จากน้ำจรดฟ้า
ลำน้ำน่าน
กาลเวลาเดินทางไม่ถามทัก
ทุกข์เบาหนักร้อนเย็นเห็นเสมอ
มองหาฝั่งเร้นลับกลับไม่เจอ
หรือละเมอเพ้อไปไม่ทันคิด
เห็นแผ่นน้ำเบื้องฟ้าไกลนัก
ยามหน่วงหนักทิ้งฝนพรมตามติด
ภาพสะท้อนอายดินกลิ่นชีวิต
แม้นน้อยนิดติดอยู่คู่หายใจ
เคยไต่ถามความจริงสิ่งรายรอบ
ไร้คำตอบไม่รู้หลงอยู่ไหน
เค้นสำนึกลึกตื้นฟื้นความใน
พอจำได้น้ำตารินบ่าท้น
ภาพแผ่นดินเกาะน้อยร้อยพันหาด
บรรจงวาดผุดตื่นคืนอีกหน
ทุกรอยย่างยากไร้ในผู้คน
ตัดสินใจดั้นด้นทิ้งบ้านมา
เรื่อเก่าคร่ำนำทางกลางเกรียวคลื่น
แผ่นดินอื่นจุดหมายได้เสาะหา
ท้องทะเลอ้อนวอนย้อนถามมา
จากไปหาความจริงกับสิ่งใด
ธารน้ำตาหลั่งรินไม่สิ้นสาย
หากไม่ตายจักทิ้งแผ่นดินใหญ่
จะเกี่ยวเก็บวิชาการนานเพียงใด
มากำนัลมอบให้ไพรพะงัน
จากแผ่นดินแผ่นน้ำข้ามพิภพ
พบจุดจบยากยิ่งในสิ่งฝัน
สำเร็จแล้ววิทยาท้าตามทัน
กลับเงียบงันเดียวดายตายทั้งเป็น
กลางเมืองทรามต่ำต้อยเต็มรอยโลกย์
ความเศร้าโศกแฝงเงาเรารู้เห็น
กระแสเงินบ่าจมถมรำเค็ญ
ผ่านพอเป็นพิธีหนี้ท่วมตัว
ปลาผิดน้ำครวญคร่ำลำธารเก่า
ทิวขุนเขาท้องน้ำยามฟ้าหลัว
จึงว่ายกลับฝ่าดั้นไม่หวั่นกลัว
จิตท่องทั่วค้นพบจบฝั่งลวง
เสียดายนักเวลากับอาจม
หลงโง่งมถมปลักหลักเหมืองหลวง
หวังออกไปท้ายท้าชะตาดวง
น้ำตาร่วงรดฟ้าอยู่อาจินต์
ระลอกคลื่นซัดฝั่งนิ่งฟังนาน
จิตวิญญาณชัดมีนทีสินธุ์
ท้องทะเลเปล่งปลั่งดั่งเพชรนิล
ขุดไม่สิ้นถมไม่ตื้นจึงคืนมา
กาลเวลาเดินทางไม่ถามทัก
ได้ตระหนักหลายสิ่งยิ่งค้นหา
จากผืนดินจรดน้ำกาลเวลา
เพียงละเมอมายาหาใช่จริง