เมื่อคราร้อนโลกแล้งแห้งจากน้ำ แผ่นดินถามท้องฟ้าหาเมฆฝน เหล่าพฤกษ์ไพรไร้ธารผ่านชุบชนม์ กลายสีเขียวหมองหม่นปนน้ำตาล เมื่อต้องลมใบระทมก็พรมร่าง ลอยเคว้งคว้างเบี่ยงกายไหวสะท้าน สู่ใต้ต้นวนพลิ้วปลิวละลาน ตามแต่สายลมผ่านจะพาไป ดินที่เคยชื้นเย็น...เห็นรอยแยก ระแหงแตกลายริ้วผิวเกรียมไหม้ ยิ่งแตกลึกยิ่งตรึกหาค่าน้ำใจ ยิ่งนับวันยิ่งไร้เพราะร้อนรน เสียงลมครางบางเบาราวในฝัน เร่งคืนวันผันฤดูสู่หน้าฝน ความเร่งเร้ายิ่งเผาใจให้กังวล รอเม็ดฝนหล่นจากฟ้ามาสู่ดิน ลมกรูเกรียวเหนี่ยวกิ่งแห้งที่แล้งน้ำ ให้ไหวตามแรงลมพัดระบัดสิ้น ทุกคืนวันฝันใฝ่เพื่อได้ยิน เสียงแผ่นดินตอบรับกับฝนพรำ รออย่างมีความหวังทุกครั้งคราว ฟังลมกล่าวกระซิบแผ่วแว่วเสียงย้ำ อีกไม่นานฝนจะหวนทวนความจำ และเติมคำลงช่องว่างระหว่างดิน ความสดเขียวจากเรียวใบที่คลายต้น จะผลิพ้นแตกตาพาคืนถิ่น ปีกที่เคยชะงักจักโบยบิน ระเริงสายวารินจากนภา ดั่งน้ำคำยามแล้งที่แห้งโหย มาโปรดโปรยรดใจให้ฟื้นค่า ดุจเม็ดฝนฟื้นดินถิ่นพนา คือเมตตาเย็นล้ำฉ่ำหทัย
3 กรกฎาคม 2546 21:34 น. - comment id 151398
เพราะมากค่ะ ชอบมากเลย ชอบความหมายค่ะ .................................................... :)
4 กรกฎาคม 2546 01:26 น. - comment id 151446
เขาถึงว่าน้ำคำนี่ได้ผลกว่าสิ่งใด
4 กรกฎาคม 2546 08:01 น. - comment id 151470
แจมแล้งแล้วฝนตกมาฉ่ำใจใสแล้ว น้ำคำ รสความ น้ำจากใจ ไหลหลั่งไป สู่ดิน ถิ่นนาหนาว เม็ดข้าวเปลือก ว่านไว้ ในใจวาว ผลิเขียวพราว ทุ่งทอง ท้องนาไทย ดั่งเพลงทุ่งรวงทอง ของชรินนันทนาคร ร้องไว้เอย อิอิมาส่งยิ้มนิ
4 กรกฎาคม 2546 09:33 น. - comment id 151488
แผ่นดินถามท้องฟ้าหาเมฆฝน... ..และเติมคำลงช่องว่างระหว่างดิน ชอบมาก ช่างคิดนะคะ
4 กรกฎาคม 2546 13:41 น. - comment id 151560
เป็นกลอนที่มีความหมายดีมาก ๆ เลยค่ะ ชื่นชมผลงานนี้มากค่ะ
4 กรกฎาคม 2546 22:08 น. - comment id 151706
@ขอบคุณค่ะ..ฟองอากาศ เพียงคำว่า..ชอบ...เพียงคำเดียวนี้ ให้พลังทางใจมากเลยค่ะ และรับกระแสความรู้สึกที่ดีๆ ผ่านมากับคำว่า ..ชอบ..คำนี้ด้วยค่ะ ....ขอบคุณมาก
4 กรกฎาคม 2546 22:12 น. - comment id 151710
@น้ำคำที่จับใจ ต้องเปี่ยมไปด้วยความจริง คือจริงใจ..หนึ่งสิ่ง และเป็นสิ่งที่สำคัญ ขอบคุณทุกครั้ง และอบอุ่นทุกคราวที่ได้พบกับ...ฤกษ์...้เสมอ
4 กรกฎาคม 2546 22:55 น. - comment id 151734
@ทุ่งรวงทองของชาวดินไม่สิ้นรัก น้ำใจจักหลากนาเลี้ยงกล้าเขียว จากลำต้นเติบใหญ่ไล้ปลายเรียว สู่รวงข้าวสีเขียวเป็นสีทอง มายิ้มให้แล้วค่ะ ....น้ำใจ...ที่สดใสสำหรับพี่เสมอ
4 กรกฎาคม 2546 23:06 น. - comment id 151747
@แผ่นดินถามท้องฟ้าหาเมฆฝน ส่วนบางคนถามเงาคราวเจ็บช้ำ เพื่อค้นหาคำตอบปลอบระกำ และเติมคำลงช่องว่างระหว่างดิน ขอบคุณค่ะ..siri.. ที่แวะมาทักทายเสมอ
4 กรกฎาคม 2546 23:10 น. - comment id 151750
ผู้หญิงไร้เงาคะ... เหนือกว่าคำขอบคุณใดๆ..ขอกล่าวว่า เป็นเกียรติมาก ... เพราะคำว่าชื่นชอบผลงานนี้ ...เปรียบเสมือนรางวัลยิ่งใหญ่..ในชีวิตของนักเขียนมือใหม่...ค่ะ
5 กรกฎาคม 2546 15:54 น. - comment id 151907
พี่ดอกแก้วแต่งกลอนที่ไรอ่านแล้วรู้สึกสบายใจดีนะค่ะพี่ใช้คำได้สวยมากหอมเย็นสมเป็นดอกแก้วจริงๆ
7 กรกฎาคม 2546 02:46 น. - comment id 152367
ขอบคุณมากค่ะ..มารน้อย... ท่าทางคงจะซนมากเลยนะคะน้องคนนี้ ดีใจค่ะที่ได้รับความสบายใจ.. แล้วแวะมาอีกนะคะ