ในความนิ่งเงียบงันของวันหนึ่ง ความคำนึงเก่าก่อนจึงย้อนหวน กลิ่นไม้ดอกบ้านนาน่ารัญจวน มาอุ่นไอเคล้าอวลจิตวิญญาณ ในหอมนั้นงดงามความเรียบง่าย หอมสันติกำจายในแสงศานต์ เมื่อเสียงเพรียกแผ่วเบาเงาตำนาน กระซิบผ่านบึงบัวทั่วท้องนา เสียงกระซิบแผ่วเบาบอกเช้าใหม่ จากฟากฝั่งโพ้นไกลไพรพฤกษา อยู่ในเสียงครวญคร่ำโกกิลา ในน้ำค้างร้อยห่าที่พร่าพราย อยู่ในความอบอุ่นแห่งลอมฟาง อยู่ในเถียงนาร้างไร้จุดหมาย กลางกองฟืนซีดเซียวอันเดียวดาย อยู่ในกายในจิตนิดหนึ่งนี้ เพราะเสียงนั้นอัศจรรย์ในวันพระ สื่อเสียงเพรียกพุทธะทุกวิถี เมื่อวิหคเบิกบานม่านรพี แล้วผกลาจากเวทีไม่จีรัง เสียงเพรียกทุ่งรุ่งแล้วในแนวจิต ปลุกชีวิตตื่นรับกับความหวัง ในอุษาท้องนานี้มีพลัง ด้วยบทเพลงประดังระฆังนา เมื่อตอซังแห้งหอมย้อมลำแสง จึงแสดงเกล็ดน้ำวาวเย้าวรรษา สื่อสำเนียงเสียงเพรียกสำเหนียกนา ว่ารอคอยฝนฟ้าหน้าฤดู อีกเสียงหนึ่งแว่วซึ้งท้ายหมู่บ้าน สู่ผืนงานไร่ข้าวแต่เช้าตรู่ กระดึงดิ่งพลิ้วไหวในเกลียวกรู ยามวัวควายคุมหมู่สู่ดงตาล ในเวทีธรรมชาตินิวาสดง ใต้เผ่าพงศ์พุทธรรมนำสังขาร เปิดฉากภาพด้วยชีวิตนิมิตงาน แล้วดำดิ่งสู่นิพพานทุกกาลเยือน ทุกสรรพเสียงชนบทคำรบไหน ทุกตำบลพงไพรที่ใดเหมือน แท้งดงามท่ามชะตาอันพร่าเลือน รอวิถีอันบิดเบือนทุกเดือนปี ศักราชหมุนอยู่ไม่รู้เหนื่อย แต่เสียงเพรียกหน่ายเนือยเริ่มจรหนี พร้อมกับการเหือดหายสายวารี ชนบททุกวันนี้...ไม่มีแล้ว ----------------------------- ข้าพเจ้าเปิดศักราชใหม่แห่งชีวิต ด้วยการไปเยือนท้องทุ่งชนบท แห่งอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ดินแดนปทุมชาติ ทุ่งนาและหมอลำ ที่เคยไปฝากรักฝากใจไว้ใน มนต์รักที่ราบสูง คราวไปเยือนเมื่อปีกลาย ในยามเช้าหนึ่งนั้น ท่ามกลางเส้นทางสายหมอกพราง.... ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาในวันพระ พร้อมรับฟังความบรรเจิดแห่งดนตรีท้องทุ่ง แปลกที่ดนตรีนั้นกลับแผ่วเลือน และแผ่วเบาลงทุกขณะๆ ราวกับจิตวิญญาญของสรรพสิ่งที่นี้ กำลังจะหายไปเสียแล้ว เทียนไขถูกจุดขึ้นในเถียงนาหลังน้อยกลางทุ่ง ก่อนอุษาจะสะท้อนแสง หยิบหนังสือเล่มงาม จากแรงมาเป็นรวง มาเปิดอ่านบทกวีวิถีชาวนา บทกวีกล่าวถึงความพินาศและสิ้นไป แห่งวิถีชาวนาและชนบท