ฉันเที่ยวเพลินเดินย่างข้างถนน เห็นผู้คนมากมายกายเคลื่อนไหว ก้าวขึ้นรถลงรถทดกันไป ดูขวักไขว่วุ่นวายเพราะหลายคน ในเส้นทางรถวิ่งชิงกันแซง ต่างเบียดแย่งซ้ายขวาน่าสับสน ฝ่าไฟแดงติดไฟเขียวเลี้ยววกวน ปากก็บ่นด่าว่าประสาคน ฉันเดินถึงทางม้าลายที่หมายปอง แล้วยืนมองซ้ายขวาน่าฉงน รถมากมายวิ่งไวไม่เห็นคน ยอมยืนทนต่อไปในทางคน พอรถติดไฟแดงแย่งกันเดิน ไม่มัวเพลินเผลอไผลในถนน หากเดินช้ามีหวังพังแน่คน ถูกรถชนสิ้นใจไม่เป็นคน เสียงแตรรถแปร๊นดังเหมือนสั่งเร่ง ต้องเขย่งก้าวกระโดดทำโลดโผน เป็นโชคดีของฉันไม่งั้นโดน เร่งกระโจนให้ถึงซึ่งทางคน ผ่านเวลาหวาดเสียวประเดี๋ยวใจ เพลินต่อไปก้าวย่างข้างถนน เดินเรื่อยเปื่อยต่อไปไม่ยินยล เพราะเป็นคนคนหนึ่งซึ่งเป็นคน ฯ
9 ตุลาคม 2544 10:24 น. - comment id 14155
ชีวิตที่รีบเร่ง และแก่งแย่ง .... ทำให้หลาย ๆ คนลืมคำว่า "น้ำใจ" ไปครับ
9 ตุลาคม 2544 10:50 น. - comment id 14169
ค่ะ...เห็นด้วยขนาดข้ามทางม้าลายแล้วบางคันและบางคนยังไม่ยอมผ่อนรถให้เลย..วันหลังต้องทำทางช้างลายม่างเนาะ..(เอ..ช้างลายมีป่าวน๊อ..ชักมึนน้ำมันรถ) อิอิ
10 ตุลาคม 2544 01:47 น. - comment id 14221
อะนะ เมืองกรุงอันฟุ้งฝุ่นละนี่ละผมเกิดที่นี่โตที่นี่วิชาตัวเบาล้ำเลิศแล้ว5555(เห็นจนเกินเห็นเบื่อจนเกินเบื่อแล้ว)
10 ตุลาคม 2544 01:52 น. - comment id 14224
ถ้าคนเรามี"น้ำใจ"คงไม่ต้องเกิดเรื่องหวาดเสียวขนาดนี้หรอกครับ
10 ตุลาคม 2544 10:38 น. - comment id 14297
เห็นด้วยกะทุกคนเลยค่ะ