อากาศร้อนนะ มามะจะพาไปว่ายน้ำ ที่บ้านพี่มีสระว่ายประจำ อยากผุดดำทำได้สบายดี โน่นสระน้ำกว้างใหญ่เกือบไร่กว่า ลึกถึงตาตื้นมีบ้างเป็นบางที่ น้ำเย้นเย็นเห็นยังรื่นชื่นชีวี ปลาก็มีดูผุดว่ายสบายใจ ไม่ต้องหรอกไม่ต้องนุ่งทูพี้ชหรอก พี่เขินออกนั่งหรือเดินพี่เขินใหญ่ กระโจมอกด้วยผ้าถุงนุ่งว่ายไป พอเพลินใจลืมร้อน ขวัญอ่อนเอย ในช่วงเย็นพี่ชอบเล่นน้ำกับลูก เอาแกลลอนมาผูก-เรียกลูกเอ๋ย- มาเล่นน้ำหัดว่ายน้ำซิทรามเชย จะได้เคยคุ้นน้ำไม่คร้ามกลัว ผูกแกลลอนสองใบให้ชูชีพ ร้อยยางลีบอย่างเข้มงวดตรวจดูทั่ว ว่าปิดฝาแกลลอนได้ไม่หลวมชัวร์ ถึงไม่กลัวก็ควรรอบคอบสิเนาะ พอได้แกลลอนคู่ไว้ชูชีพ หนูก็รีบว่ายไปดูคล้ายเหาะ ลูกก็ยิ้มพ่อก็แย้มแกมหัวเราะ เราบ่มเพาะอารมณ์ขันแบ่งปันเกลอ ว่ายเป็นไหม น้องว่ายน้ำเป็นไหม ถ้ายังไม่ฯ ก็ลองที่พี่เสนอ แกลลอนคู่ดูใช้ได้ไหมเล่าเออ ผูกกับเอวว่ายไปเทอะบ่มีจม พี่ว่ายฯเป็นอย่างบังเอิญไม่เขินกล่าว ตอนเป็นเด็กตัวเล็กราวชั้นประถม ไปวางเบ็ดที่ห้วยใหญ่ไถลโครม ตกน้ำจมดิ่งบึ้งลึกรู้สึกคว้าง โชคยังดีคว้าไขว่ได้เส้นหญ้า พยุงตัวขึ้นมาง่ายขึ้นบ้าง สองมือโบกเท้าขยับสลับทาง น้ำชูร่างให้ปริ่มน้ำจำไม่ลืม แต่กว่าจะผุดว่ายแบบไม่เหนื่อย ต้องว่ายเรื่อยบอกตรงตรงพี่หลงดื่ม- น้ำหลายอึกนึกแล้วขำแกล้งงำงึม กว่าจะซึมซาบทางว่ายอย่างเป็น น้องเคยยินใช่ไหม วลีว่า ตกน้ำท่า ไม่จมตายเป็นได้เห็น ว่าน้ำนั้นมีคุณค่ากว่าโคลนเลน เพราะล้างเหม็นล้างหมองผุดผ่องนัก อาบน้ำนั้นเย็นซ่าน้องว่าไหม น้ำไม่ใสเท่าที่ควรอย่าด่วนผลัก- ไสจนห่างอย่างใจที่ไร้รัก ถึงขุ่นนักมีน้ำฝนล้างโคลนตม น้องเหนื่อยไหมว่ายน้ำตามที่แนะ คงเหนื่อยแหละและแกลลอนก็เทียวล่ม หยุดถ้าเหนื่อยพักถ้าหน่ายคลายอารมณ์ อย่าจริงจังถึงจ่อมจมจมแจทุกข์ พี่มาใช้ชีวิตคิดแบบเด็ก เพราะว่าลูกตัวเล็กทำให้ฉุก- คิดว่าคนใยจึงเขลาให้ร้าวรุก- รับแต่มันบ่เคยสุขจริงเสียที ขึ้นจากน้ำเชิญขวัญใจไปอาบน้ำ พี่จะทำอาหารทุ่งปรุงเต็มที่ งานกับแกล้มฝีมือพ่อก็พอมี รสจะดีด้อยอย่างไรเอาใจพา ปลาก็ได้จากข่ายที่สระยาว ปลาสีขาวน้ำขุ่นคลั่กงามนักหนา อาบน้ำนมก็เหมือนในโฆษณา อย่าเพิ่งฮาที่หน้าพี่สีคล้ำนวล อยากลิ้มลาบหรือทอดแบบสุกเกรียม ยำมะม่วงพี่ก็เตรียมให้ราดด่วน แฟนพี่ชาญอาหารนานะลำดวน ทั้งหมดชวนด้วยไมตรีไม่มีกล ในกรงกรุงยุ่งร้อนซ้อนกลเมือง ประชาไทยซีดเหลืองทุกแห่งหน แอกอาทรยังซ้อนทบทับไหล่คน พี่ผู้จนขอหลบร้อน นอนน้ำเย็น