บทกวีกล่าวถึงการสูญเสียทางจิตวิญญาณ ให้กับกระแสวัฒนา..... ข้าพเจ้าหลั่งน้ำตาเงียบๆ อธิษฐานเพียงเสียงเพรียกอันแผ่วเบา ของดุเหว่านา และโกกิลาใกล้รุ่ง และหวังให้ธรรมชาติอันบริสุทธิ์แห่งนี้ ได้กลับมาสู่แผ่นดินที่ราบสูงนี้อีกครั้ง เป็นพลังให้ผู้คนที่วารินฯ ได้ใช้ชีวิตอยู่ตามกลางธรรมชาติสามัญต่อไป
16 มกราคม 2548 02:41 น. - comment id 406830
ถ้าจะบอกว่าคิดถึง คำนี้มันเชยไปไหมคะ..ลำน้ำน่าน แต่มันเป็นเช่นนั้น คุณนิวของทุกคนหายไป.. เขียนงานแปะไว้บ้านอื่นเห็นอยู่.. ท่องเทียวอุบล คงจะหนาวละสิ ขอบอกคำเชยๆ อีกที ว่าคิดถึง
16 มกราคม 2548 06:12 น. - comment id 406833
รดา ไม่ได้เห็นคำว่า โกกิลา เถียงนา มานานมากแล้ว.... ไม่รู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้จะแปลได้หรือเปล่านะ อยากเห็นคำเก่าๆ ภาษาสวยๆแบบนี้อีกค่ะ
16 มกราคม 2548 06:16 น. - comment id 406834
จ๊ะเอ๋ หนุ่มน้อย
16 มกราคม 2548 07:24 น. - comment id 406844
คิดถึงเช่นกันครับ
16 มกราคม 2548 07:44 น. - comment id 406850
ธรรมชาติ สวยงามในใจมนุษย์..ผู้ใฝ่หาเสมอ ถึงแม้ว่าขณะนี้.. ความสมบูรณ์ของมันลดน้อยลงไปก็ตาม ...................................................................... เปิดศักราชใหม่..สู่การเดินทางในชนบท ทุกย่างก้าวที่ก้าวไป..ขอให้มีความสุข ....................................................................... งานของคุณยังงดงามเช่นเคย .......................................................................
16 มกราคม 2548 09:09 น. - comment id 406853
ได้อ่านบทกลอนชมทุ่งของคุณลำน้ำน่านครั้งใด ก็ให้รู้สึกสบายใจทุกครั้งไป... เหมือนภาพ...เหมือนกลิ่น...มาล้อมมาลอยอยู่ใกล้ๆ ระลึกถึงอยู่เสมอนะคะ... .......................................................................... ลี่...ผู้มาเยือน .
16 มกราคม 2548 09:35 น. - comment id 406856
ชนบทวันนี้หรือวันต่อๆไปวันไหน...ก้ไม่มี
16 มกราคม 2548 09:55 น. - comment id 406867
บทกวี .. ที่งดงาม.. และ..อ่อนโยน.. เรน .. คิดถึง .. พี่นิว ..นะคะ .. ...
16 มกราคม 2548 10:43 น. - comment id 406876
น่าเศร้าจังนะคะ ท้องทุ่งนาครานี้มิมีแล้ว......
