กว่าจะมาเป็นดาว ดาว...ในความหมายของใครหลายๆคนอาจมีความหมายที่แตกต่างกัน แต่ในความแตกต่างของความหมายนั้น อาจมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือการเป็นสิ่งที่ดี ที่สวยงาม หรือเป็นสิ่งที่ทุกคนหมายปอง ดาวในความหมายของนักเรียนมัธยมปลายนั้น มักจะหมายความถึงจุดหมายที่สำคัญมากในชีวิต นั่นคือการสอบเข้าในคณะที่ตนต้องการหรือในมหาวิทยาลัยที่ตนใฝ่ฝันให้ได้ ผมก็มีดาว ดาวของผมคือการสอบเข้าศึกษาในคณะที่ใฝ่ฝันภายในรั้วสถาบันที่ทรงเกียรติแห่งนี้ หากย้อนไปสัก 1 ปี เมื่อผมเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผมเองรู้สึกได้ว่าเพื่อนๆทุกคนต่างมีดาวดวงที่ตนเองใฝ่ฝันอยากจะเป็นกันแล้วทั้งนั้น เพื่อนๆทุกคนต่างช่วยเหลือกัน ช่วยกันติวหนังสือ หากมีที่เรียนพิเศษที่ไหนดีก็จะแนะนำกัน หากเพื่อนคนไหนไม่มีเงินเรียนก็จะนำชีทมาให้อ่าน หรือช่วยกันนำความรู้ที่ได้จากการเรียนพิเศษมาสอนกัน ไม่มีใครหวงความรู้เพราะต่างอยากให้เพื่อนได้เป็น ดาว ดวงที่ตนเองใฝ่ฝัน อาจมีบ้างที่ระหว่างบันไดสู่ทางเดินแห่งดวงดาวไกลไปสักหน่อย อาจไม่ราบรื่นเหมือนที่คิด ความท้อถอยไม่ใช่เรื่องที่แปลก จึงไม่ผิดที่ระหว่างทางเดินนั้นเราอาจแวะหยุดพักข้างทาง เราสามารถพักได้ เพราะว่าความตึงเกินไปจะทำให้เราเหนื่อยล้า การพักเติมไฟให้กับชีวิตจึงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่เราต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า จุดมุ่งหมายของเราคืออะไร เพราะบางทีความสบายอาจทำให้เราไม่อยากกลับมาลำบากอีกครั้ง!! เคยมีคนกล่าวว่าเวลาช่วงที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตคือช่วงเวลา 3 ปีที่ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะชีวิตทั้งชีวิตของเราจะถูกกำหนดด้วยเวลาช่วงนี้ ดังนั้นเราต้องบริหารเวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุดโดยต้องอยู่บนพื้นฐานของ ความพอดี ไม่มีใครตอบได้ว่าความพอดีของแต่ละคนอยู่ตรงจุดไหน นี่คือสิ่งที่ตัวเราต้องเป็นคนหาคำตอบเองละทำมันให้ได้ เมื่อถึงวันสอบเอนทรานซ์ครั้งที่ 1 ไม่จำเป็นเสมอไปว่าเราจะสามารถอ่านหนังสือได้จบและสามารถจำได้ทุกตัวอักษรแม้ว่าเราจะเตรียมตัวมานาน ขอเพียงเราทำให้เต็มที่ที่สุด แม้ว่าผลสอบจะออกมาเป็นเช่นไรเราต้องยอมรับให้ได้ว่านี้คือตัวเราเอง และอย่าไปเสียใจกับมันเพราะว่าการสอบยังเหลืออีกครั้งหนึ่งในเดือนมีนาคม ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ผลการสอบเอนทรานซ์ครั้งที่ 1 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เราควรสำรวจตนเองและนำข้อผิดพลาดจากประสบการณ์ที่ได้จากการสอบครั้งแรกมาปรับปรุง เราอาจจะตื่นเต้นกับการสอบมากเกินไป หรือว่าอ่านหนังสือไม่ตรงจุด เหล่านี้ต่างเป็นปัญหาที่ควรแก้ไข อย่าเสียใจกับผลที่ออกมานานเกินไปนักเพราะว่าเราเหลือเวลาไม่มาก เวลาที่เราจะเอามาร้องไห้เปลี่ยนเป็นเวลาที่จะเอามาอ่านหนังสือต่อเพื่อสู้กับข้อสอบในรอบที่ 2 น่าจะดีกว่าไหม? หากคนที่ผิดหวังไม่ใช่เราแต่เป็นเพื่อนของเราเราอย่าทอดทิ้งเพื่อน อย่าลืมว่ากำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราก้าวเดินต่อไปได้ ให้กำลังใจแก่กันและก้าวเดินไปด้วยกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เวลาในช่วงเทอม 2 เป็นเวลาช่วงที่สำคัญช่วงสุดท้ายที่เราสามารถเตรียมตัวและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเองได้ ซึ่งเราควรจะเต็มที่กับมันมากที่สุด เมื่อถึงเดือนมีนาคม เป็นการสอบเอนทรานซ์รอบสุดท้ายของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จงเต็มที่กับมันให้เท่ากับหรือมากกว่าการสอบครั้งแรก และควรเตรียมใจต่อผลที่จะเกิดขึ้น จงยอมรับกับมันแม้มันไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ ผมเชื่อเหลือเกินว่าหากเราทำอะไรแล้วทำให้ดีที่สุด ผลที่จะออกมาย่อมดีแน่นอน ดาว ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ
8 พฤศจิกายน 2546 17:33 น. - comment id 179563
ถูกที่สุดเลยคับ..อ่านแล้วได้กำลังใจขึ้นเยอะเลย^_^
8 พฤศจิกายน 2546 20:29 น. - comment id 179632
เห็นด้วยค่ะ เพราะกว่าจะมาเป็นดาวหรือกว่าจะทำให้อะไรประสบความสำเร็จ เราควรต้องใช้ความพยายามจึงจะสำเร็จ อาจมีล้มลุกคลุกคลานบ้างเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ฉะนั้นจุดหมายไม่ไกลเกินเอื้อมคว้าถ้าเราพยายาม
9 พฤศจิกายน 2546 06:35 น. - comment id 179786
..ดาวศรัทธา...คือฝัน.... ..คือ..พลังพร้อม..มุ่งไป.... ..แค่..นั้น..ต้องทำได้..... ..ถึงเส้นชัย... ด้วยใจ.. ไม่เคยท้อ... ..เป็น..กำลังใจ..ให้ก้าว..ถึงดาว... ..ปวดร้าวบ้าง.. ..อย่ารั้งรอ... ลุกใหม่.. เติมฝันต่อ... ..คว้าให้พอ... ดาวในฝัน...เส้นทางที่เลือกเอง... ...เรน..หัดแต่งนะคะ... ...
9 พฤศจิกายน 2546 14:36 น. - comment id 179856
ความศรัทธา ความเชื่อมั่นในความตั้งใจของตัวเอง ความกล้าที่จะเผชิญอุปสรรค ความอดทน ล้วนแต่ทำให้เราก้าวสู่ทางเดินแห่งดาวได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น อยากให้แสดงความคิดเห็นกันเยอะๆเพราะว่าผมจะได้เอาไปแก้ไขก่อนส่งต้นฉบับจริงครับ ขอบคุณนะค๊าบบบบ