กลอนหัวเดียว อันว่าประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์ วันนี้ก็ถึงวันที่ 6 กุมภา พวกสื่อมวลชนคนรุมรายล้อม เดินวนเดิมอ้อมสัมภาษณ์ไปมา ตัวแทนพรรคการเมืองของแต่ละพรรค เรียงรายทายทักพี่น้องชาวประชา ออกมาประกาศตัวนอบน้อมพร้อมช่วย พร้อมแนบมาด้วยนโยบายต่างต่างนานา จะอาสาบ้านเมืองรับเรื่องรับใช้ เพื่อให้คนไทยมีกิน4ปีข้างหน้า นโยบายพร่ำบอกออกดอกออกผล ทำให้ผู้คนที่ทำไร่ไถนา ไม่ถูกพ่อค้าหน้าเลือดกดเกรด ให้ผลิตภัณฑ์เกษตรสิ้นไร้ราคา เด็กน้อยเด็กซนเยาวชนรุ่นใหม่ ให้เป็นเด็กไทยที่มีการศึกษา วัยรุ่นวัยเรียนต้องห่างต้องไกล ไม่มั่วสุมเสพย์ติดพิษสุรา ยามเจ็บยามไข้ได้เป็นคนป่วย รัฐบาลช่วยแบ่งเบาค่ายา อุทกภัยภาคใต้ขมขื่น ให้ช่วยฟื้นฟูเร่งรัดพัฒนา อีกทั้งปัญหาความไม่สงบ อย่าได้ประสบอีกครั้งอีกครา ประชาชนชาวไทยคอยเฝ้าคอยหวัง ว่ากลุ่มพลังที่พวกเขาเลือกกา เป็นการให้โอกาสคนดีมีไฟ ให้เขาเข้าไปออกเสียงในสภา ไปสร้างชาติไทยให้เข้มแข็งแกร่ง ดังคำกล่าวบนแผงป้ายโฆษณา ตั้งแต่นี้ต่อไปขอเชื่อใจอีกหน จะถือค่าของคนคือผลงานที่ออกมา
7 กุมภาพันธ์ 2548 20:17 น. - comment id 421704
ดีแล้วนะนั่นคือการที่คุณ พยายาม ทำในสิ่งที่คุณต้องการ ผม ชอบนะคนที่ทำตามใจตัวเองในสิ่งที่ดี ม๊านสร้างสรรค์และสรรค์สร้างดี แต่ก่อนผมก็แต่งกลอน ไม่เป็นหรอก ก็ใช้ความพยายามเนี่ยแหล่ะ และใช้บวกจินตนาการ ถ่ายทอดมา ขอให้คุณ พยายาม ทำในสื่งที่ชอบสุด ๆ นะ อย่างน้อยผมก็ทำ เหมือนกัน
7 กุมภาพันธ์ 2548 21:39 น. - comment id 421828
จากประสบการณ์ทำงาน 4 ปี บางทีเป็นตัวชี้วัดได้ว่า เขาจะพาพลเมืองไทยก้าวไปทางไหน อัลมิตราก็ได้แต่หวังว่า สายตาเขาจะกว้างไกล และพาข้ามวิกฤตไปได้อย่างปลอดภัยค่ะ
7 กุมภาพันธ์ 2548 22:21 น. - comment id 421877
เห็นด้วยกับคุณอัลมิตราค่ะ และชอบกลอนแบบนี้แปลกดีค่ะ กลอนหัวเดียว แบบคำลงท้ายต้องให้เหมือนกันใช่ไหมคะ เห็นคุณลงท้ายด้วย สระ อา เกี่ยวไหมเนี่ย คิดเอาเองน่ะคะ ใช่ไหมคะ
7 กุมภาพันธ์ 2548 22:25 น. - comment id 421881
-*เสียงอะโหลโฆษณาเหมือนฟ้าป่วน ผายลมล้วนเหม็นไปทั่วทุกแห่งไห เลือกไปแล้วได้เป็นแล้วแล้วเป็นไง ไปรับใช้ใครเล่าเงาไม่มี-*
7 กุมภาพันธ์ 2548 22:52 น. - comment id 421899
แต่งได้ดีค่ะ
7 กุมภาพันธ์ 2548 22:56 น. - comment id 421901
ขอบคุณค่ะสำหรับความคิดเห็น ใช่ค่ะ ต้องลงท้ายเหมือนกัน ลงท้ายด้วย อา ก็เรียกว่ากลอนลา ลงท้ายด้วย ไอ ก็เรียกว่ากลอนไล ประมาณนี้ค่ะ สำหรับอันนี้ก็เป็นกลอนหัวเดียว มันหัวเดียวตรงไหนเนี้ย ท้ายเดียวมากกว่าเนอะ *_*
7 กุมภาพันธ์ 2548 23:43 น. - comment id 421926
พยายามอ่านกลอนหัวเดียวอย่างตั้งใจ .. เพราะวรรคตอนติดประชิดถึงขนาดนั้น พอมาอ่านคอมเม้นท์ของคนอื่นๆ พาลติดจังหวะของกลอนหัวเดียวมาด้วย....อา