16 มกราคม 2548 11:03 น. - comment id 406894
งามนัก
16 มกราคม 2548 11:16 น. - comment id 406906
เห็นด้วยกับ หมักมรกต หาที่เปรียบไม่ได้แล้ว เรียบง่าย แบบชาวบ้านเรา งดงามจริง ๆ
16 มกราคม 2548 13:04 น. - comment id 406993
งามทั้งคำและภาษา ยิ่งมองภาพไปด้วยอ่านไปช้า ๆ อาลัยมาก ๆ ครับ
16 มกราคม 2548 18:03 น. - comment id 407250
ชื่นชมผลงานมากเลยค่ะ
16 มกราคม 2548 19:27 น. - comment id 407273
ไพเราะมากเลยครับ
16 มกราคม 2548 20:21 น. - comment id 407309
งดงามมากๆค่ะ บ้านน้าสาวอยู่วารินชำราบค่ะ อ่านแล้วทำให้คิดถึงเลยนะคะ
16 มกราคม 2548 21:59 น. - comment id 407353
คิดถึงเพลงบน้ำตาสาววารินของจินตรา ที่สาววารินถูกหนุ่มมาหลอกไว้ตอนงานแห่เทียนเข้าพรรษา ไม่แน่ชีวิตของคนเราอาจจะมาเจอะเจอกันโดยบังเอิญก็ได้ แต่บางทีอาจจะไม่รู้จักันในตัวตนจริง ว่าจะแต่งเรื่องเกี่ยวกับบ้านนาอยู่สักเรื่อง จับปากกามาที่ไรจะทื่อ เขียนเรื่องไม่ถนัดยาก แต่ก็เป็นการท้าทายความสามารถเหมือนกัน คงแวะมาทักทาย ในบทกลอนที่มีคุณค่านี้
16 มกราคม 2548 23:33 น. - comment id 407460
งานงามของยอดนักกวีชายไร้ที่ตำหนิสร้างอรรถรสทุกขั้นตอนได้สุดยอดเยี่ยมครับ แก้วประเสริฐ.
17 มกราคม 2548 00:06 น. - comment id 407489
ไพเราะและงดงามมากเลยค่ะ มาชื่นชมในผลงาน และสวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะ มีความสุขมากๆๆๆๆๆนะค่ะ
17 มกราคม 2548 02:01 น. - comment id 407542
นอนเหนือหญ้านุ่มนิ่มพริ้มตาหลับ ...ชื่นใจกับธรรมชาติจนวาดฝัน ......ไล่แมลงปอล้อผีเสื้อหลากหลายพันธุ์ .........เก็บบัวผันกลางบึงที่พึงใจ เคยกรีดเล็บเก็บดอกหญ้ามาจุมพิศ ...ดอกนิดนิดแข่งสีคลี่กลีบใส ......นึกความหลังครั้งเก่ายามเยาว์วัย .........อยากกลับไปพบเห็นภาพเช่นเดิม มาชื่นชมผลงานของคุณ..ลำน้ำน่านค่ะ
17 มกราคม 2548 13:09 น. - comment id 407747
สายลมหวนมาชวนรำลึก ให้ยังนึกถึงทุ่งยามรุ่งส่าง คอยคำนึง ถึงอยูไม่จืดจาง รอวันว่าง หวนกลับ นับคืนวัน...... หายไปนานนะค่ะ คุณลำน้ำเน่า..... สวัสดีปีใหม่นะค่ะ......
17 มกราคม 2548 20:06 น. - comment id 407949
ชื่นชมผลงานค่ะ เพิ่งได้ทานก๋วยจั๊บอุบลเมื่อวันเสาร์นี่เองค่ะ เพื่อนอยู่วารินฯนี่แหละค่ะทำให้ทาน ไปแถวไหนมาล่ะคะ
18 มกราคม 2548 14:53 น. - comment id 408445
เสียงเมืองกรุงยุ่งเหยิงเพลิงกิเลส น่าสังเวชเสียงแย่งชิงวิ่งเสาะหา คิดถึงเสียงหริ่งเรไรในบ้านนา ขับบทเพลงบรรเลงพาให้สุขใจ สวัสดีค่ะบุรุษแห่งสายน้ำ ธรรมชาติที่นำสู่ความสุขสงบอย่างจริงแท้..ช่างงดงามนัก
31 มกราคม 2548 13:22 น. - comment id 413728
ผมขอบคุณมิ่งมิตรทุกคนมากนะครับ ที่ให้กำลังใจและติดตามอ่านเสมอมา ถึงแม้นานๆ ครั้งที่ได้เข้ามาก็ยังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทุกครั้งไปครับ จะพยายามเขียนงานต่อไปครับ ตราบเท่าที่ยังมีกำลังใจและแรง ขอบคุณมากจริงๆ ครับ