนกเลย ร่วมปรองดองคล้องใจให้คงมั่น แล้วรำพันบทกวีที่เอื้อนเอ่ย เพลงพรรณนาป่าเขาเราคุ้นเคย ข้า ฯ จักเปรยถ้อยคำนำรื่นรมย์ ร่วมบรรยายร่ายกวีเปรมปรีดิ์นัก ด้วยประจักษ์ความงามตามเหมาะสม ทั้งสีสันตระการใจแห่งสายลม แล้วชื่นชมสมดุลย์อย่างสุนทรี เจ้าจักแจ้งสัจธรรมความจริงแท้ ความผันแปรแห่งโลกธรรมตามวิถี ตราบเมื่อเจ้าระบายความตามเสรี นิยามสีซึ่งเปลี่ยนแปลงแห่งสายลม ๚ะ๛
8 ตุลาคม 2549 22:38 น. - comment id 612958
Colors Of The Wind Artist : Vanessa Williams , Music: Alan Menken , Lyrics: Stephen Schwartz From Disney's Motion Picture "Pocahontas" 1995 Director : Mike Gabriel, Eric Goldberg Writer : Carl Binder, Susannah Grant, Andrew Chapman, Philip LaZebnik Think you own whatever land you land on Earth is just a dead thing you can claim But I know every rock and tree and creature Has a life, has a spirit, has a name Think the only people who are people Are the people who look and think like you But if you walk the footsteps of a stranger You learn things you never knew You never knew 1-Have you ever heard the wolf cry to the blue corn moon? or ask the grinning bobcat why he grinned Can you sing with all the voices of the mountains? Can you paint with all the colors of the wind? Can you paint with all the colors of the wind? Come run the hidden pine trails of the forest Come taste the sun-sweet berries of the earth Come roll in all the riches all around you And for once never wonder what they're worth The rainstorm and the rivers are my brothers And the heron and the otter are my friends And we are all connected to each other In a circle in a hoop that never ends (rpt 1 ...or let the eagle tell you where he's been) How high does the sycamore grow If you cut it down, then you'll never know And you'll never hear the wolf cry To the blue corn moon Or whether we are white or copper-skinned We need to sing with all the voices of the mountains To paint with all the colors of the wind You can own the Earth and still all you'll own is earth Until you can paint with all the colors of the wind ในบทเพลงColors Of The Wind .. Pocahontas พยายามอธิบายให้Captain John Smith เข้าใจถึงความมหัศจรรย์ของโลกและธรรมชาติรวมทั้งจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย เพื่อไม่ให้เขาคิดว่าเหล่านั้นเป็นสิ่งของที่จะยึดเอามาครอบครองเป็นเจ้าของได้ แต่ควรจะอยู่ร่วมกับมันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน เธอยังพยายามทำให้เขายอมรับเพื่อนมนุษย์ที่มีรูปร่างหน้าตาและวัฒนธรรมแตกต่างไปจากตนทั้งยังให้ศึกษาเรียนรู้จากพวกเขาด้วย ท่อนแรกของบทเพลงกล่าวถึงสุนัขป่าที่โหยหวนในคืนจันทร์หม่น