สว่างแล้ว... สายหมอกเริ่มจางหายไปแล้ว... เสียงนกร้องแว่วๆได้ยินไกลออกไปจากเชิงเขา เสียงไก่ขันราวกับขานรับกันเป็นระยะๆ... สายธารยังคงไหลเอื่อยๆไปตามลำธารคดเคี้ยว บางช่วงก็กระทบโขดหิน เกิดเป็นสายน้ำหมุนวน... ลมเย็นยามเช้าพัดโชยมาแล้ว... ใบไม้แห้งสีน้ำตาล สีส้ม สีเหลืองทอง ทยอยปลิดปลิวตัวเองออกจากกิ่ง หมุนพริ้วล่วงหล่นลงมา... บ้างก็ลงมาสงบนิ่งบนผืนดิน ได้เจอกับเพื่อนเก่าที่รออยู่ก่อนแล้ว... บ้างก็หล่นลงในสายธารที่กำลังไหลไป ต่างรีบหันมาร่ำลาเพื่อนบนฝั่ง ลาก่อน..เพื่อน... ในใจคงมีความหวังว่าสายธารสายนี้จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย พาไปสู่จุดหมายปลายทางข้างหน้าได้... บ้าง โน่นหละ ดูเหมือนยังลังเล ยังคงหมุนพริ้วล่องลอยไปมาอยู่ ช่างมีความสุขกับความฝัน กับความอิสระเสรี กับสายลม... รู้ไหมว่า..ทุกอย่างมันช่างไม่จีรังเสียเหลือเกิน ความฝัน ความอิสระเสรี สายลม... ใบไม้ที่ล่วงหล่นแล้ว ก็ล่วงหล่นไป ใบไม้ที่เหลืออยู่ ก็รอวันที่จะล่วงหล่นตามไปเช่นกัน... ก่อเกิดความหวัง ความฝัน ความอิสระเสรี รอวันที่จะปลิดปลิว ล่องลอยตามสายลม ที่พัดผ่านมาแล้วผ่านไป ตามสายธารที่ไหลผ่านมาแล้วผ่านไป... สายน้ำที่ไหลกระทบโขดหินตรงนั้น ยังคงหมุนวน..ร่ำไป...
9 ตุลาคม 2547 10:18 น. - comment id 347181
เขียนดีค่ะ ใบไม้ร่วงทีละใบสองใบ เกิดใหม่วันๆหลายใบเป็นเรื่องปกติค่ะ
9 ตุลาคม 2547 10:42 น. - comment id 347196
...และแล้วก็ไม่เหลืออะไรเลย แหลกสลายลงไปกับตา เหลือเพียงความว่างเปล่า กับน้ำทะเลเท่านั้น ...ไม่เหลืออะไรเลย... ขอธรรมะคุ้มครองท่านพระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณีค่ะ
9 ตุลาคม 2547 13:30 น. - comment id 347309
ปลิดปลิวเคว้งคว้าง ลอยละล่องสู่ผืนดิน ถมทับทวีเป็นอาจินต์ จวบสิ้นสูญเป็นฝุ่นธุลี คุณชอบมองใบไม้ที่หมุนคว้าง ร่วงลงมาช้าๆไหมคะ อัลมิตราชอบมองนะ บางที มองใบไม้ที่ร่วงลงลำธาร ลอยไป ลอยไป จนไกลสุดตา ใบไม้นั้นจะลอยไปถึงแห่งหนไหน โอกาสสุดท้าย ก่อนที่ใบไม้จะเปื่อยผุสลาย ยังได้ยลโลกที่ใบไม้เองได้ท่องผ่าน หรือว่า บางที ไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก ก็จมดิ่งหายไป กลายเป็นอาหารเต่าปลา รอบตัวมีเรื่องชวนพิศวงอยู่มากมาย หลาย ๆ อย่างแฝงคติธรรม คุณคิดอย่างนั้นไหมคะ
10 ตุลาคม 2547 00:10 น. - comment id 347691
:)
10 ตุลาคม 2547 10:00 น. - comment id 347794
แวะมาเป็นกำลังใจให้กันและกัน
10 ตุลาคม 2547 11:03 น. - comment id 347816
ขอบคุณมากครับคุณเพียงพลิ้ว...ครับ...เป็นเรื่องปกติ...เป็นเรื่องธรรมดา...เกิดดับ เกิดดับ.... ขอบคุณมากครับคุณมณี... ...ที่ตรงนี้นั้นมีต้นไม้ มีร่มเงาให้นอนสบายพักผ่อน ลมไม่แรงแสงแดดไม่ร้อน มีฟ้าเอาไว้ห่มนอน และรักแท้จริงใจ พักตรงนี้ดีกว่า เหนื่อยมานานกับความสับสนวุ่นวาย นอนเถอะนอนให้สบาย ตื่นขึ้นมาแล้วเดินต่อไป..ตามทาง....
