ลมแรงพัดกวาด ณ หาดทราย ก่อนกลายเป็นมหาวาโยใหญ่ หอบฝนหล่นเย็นเป็นเม็ดใส วาดไว้ว่าวาววามงามดั่งพลอย ลมนั้นพัดทรายขยายมวล กลับกวนสายฝนที่หล่นผล็อย ฝังเศษทรายทองละอองน้อย ล่องลอยตามฝนบนผืนฟ้า แม้ฝนร่าเริงเพิ่งเริ่มกลั่น เจ้านั้นกลับมีราคีฝ้า เม็ดทรายลมวนปะปนมา พัดพาสู่สรวงแล้วร่วงดิน หลายใครหลายคนหวังฝนปรอย เฝ้าคอยฝนใสใจถวิล รองซับรับซึมไว้ดื่มกิน ย่อมยินดีใจได้น้ำเย็น กลับได้เม็ดฝนปนเม็ดทราย วู่วามโวยวายเมื่อได้เห็น โกรธฝนเทกราดสาดกระเซ็น ชังเช่นเม็ดฝนคือมลทิน เด็กน้อยเกิดกายในสลัม ตัวดำย่ำเยียไปเสียสิ้น เหยียดหยัดยึดถือว่าคือดิน ตัดสินตราหน้าว่าชาติทราม เกิดอีกกี่หนก็ฝนใส ทารกเกิดใหม่ไยต้องถาม ร้ายรูปหรือไรหากใจงาม ค่าความเป็นคนหรือปนทราย (ม้าก้านกล้วย)
15 กันยายน 2547 23:54 น. - comment id 332210
แม้เด็กน้อยก่อเกิดในสลัม ไม่งามขำสวยหล่อดั่งใครเขา แต่หากว่ามีความดีที่เป็นเงา ก็พอเข้าตำราคำว่ามนุษย์ *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ ราตรีสวัสดิ์แล้วนะค่ะ คืนนี้ หลับฝันดีค่ะ*-*
16 กันยายน 2547 07:14 น. - comment id 332324
เป็นแค่เศษ ทรายน้อย ดูด้อยค่า ลมเจ้าพา พัดไป ทุกถิ่นที่ น้ำก้อซัด กลับฝัง ฝังชีวี คงไม่มี ใครเขา เฝ้าเห็นใจ
16 กันยายน 2547 11:23 น. - comment id 332423
งามครับ แก้วประเสริฐ.
16 กันยายน 2547 16:14 น. - comment id 332595
:)
16 กันยายน 2547 16:43 น. - comment id 332610
เฮ้ออออ ไม่น่าจะตัดสินคนที่รูปลักษณ์เล้ย สังคมเราจะจะตัดสินคนที่การกระทำมากกว่านะ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
23 กันยายน 2547 13:17 น. - comment id 336658
แวะมาทักทาย ด้วยอยากบอกว่า เห็นด้วยมาก ๆ