7 เมษายน 2547 20:53 น. - comment id 243085
แวะมากินลาบ
7 เมษายน 2547 21:56 น. - comment id 243121
คุณทิกิชอบจริงหรือครับ
7 เมษายน 2547 22:35 น. - comment id 243153
เจลชอบเหมือนกันนะ อ่านแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายอารมณ์ อมยิ้มจนอ่านจบ นับถือค่ะชอบมากๆเลย
7 เมษายน 2547 22:53 น. - comment id 243162
ผมดีใจนะครับ ที่ทำให้คุณเจลใสยิ้มได้บ้าง
8 เมษายน 2547 10:16 น. - comment id 243342
ชอบกินลาบ ชอบกินหมูย่างน้ำตก อิอิ ชอบอาหารอีสานทุกชนิดค่ะ เด็กๆ คุณลุง คุณป้าไห้ไปพักปิดเทอม ที่ กาฬสินธ์ ท่านเป็นนายช่างใหญ่ เขื่อนลำปาว ชอบความดีมีน้ำใจของคนอีสาน จำได้ถึงข้าวเหนียวขาวนึ่งซึ้งร้อน วางมาพร้อม มะพร้าวขาวขูด กับน้ำตาล มีแค่ไหน เขาก็เอามาให้แค่นั้น น้ำใจใสเหลือเกิน บรรยากาศนั่งเกวียนไปยังจำได้ติดตา ยำไข่มดแดง แสนอร่อยค่ะ ก.พ. ทิกิ_tik
8 เมษายน 2547 11:55 น. - comment id 243380
ขอมัททานด้วยนะคะทุกอย่างที่คุณทิกิกล่าวถึงค่ะ มัททานได้นะคะพี่ก่อพงษ์ ขอไปเยี่ยมบ้านได้ป่าวคะ จะไปพร้อมพี่พายุค่ะ อยากไปจังที่มีสระน้ำแบบนั้นค่ะ
8 เมษายน 2547 12:54 น. - comment id 243416
ใช่ครับคุณทิกิ ที่เขื่อนลำปาวสวยงามทีเดียว ผมจำได้ วัยเด็กช่วงที่แล้งต่อกันหลายเดือน คุณแม่ของผมพาผมไปขอข้าวจากคนแถวเขื่อนลำปาว กาฬิสนธุ์มากิน ภาพติดตาคราวนั้นผมยังเอามาเขียน ได้งานชิ้นหนึ่ง...... แล้วจะโพสต์ให้อ่านครับ ชื่อ ฝันต่างวัน น่ะครับ
8 เมษายน 2547 13:01 น. - comment id 243420
น้องมัทครับ พี่กลัวพายุมากเลย หลังคาบ้านคน แถบบ้านพี่ พังและกระเจิงไปตามแรงของพายุนี่แหละ ถ้าน้องจะไปอย่าให้พายุไปด้วยเลย และที่ว่าทานได้พี่เชื่อนะ แต่บางอย่างทานแล้วก็คงวิ่งหาที่ โอ้ก โอ้ก โอ้ก ขัน.... ขันเหมือนไก่เลย อาหารเป็นความเคยชินนะครับ อย่างพี่ถ้ากินหนมปังกับแยมทุกมื้อ แล้วจะให้พี่กระเดือกมันกับปลาร้า พี่ก็อาจขัน ได้เหมือนกัน ทุ่งนาและป่าเขาก็ต่ำต้อยล่ะ แต่มีน้ำใสใจจริงพอควร ที่ว่าพอควร คือพี่ไม่กล้าไปรับรองว่าคนอื่นต้องเป็นเหมือนกันกับเรา ขอบคุณมากๆ เราคบกันไปนานๆนะครับ