ครวญคร่ำเสียงร่ำไห้ กว่าหัวใจสลายหม่น วอนหวังในวังวน เศร้าสับสนทบท้นทาง ขุ่นข้องจนหมองขวัญ ไขว่คว้าวันเลือนฝันจาง เปล่าว่างและอ้างว้าง ครอบขวากขวางดั่งข่ายกล รอยเท้าที่ก้าวย่าง แสงเทียนพร่างกระจ่างกมล เรืองรองแรงส่องหน คลายมืดมนอับจนใจ ฉายชีพที่ตีบตัน มิหลงวันมิฝันไป ไล้โลมดั่งโคมไฟ สว่างไสวฤทัยฤๅ ตราบที่ชีวิตอยู่ อดทนสู้ให้รู้ชื่อ ขันแข่งและแย่งยื้อ ยึดสัตย์ซื่อนั่นคือคน หยุดครวญหยุดหวนไห้ โลกรุกไล่เกินใจยล หยาดพรายแห่งสายชล ดับร้อนรนด้วยปัญญา สงบเย็นเป็นนิรันดร์ ลบโศกศัลย์จำนรรจา หลุดพ้นเลิกค้นหา รื้ออัตตาอาจเห็นตน
23 มีนาคม 2549 08:11 น. - comment id 568064
เห็นอัตตาจนหลุดร่วง จึงลุล่วงเห็นตนได้ มั่นคงและมั่นใจ ไม่หวั่นไหวเพราะเห็นจริง : ) สวัสดีค่ะ คุณร้อยแปดพันเก้า
23 มีนาคม 2549 19:30 น. - comment id 568159
...ตัวตน..คืออัตตา อวิชชาพาลุ่มหลง ....จิตใจ..ที่มั่นคง แม้ชีพปลงให้ละวาง... ....ตัวตนนั้นเริ่มก่อ อย่าพึ่งท้อหมั่นถากถาง ....ค้นพบ..วิถีทาง คือสายกลางแห่งมรรคา ...เส้นทาง..แห่งชีวิต เราลิขิตและเสาะหา ...หมดสิ้น..อวิชชา ด้วยปัญญา..มรรคาลัย ...ครองตน..ด้วยสติ ลดทิฐิจิตผ่องใส ...ค้นพบ..ด้วยภายใน ปรับที่ใจ....ของเราเอง อ่านแล้ว..เกิดแรงบันดาลใจ...ขออนุญาตแจมงานด้วยนะคะ...
24 มีนาคม 2549 05:33 น. - comment id 568204
คุณร้อยแปดพันเก้า เรียนรู้ได้เร็วจริงๆ ค่ะ ชื่นชมจริงๆ
24 มีนาคม 2549 10:19 น. - comment id 568219
สวัสดีครับ ทุกท่าน ผมกลับไปค้นดูต่อ ยังไม่แล้วใจเรื่องการเขียนกาพย์น่ะครับ ยังคิดจะเขียนต่อไปสักพัก มีกาพย์ยานี ๑๑ ชิ้นนึงมาฝากเพื่อนๆ ผมตั้งใจจะยึดเป็นแบบแผนเช่นกัน ข้างกองไฟ...เขียนโดยคุณเวทย์ เวลายังเลื่อนไหล ความเป็นไปก็เปลี่ยนแปลง ชายชราล้าเรี่ยวแรง ระริกร่างอยู่กลางลาน ผิงไฟในคืนหนาว เล่าเรื่องราวสู่ลูกหลาน กี่พบประสบการณ์ กี่ทุกข์ยากกี่ตรากตรำ นิทานแห่งท้องทุ่ง ที่เรียวรุ้งเคยเริงรำ ก่อนม่านอันมืดดำ จะกางกั้นเลือนฝันไกล เนิ่นนานผ่านล่วงมา ก่อนผืนป่าจะหมดไป พื๙สัตว์เกลื่อนชัฏไพร มีพอเพียงเลี้ยงชีวา ห้วยหนองน้ำนองไหล อุดมไปด้วยปูปลา กบเขียดริมคันนา มองทางไหนได้เห็นตัว ภาพฝันพลันเลือนหาย โลกกลับกลายอย่างน่ากลัว ผลักคนพรากครอบครัว ทิ้งนาไร่ไปขายเรง เหลือแต่คนแก่เฒ่า ดูแลเหย้าเด็กเล็กแดง ชีวิตหวาดระแวง วันข้าวหมดคืออดตาย นับวันคอยเวลา เงินส่งมาพร้อมจดหมาย ทุกข์ร้อนกร่อนใจกาย กล้ำกลืนทนจนชาชิน ไร่นาจำนองหมด จึงเก็บกดกับหนี้สิน ฟ้าแล้งระแหงดิน แต่พูนพอกดอกเบี้ยบาน วันนี้ที่ท้องทุ่ง ลบเลือนรุ้งตลอดกาล ช่วงหนาวช่างยาวนาน นึกแล้วน่าน้ำตาริน ขณะนั่งอังเปลวไฟ น้ำตาไหลลงโลมดิน พรุ่งนี้มีข้าวกิน กับเกลือแกล้มกันจืดเกิน ลองดูเนื้อหาในการเขียน การเรียงลำดับความ คำ-ความหมาย มีสัมผัสอักษรแพรวพราว เล่นจังหวะตกกระทบ สำหรับผมมองเห็นความงาม ความเรียบง่ายจากการใช้คำ เห็นแง่คิดคมคายลึกซึ้งจากถ้อยคำธรรมดาแต่งานออกมาไม่ธรรมดา สำหรับงานผม ยังห่างไกลมาก แต่สิ่งเดียวที่เพื่อนๆ จะเห็นได้จากผมคือ ความพยายาม ซึ่งสามารถแสดงความคิดเห็นในเนื้อหาของงานผมได้นะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ
24 มีนาคม 2549 11:54 น. - comment id 568245
แวะมาอ่านค่ะ.......
24 มีนาคม 2549 17:00 น. - comment id 568315
อันชีวิตมนุษย์ดุจความฝัน สารพันศฤงคารเงินมากมี รูปรสกลิ่นทอนสติสมปดี จะอัปปรีย์เพราะโลภหลงจงละเลย