แล้วก็กล่าวถึงภาพต่าง ๆ ในท้องเรื่อง จากนั้นก็ กล่าวถึงการเลียนเสียงสรรพสิ่งในขุนเขา แล้วก็สรุปด้วยการจินตนาการภาพอันประกอบด้วยสีสันแห่งสายลม Captain John Smithนำกองทัพเรืออังกฤษไปสู่โลกใหม่เพื่อปล้นความมั่งคั่งกลับสู่อังกฤษ(หรือกล่าวให้ชัดคือ เพื่อความมั่งคั่งของผู้ว่าการ รัทคลิฟ ที่มาด้วยกัน) ในขณะที่ ณ โลกใหม่แห่งนี้ หัวหน้าเผ่า พาวฮาตันกำลังเตรียมพิธีแต่งงานPocahontas บุตรสาวของตนให้แก่นักรบที่เก่งที่สุดของเผ่า แต่Pocahontasกลับคิดอีกอย่างหนึ่ง เธอฝันเห็นลูกธนูพุ่งหมุนติ้ว...จากฝันนั้นเธอเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวเธอกำลังจะมาถึง แล้วชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปจริงๆเมื่อเรือรบอังกฤษเข้าเทียบฝั่งใกล้ๆหมู่บ้านของเธอ ระหว่างรัทคลิฟ ซึ่งเชื่อว่าพวกคนป่าซ่อนทองคำมหาศาลไว้ กับชนเผ่าพาวฮาตันซึ่งเชื่อว่าพวกหน้าขาวที่มาใหม่นี้จะมาทำลายแผ่นดินของพวกเขา Captain John SmithกับPocahontasจึงต้องทำหน้าที่หนักที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดสงครามขึ้นและรักษาความรักของเขาทั้งสองไว้ให้ได้ Pocahontas เกิดปี 1596 (ไม่ปรากฏวันที่แน่นอน) และเสียชีวิต เดือนมีนาคม 1617 Pocahontas เป็นบุตรสาวของพาวอาตัน หัวหน้าอินเดียนแดงเชื้อสายอัลคอนเกวียน (ชนเผ่าพาวฮาตัน)ซึ่งตั้งรกรากอยู่แถวเวอร์จิเนียปัจจุบัน ชื่อจริงของเธอคือ มาโทอะคา ชื่อPocahontasเป็นชื่อเล่น แปลว่า ขี้เล่น หรือ นังตัวร้าย ที่Pocahontasมีชื่อเสียงมากเนื่องจากเธอได้ช่วยชีวิตCaptain John Smith ชาวอังกฤษ ในช่วงชีวิตที่แสนสั้น (เธอตายเมื่ออายุเพียง 22 ปี ) เธอยังมีความสำคัญในด้านอื่นอีก Pocahontasพยายามที่จะให้เกิดสันติภาพขึ้นระหว่างชนเผ่าพาวฮาตันกับนักล่าอาณานิคมชาวอังกฤษ ถึงกับยอมเข้ารีตศาสนาคริสต์และแต่งงานกับ จอห์น รอล์ฟ นักล่าอาณานิคมแห่ง เจมส์ทาวน์ ซึ่งเป็นตัวประสานให้สองกลุ่มรวมกันได้ แต่เนื่องจากเธอไปเสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษเร็วเกินไป ทำให้เสียโอกาสที่จะสานต่อสันติภาพในเวอร์จิเนียระหว่าง อัลคอนเกวียน กับพวกล่าอาณานิคม (John Rolfe and Pocahontas being married at Jamestown ) มีอยู่คำหนึ่งในเนื้อเพลงที่น่าสนใจ คือคำว่า Blue Corn Moon .. คงไม่มีผู้ใดอธิบายความในวลีนี้ได้ดีมากไปกว่าผู้ประพันธ์เพลง (Stephen Schwartz) ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า คำ ๆนี้ ไม่มีความหมายอะไรเลยในเรื่องเล่าของอินเดียนแดง แต่ที่นำมาแต่งเพลงเพราะเขาชอบคำนี้เท่านั้น ซึ่งจุดเริ่มต้นมีอยู่ว่า ขณะที่เขาเตรียมประพันธ์เพลงสำหรับPocahontasนั้น เขาต้องอ่านบทประพันธ์พื้นเมืองมากมาย แล้วบังเอิญไปเจอข้อความในบทประพันธ์หนึ่งว่า "..I will come to you in the moon of green corn.." ..