10 ตุลาคม 2547 11:14 น. - comment id 347817
ขอบคุณมากครับคุณอัลมิตรา... ใช่ครับ รอบตัวมีเรื่องชวนพิศวงอยู่มากมาย หลาย ๆ อย่างแฝงคติธรรม...และบางทีหลายๆอย่างก็เป็นคติธรรมในตัวเอง เป็นธรรม เอง... บางทีมองใบไม้ที่ปลิดปลิวหมุนคว้าง...ตัวเราก็รู้สึกจะหมุนคว้างตามไป...บางทีก็กลับไม่มีทั้งใบไม้และตัวเรา...บางที...บางทีใบไม้ก็มองเราอยู่ด้วยเช่นกัน....
10 ตุลาคม 2547 11:15 น. - comment id 347818
ขอบคุณมากครับคุณ tiki และคุณผลิใบสู่วัยกล้า สำหรับรอยยิ้มและกำลังใจที่มีให้ ขอบคุณครับ
10 ตุลาคม 2547 14:01 น. - comment id 347926
เขียนได้ดีนะ อ่านแล้วซึ้ง/////
10 ตุลาคม 2547 16:35 น. - comment id 348053
ขอบคุณครับ คุณทะเลไร้คลื่น... ทะเลไร้คลื่นยามแลง สริยันอ่อนแสงแดงไสว ท้องฟ้าสีทองผ่องใจ นกกาบินไขว่คืนรัง
10 ตุลาคม 2547 20:43 น. - comment id 348176
เริ่มผลิใบผ่านไปกับเวลา เปลี่ยนสีสันตามมาพาให้คิด ทุกสิ่งนั้นคงอยู่เพียงชั่วสิทธิ์ จะลิขิตดีหรือทรามให้ตามตรอง ความหมุนวนเวียน ...และโอกาสที่จะเปลี่ยนรอยกรรม...ย่อมมีอยู่ในวงล้อนั้น... เป็นงานเขียนที่ดีมากเลยค่ะ
10 ตุลาคม 2547 21:19 น. - comment id 348198
ฉันยังจำได้ วันแรกที่เริ่มผลิใบ เป็นยอดอ่อน เดียงสา เหล่าหนอน บุ้งต่างต้องากรมาชื่นชมในความสดใหม่ของฉัน ฉันยังจำได้ วันที่เจ้าหนอนแก้วตัวอวบที่คลืบคลายเข้ามาอย่างช้าๆๆ ฝันของมันแหลม คม ฉันมิได้หวาดกลัวแต่อย่างใด ฉันยังจำได้ เมื่อยามที่ฉันจักถือกำเนิดออกมา เหล่าพี่ ป้า น้า อา พ่อแม่ ต่างบอกฉันว่า เราเกิดมามิได้แค่รอวันผลัดใบ จงอุทิศตนให้แก่ สรรพสัตว์ ฉันยังจำได้ วันที่เจ้า เอี้ยงตัวดำปากเหลือง บินมาโฉบเอา เจ้าหนอนใหญ่ไป เจ้าหนอนกรีดร้อง โหยหวน อาจด้วยความดีใจที่จักได้เป็นอาหารของเจ้าเอี้ยง เหมือนกับฉันที่จักได้เป็นอาหารอันโอชะของมันรึไม่ฉันไม่รู้ดอก แต่ที่รู้คือ ฉันยังคงอยู่รอด ....... ฉันยังจำได้ ต่อจากนั้นฉันยังคงเติบโต จนวันนี้ กิ่งก้านใบของฉันแข็งแรงขึ้นหลายลมฝน หลายแดดแรงที่ผ่านมา ฉันชื่นชมความงามของโลกกว้าง ทักทายเจ้านกน้อยที่มาทำรังอยู่ใกล้ ๆ ยาวนานเหลือเกิน ฉันหลับตา สูดบรรยากาศรอบกายเป็นครั้งสุดท้าย และสายลมก็พัดมาโชยอ่อนดังทักทาย ไปกันเถอะ ฉันยิ้มกริ่มให้กับมิตรใหม่ และทอดกายให้สายลมนำทาง *** แวะมาทักทาย ชื่นชมน่ะคะ ***
11 ตุลาคม 2547 12:21 น. - comment id 348579
ขอบคุณมากครับ พี่ดอกแก้ว ขอบคุณมากครับ คุณมารน้อย ผ่านมาผ่านไป...สายลม ปลิดปลิวทับถม...ใบไม้ เกิดแก่เจ็บตาย...ชีวิต สุขทุกข์ถูกผิด...จิตตน