เมื่อโบกโบยโปรยหมอกกลอกเมฆคล้ำ ความระกำแผ่ซ่านปานมารสิง ใจระรัวกลัวภัยให้เกรงกริ่ง เห็นทุกข์สิ่งเป็นทุกข์ไม่สุขใจ เขม้นมองจ้องฟ้าคราครึ้มฝน หมายท่องบ่นมนต์สู้กู้ความใส ยิ่งคลุ้มคลั่งถั่งโถมโหมในใจ มรสุมคลุมไหวไม่แน่นอน พินิจความมืดมนบนฟากฟ้า และเร่งหาหนทางอย่างครั้งก่อน มีแสงเรืองเปลื้องเมฆมาสะท้อน เร่งสังวรภาวนาครามืดมน พบรอยแยกแตกช่องให้มองเห็น พลันฟ้าแปลบแลบเป็นวิชชุหน ถึงสามครั้งรั้งจิตพินิจตน สำเร็จผลวชิรูปมาธรรม สิ้นกิเลสทุกเศษเสี้ยวอนุสัย สว่างไสววิปากธรรมนำสู่ผล พ้นจากเมฆหมอกร้ายใจหลุดพ้น หมดจากหนสังสารสิ้นกาลเอย.
9 กรกฎาคม 2546 11:56 น. - comment id 152933
กายรำงับ จิตรำงับ ดับภายใน มนสิการ สติไว้ วอนจิตไสว หนังเนื้อหลุด กระดูดหลุด ดูกายใน เหลือสติให้ ดูจิต คิดผลิแรง ตามจิตไป ในธรรม จิตเจ้าดับ จิตหนึ่งกลับ เกิดแท่น สืบแกนแสง คือไตรลักษณ์ สติแลจิต ที่แก่นแทง เกิดดับแฝง บังไว้ ให้หลงอุปทาน สาธุ บุญอาจารย์ครับ สาธุ สาธุ สาธุ
9 กรกฎาคม 2546 15:18 น. - comment id 152995
เก่งจังเลยค่ะ ชื่นชมมาก แต่ขอมาอ่านอย่างเดียวนะค่ะ เพราะความสามารถไม่ถึงขั้นโดยเฉพาะเรื่องแบบนี้
9 กรกฎาคม 2546 18:40 น. - comment id 153092
ก้มกราบกราน สาธุการ ท่านอาจารย์ ศิษย์ลูกหลาน ดูตัวอย่าง อย่าเหหัน ท่านอาจารย์ สละเวลา ค่าหมื่นพัน มาส่งสรรค์ จำนรรจ์เรื่อง เมืองคนดี ให้ละโลภ โกรธหลง พะวงจิต คอยให้คิด อิสระเด่น ไม่เป็นผี ให้สะสาง ความชั่วไป ใส่ความดี สาธุมี แต่อาจารย์ ท่านนี้เอย
9 กรกฎาคม 2546 19:59 น. - comment id 153108
อาจยากที่จะทำใจได้อย่างนั้น แต่มีคนหลายร้อยพันที่ทำได้ ในก่อนกาลนานเนิ่นจำเริญใจ คืออริยบุคคลในพุทธชน @..นำคำสอนทางธรรมมาเผยแผ่บ้างค่ะ ..เปลี่ยนบรรยากาศให้สงบสักหน่อย ..เพราะเวลาเกิดปัญหา..คนส่วนใหญ่มักจะเพ่งมองไปที่ผู้อื่น มากกว่าจะพิจารณาตนเองว่าควรทำอย่างไรให้ดีขึ้น @ขอบคุณน้องๆทุกคนนะคะที่เข้ามาชมงาน พร้อมกับคำทักทายที่ให้ความรู้สึกถึงความสวยงามที่อยู่ในความเป็นมิตร ...น้ำ...ผู้หญิงไร้เงา ..และtiki ..ขอให้มีความสุขทุกคนเลยนะคะ
9 กรกฎาคม 2546 21:36 น. - comment id 153144
ขอเรียกพี่ดอกแก้วว่าอาจารย์ นะครับ ผมก็ยังสงสัยความหมายบรรทัดสุดท้ายอยู่ดี บอกให้ผมฟังซักนิดหน่อยนะครับ เผื่อจะได้หายงงบ้าง
9 กรกฎาคม 2546 21:55 น. - comment id 153148
หมดจากหนสังสารสิ้นกาลหรือ? นั้นก็คือบุคคลผู้พ้นสิ้น จากอนุสัยกิเลสเหตุมลทิน พระขีณาสพ..ผู้สิ้นสังสารภัย อีกนัยหรือก็คือพระอรหันต์ พ้นโศกศัลย์..พ้นวัฏฏะละความใคร่ สิ้นตัณหาอาสวะสมุทัย จงแจ้งใจในคำกลอนสะท้อนความ @....ขอบคุณมากค่ะที่ให้ความสนใจ แวะมาทักถามได้ตามใจปรารถนานะคะ..ชัยชนะ