ฉันจะมาหาเธอในเดือนข้าวโพดเขียว.. ชาวอเมริกันพื้นเมืองเรียกเดือน(ปฏิทิน)ว่า เดือน(ดวงจันทร์-moon) โดยตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูนั้น ๆ เช่นช่วงเวลาที่ข้าวโพดออกฟักเขียว ข้อความดังกล่าวโดนใจเขาเป็นอย่างมาก แต่เขาก็คิดว่า ถ้าจะแต่งเนื้อร้องว่า "Have you ever heard the wolf cry to the green corn moon" คงไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ มันเหมือนเอา moon มารวมกับ green cheese กับเสียงสระ อี-ee ในสองคำนี้ เขาเลยเปลี่ยนเป็น blue corn moon ซึ่งผมคิดว่าน่าจะสละสลวยกว่า เพราะใช้วลี "blue moon" (ที่แปลว่า ระยะเวลาอันยาวนาน) แล้วมันก็ยังมีขนมปังข้าวโพดที่เรียกว่า blue corn tortillas จริงๆด้วย กระนั้นก็ตาม มันก็ไม่ได้หมายถึงเผ่าทางตะวันตกเฉียงใต้ว่าจะเป็นเชื้อสายAlgonkians ของPocahontasทางตะวันออกเฉียงเหนือ ... ในสายตาของอัลมิตรา คำว่า blue corn moon เป็นคำที่ผันวลีได้อย่างงดงามทีเดียว อัลมิตราเลือกที่จะเขียนกลอนจากเพลงนี้ ด้วยเหตุที่เพลงบทนี้มีความหมายที่ดี ท่ามกลางโลกที่ร้อนระอุ การแก่งแย่ง...ถึงแม้ว่า ไม่เหมือน แต่ก็คล้ายยุคล่าอาณานิคม อาจจะเป็นไปได้ว่า... ในยุคสมัยของเรานี้อาจจะยังไม่พ้นยุคล่าอาณานิคม เพียงแต่รูปแบบเปลี่ยนไป จากการยึดครองดินแดน ..เป็นการยึดครองเสรีภาพแห่งดินแดนตัวเอง ความรู้สึกที่เราได้รับรู้ได้สัมผัส ในเวลาดูภาพยนตร์คาวบอย เราจะรู้สึกว่า.. พวกอินเดียนแดงนี่ช่างโหดร้ายแท้ อำมหิต และชอบการฆ่าฟัน .. ใช่แล้ว เราถูกกำกับให้รู้สึกเช่นนั้น .. แท้ที่จริงพวกเขาสู้เพื่อมาตุภูมิโดยแท้ เพื่อปกป้องชนเผ่าของตนจากผู้รุกราน.. และจากภาพยนตร์เรื่องPocahontasนี้ ถึงแม้ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนานพอสมควร แต่ความประทับใจยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของอัลมิตรา ซาบซึ้งใจในมิตรภาพของคนสองคน ที่มีความแตกต่างอย่างยิ่งยวด ด้านวิสัยทัศน์ สังคม อุดมการณ์ ความเชื่อ และวิถีชีวิต รวมถึงเชื้อสายเผ่าพันธุ์ มิตรภาพที่ดีนี่ .. ไม่มีสิ่งใดกั้นขวางจริง ๆ และจากมุมมองที่สวยงาม สื่อความออกจากธรรมชาติที่จริงใจจริงจัง ไม่หลอกลวงทำร้ายมุ่งร้ายกัน .. ถือได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่สวยงามและให้แง่คิดที่ดีมากทีเดียว ":.อย่าคิดว่ามันจะเป็นอะไรที่เจ้าสามารถยึดครองหรือเอามาเป็นเจ้าของได้ แต่ควรจะอยู่ร่วมกับมันด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน.." ประโยคที่Pocahontasกล่าวกับCaptain John Smithในนัยยะของบทเพลง Colors Of The Wind ประโยคดังกล่าวคงเป็นสัจธรรมที่ยังคงเป็นนิรันดร์ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
8 ตุลาคม 2549 23:30 น. - comment id 612961
ขออนุญาติเอาเพลงแปะได้ไหมคะ ชอบเพลงนี้ด้วยซีคะ
8 ตุลาคม 2549 23:37 น. - comment id 612963
หน้าแตกเลย ทีแรกไม่ได้ยินเสียงร้องอ่ะค่ะ ชอบเพลงนี้จัง ชอบดูการ์ตูนของวอล์ท ดิสนีย์ เกือบทุกเรื่องเลยค่ะ แต่งกลอนได้ดีจังเลยค่ะ
9 ตุลาคม 2549 00:51 น. - comment id 612970
ขอมาอยู่ข้างๆ..แล้วมานั่งอ่านบทกลอนที่งดงามค่ะ..
