เกิดมาเดิน เหินได้ โดยไร้เท้า และร่ำเล่า เรื่องได้ โดยไร้เสียง และไห้โหย โดยไม่ มีใครเคียง เขาให้เพียง เดียงสา อารมณ์ตรม เกิดมาบิน ผินได้ โดยไร้ปีก และเปลี่ยวปลีก วิเวกเด่น โดยเข็ญขม และหายใจ ลอยได้ โดยไร้ลม โอ้สุขสม จนตรมตาย ได้ทั้งเป็น ทุกคืนคึก ดึกดื่น เขาหื่นหรรษ์ โลกมีฉัน โดยไม่ มีใครเห็น นิ่งรุ่มร้อน ซ่อนไว้ ในเยือกเย็น หมุนโลกเล่น เป็นลูกไก่ ในกำมือ ฟ้าสร้างสรรค์ ฉันสิ้น ศิลป์ศาสตร์เศียร เป็นนักเขียน เวียนไหว้ สิงลายสือ โศกเกษม เกษียนได้ แม้ไร้มือ นักเขียนคือ นักลิขิต บ่บิดเบือน มีวิญญาณ แปลกแยก และแผกทิศ มีชีวิต ที่ไม่ มีใครเหมือน จักสร้างสิ่ง ยิ่งใหญ่ ให้ย้ำเตือน ว่าโลกเลื่อน เคลื่อนได้ โดยไร้ 'เธอ'
24 พฤษภาคม 2549 18:37 น. - comment id 579378
จริงหรือนั่น ... สรรค์โลกไร้โศกสุข ไร้สมองมือปลุกอันยิ่งใหญ่ ไร้ปีกบินผินโลกกว้างอันห่างไกล ไร้สมองโปร่งใสไร้แนวทาง ไร้ใครเคลื่อนบันดาลใจให้เขียนคิด ไร้ดวงจิตแรงดันฝันแตกต่าง ไร้ความรักผลักเคลื่อนเหมือนอำพราง ความอ้างว้างเกิดขึ้นฝืนทำไม คุณบอกว่าไร้มือสื่องานศิลป์ ไร้หูยินสรรพเสียงสำเนียงใส หรือประชดทดแทนแฟนคนใด จึงบอกไม่, แม้ใจช้ำ กล้ำกลืนทรวง
24 พฤษภาคม 2549 21:10 น. - comment id 579397
ทุกบทล้วนวิจิตร ครับ
25 พฤษภาคม 2549 00:22 น. - comment id 579426
ปราณรดี... เจ้านี้ช่าง เป็นอย่างคิด เจ้ามีจิต พิศมัย อันใสสด ขานคำชัด กะทัดรัด อรรถรส กลอนข้าหมด ค่าหรู ดูคลอนแคลน อยากให้เจ้า เข้าแผง ไปแทงหวย ใช่โชคช่วย แต่ด้วยเจ้า ช่างเดาแม่น ข้าเขียนบท ประชดฝัน ประชันแฟน นั่นคือแก่น แกนประพันธ์ อันแท้จริง แต่ข้าแนบ แอบแฝง จำแลงเหตุ ในมนต์เวท อักษรา ที่ข้าสิง เพราะข้าเจ็บ จึงเก็บทุกข์ ทุกเรื่องจริง ไม่เคยทิ้ง กลับเล่น เป็นบทกลอน