9 ตุลาคม 2549 09:22 น. - comment id 613003
SA-WAD_DEE-KA I love your poem, picture and story ^________________^
9 ตุลาคม 2549 12:22 น. - comment id 613060
เพราะจัง... บทกลอนและบทเพลง...
9 ตุลาคม 2549 15:59 น. - comment id 613148
คิดถึงน่ะ ตัวเอง.. ว่างๆ จะแวะมาสร้างสีสันบ้าง..รอเต่าด้วยน่ะ...
9 ตุลาคม 2549 16:44 น. - comment id 613159
มามอบรอยยิ้มให้กับสีสันอันงดงามของมิตรภาพ... ....และสันติภาพที่แท้จริงของมนุษยชาติ
9 ตุลาคม 2549 22:10 น. - comment id 613275
Colors Of The Wind . .เป็นผลงานประพันธ์ของ Alan Menken เนื้อร้องโดย Stephen Schwartz ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทเพลงดีเด่นในปี 1995 จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของดีสนีย์เรื่อง Pocahontas แล้วยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ the Golden Globe ในสาขาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงาน Grammy Award อีกด้วย บทเพลงบรรยายถึงทัศนคติของชาวพื้นเมืองอเมริกันที่มองโลกเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่มนุษย์จะต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับทุกๆสิ่งในธรรมชาติ Judy Kuhn เป็นผู้ร้องเพลงนี้แทนเสียงของ Pocahontas ในภาพยนตร์ แต่ Vanessa Williams เป็นผู้ร้องอัดแผ่นกลายเป็น single ยอดฮิตแผ่นหนึ่งของ Williams ไปในปี 1995 ได้รางวัล gold single ที่มียอดขายถึง 500,000 แผ่นทีเดียว หลังจากนั้นก็มีการร้องใหม่อีกหลายครั้งโดย Ashanti, Edyta G๓rniak (สำหรับภาพยนตร์ภาคภาษา Polish), Christy Carlson Romano และ Arturo Sandoval. จากรางวัลที่พิสูจน์ได้ดังกล่าว ทำให้อัลมิตราไม่แปลกใจเลยว่า.. เหตุใดอัลมิตราจึงยังตราตรึงกับความรู้สึกที่เป็นสุขเมื่อได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และเมื่อได้ยินเสียงเพลงColors Of The Wind . .ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เป็นบทเพลงหนึ่งที่อัลมิตราชื่นชอบ อัลมิตราเคยเขียน พระพายอันกลายผัน ที่เป็นบทอีทิสังฉันท์ถอดความจากเพลง wind of change และ ดั่งเศษธุลีในสายลม ซึ่งถอดความเป็นโคลงจากเพลง dust in the wind และก็มาถึงเพลงนี้สี สั น แ ห่ ง ส าย ล ม . . Colors Of The Wind . . โดยเลือกที่จะถอดความเป็นกลอน .. มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ .. ความสุขที่อัลมิตราไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกด้วยตัวอักษรใด.. การที่มีเวลาสำหรับตนเอง ทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ดื่มด่ำกับจินตนาการ หรือว่าจะเหมือนกับบรรดาจิตกรที่มีความรู้สึกยามได้ระบายสีสันจากปลายพู่กันลงบนผืนผ้าใบ .. เอ ไม่รู้สิ ! จะอธิบายอย่างไรดีหนอ ความรู้สึกดี ๆ แบบนี้ คุณเฌอมาลย์ .. :) อัลมิตราก็ชอบดูการ์ตูนของวอลล์ ดิสนีย์เช่นกันค่ะ บางเรื่องดูซ้ำ ๆ หลายรอบค่ะ คุณwhite rose .. มาอิงกันข้าง ๆ แล้วจะขับถ้อยกวีให้ฟังนะคะ คุณพาฝัน .. ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตราตัดสินใจอยู่นาน ว่าจะเลือกภาพใดดี ที่ให้ความรู้สึกของความเป็นสีสันแห่งสายลม ในที่สุดก็เลือกภาพที่โพคาฮอนทัสกับกัปตันสมิธโลดแล่นบนทุ่งกว้าง โดยที่มีจิตวิญญาณของสรรพสัตว์อยู่รายล้อม ซึ่งตรงกับภาพที่อัลมิตรานึกได้จากเนื้อเพลงค่ะ ส่วน story อัลมิตราใช้วิชา ค้นและคว้า.. โดยแปลจากต้นฉบับค่ะ เพื่อให้สมบูรณ์ที่สุด คุณแมงกุ๊ดจี่ .. ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตราก็ชอบเพลงนี้นะ มีความหมายดีค่ะ คุณกุ้งหนามแดง .. คิดถึงเหมือนกันจ๊ะ อัลมิตรามีเวลาว่างเป็นเฮือก ๆ ( แหะ แหะ แทนที่จะใช้ว่า เป็นพัก ๆ เนอะ) สภาวะของโลกนี่ดูช่างวุ่นวายจัง อัลมิตราเพียงแต่หามุมสงบ เสพย์บางอย่างเพื่อให้ตัวเองสุขค่ะ คุณศศิชนก .. ขอบคุณค่ะ ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่คงมั่นนั้น
9 ตุลาคม 2549 22:17 น. - comment id 613279
คงต้องหาบบรไดสักอัน เอาไว้ปีนขึ้นไปฟังเพลง จับคนทั้งหมดเท่าไร น่าจะบอกนะครับเจ้านาย
9 ตุลาคม 2549 23:58 น. - comment id 613293
ขยันจังเลย น่าอ่านมาก มาก
10 ตุลาคม 2549 01:20 น. - comment id 613294
ยังงดงามยิ่งใหญ่ในความหมาย ยังคมคายในรสคำนำพาฝัน ถึงสัจธรรมสีสันแห่งลมนั้น ยังคงมั่นกว่าสิ่งใดในโลกา
10 ตุลาคม 2549 08:52 น. - comment id 613331
....งานหน้า..ขอ Blowing in the wind นะลิง...
10 ตุลาคม 2549 10:15 น. - comment id 613347
ฉันจะมาหาเธอในเดือนข้าวโพดเขียว เราจะดื่มน้ำองุ่นสดสีม่วง นั่งดูพระจันทร์สีเหลือง เมื่อท้องฟ้าสีคราม พระอาทิตย์สีแดง เราจะถือกะละมังสีบานเย็นไปเก็บข้าวโพดกัน สีสันแห่งชีวิต อยู่ในสายลมและความรู้สึก แม้ว่าความรักจะทำให้เราตาบอด แต่หัวใจเราเห็นยิ่งกว่า อย่างไรก็ตาม หากเราต้องถูกปิดตา ปิดหู ปิดปาก อนุญาตให้แต่งแต่กลอนรัก สีสันของโลกก็ยังคงมีอยู่ ข้าวโพดเขียว หน้าเขียว อะไรๆก็สีเขียว น้ำเป็นของปลา ฟ้าเป็นของนก นรกเป็นของเรา นรกสีเขียว
10 ตุลาคม 2549 12:28 น. - comment id 613389
คุณฤกษ์.. ความจริงแล้ว control mute volume ก็จะไม่ได้ยินเสียงนะคะ จะได้ไม่ต้องกังวลใจ แต่ละคน ความชอบและไม่ชอบ บางทีก็เหมือนกัน บางทีก็แตกต่างกัน สำหรับอัลมิตราเอง ในบางอารมณ์ก็เลือกฟังเพลงที่แตกต่างกันบ้าง แล้วแต่โอกาส โพทาฮอนทัส.. อัลมิตราเล่าคร่าว ๆ เพียงเท่านี้ หากคุณฤกษ์สนใจ หาซื้อซีดีมีลิขสิทธิ์ได้นะคะ เข้าใจว่า ร้านแมงป่องยังคงมี :) คุณครูใหญ่โรงเรียนเล็ก .. เหมือนขี้โม้เนอะ กระทั่งในส่วนคอมเมนท์ยังโม้มาอีกตั้งแยะ กรรมของคนอ่านละกัน .. คนเขียนสุดจะแฮปปี้ .. ฮา คุณWhiteWizard.. :) สัจธรรมสีสันแห่งสายลม ปรัชญางามสมในบทเพลง คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. มีการ request อีกน่ะ ก่อนหน้านั้นก็เคยมีนะ มีคนขอให้เขียนถอดความเพลงนั้น เพลงนี้ .. แอบกระซิบอะไรให้ มีเพลงที่อยู่ในใจ ถอดความเป็นภาษาไทยไว้แล้วด้วยค่ะ รอแต่ว่า เมื่อไหร่จะมีอารมณ์นึกอยากจะเขียนเท่านั้น .. อยากรู้ล่ะสิ ว่าเพลงอะไร ..อั่นแน่ .. บอกก็ได้ ยังคงไม่พ้น sound track จากภาพยนตร์ของวอลล์ดิสนี่ย์ เรื่อง Lion King (ใบ้แค่นี้ก่อน..) และที่จด ๆ จ้อง ๆ มาข้ามปี sound track จากภาพยนตร์แนวแอคชั่น คุณคงได้ดูเรื่อง Con air .. (เดาสิ) ม้าลาย .. :) เราจะแข่งวิ่งถลาลงจากเนิน เพื่อไปยังทุ่งข้าวโพดสีเขียว ในค่ำคืนที่มีพระจันทร์สีส้มดวงโตลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือผิวน้ำ ท่ามกลางสีสันแห่งสายลม เราจักเบิกบานต่อการได้สัมผัส ได้รับรู้ เหนือกว่านั้น ความรักของเรา .. ซึ่งต้องใช้หัวใจเท่านั้น ทุกอนูแห่งโลกตระการตาไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา .. รวมทั้งเรา .. ไม่มีเว้น .. ใช่มั๊ย ม้าลายลายสีฟ้าสลับชมพู
10 ตุลาคม 2549 13:20 น. - comment id 613402
คุณเป็นชายหรือหญิงครับช่างมีความลึกซึ้งในอารมณ์จัง
10 ตุลาคม 2549 16:42 น. - comment id 613515
คุณกุญแจฟา .. ทำให้อัลมิตรานึกถึงเครื่องหมายกุญแจซอล ที่คล้าย ๆ กับ Cap. I :) อัลมิตราเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายค่ะ และอัลมิตราก็สามารถหายวับไร้ตัวตนทั้งๆที่ไม่มีตัวตน
10 ตุลาคม 2549 22:25 น. - comment id 613561
คุณsodasasa .. คิดถึงนะคะ ยังจำรอยยิ้มได้อยู่เลย :)
10 ตุลาคม 2549 23:00 น. - comment id 613565
บรู๊ววววว ใครเรียกหาวฤก น่ะ
11 ตุลาคม 2549 03:00 น. - comment id 613578
11 ตุลาคม 2549 08:00 น. - comment id 613596
อาหมอ .. ระหว่าง ศฤคาล สฤคาล วฤก ... อัลมิตราคิดอยู่ตั้งนาน ว่าจะเลือกใช้คำอะไรดี แต่ในที่สุดก็เลือกคำว่า วฤก .. ๕๕๕ นึกถึงหน้าของอาหมอไปด้วยนะเนี่ย blue corn moon .... อาหมอนี่ ส่งเสียงก้องไพรเชียวนา คุณธรรมาภิวัฏ .. :) ขอบคุณค่ะ ที่แวะมา
10 ตุลาคม 2549 19:32 น. - comment id 613629
อิจฉาสายลมอันแสนสุขจังเลยนะคะ ตอนนี้ทำไมความรู้สึกของน้อง มันมีแต่สายลมแห่งความเศร้า ที่พัดวนเวียรอบๆตอบไปหมด
5 กรกฎาคม 2550 21:08 น. - comment id 720322
ทำไมไม่เอาทาร์ซานมาลงบ้างคะน่าเสียดาย