ใครครูผู้สง่าเงื้อม..........งานสือ ดุด่าว่าศิษย์ฤา...............ชั่วช้า สูดูหมู่กระบือ...............แบกแอก นายสั่งยังบ่ล้า.................ลำเลิกท้อถากไถ ไกรการะเวกร้อง...........ระงมไพร เสนาะศัพท์บรรทับใจ.....แจ่มถ้อย ฟังนกกระจอกใย.............ยามคร่ำ อยู่ที่หูเราด้อย..................เด่นเฟ้นสดับเสียง พญาครุฑรุดล้ำทั่ว...........เทวาลัย มองทัศนวิสัย..................ซึ่งกว้าง ภายในกะลาไฉน.............นึกภาพ..เห็นเอย กบคะนองพร้องอ้าง...........อวดหน้าเชื่อถือ
19 มิถุนายน 2546 12:44 น. - comment id 148164
นั้นสิครับ... ทุกสิ่งอยู่ที่ตัวเราจะมอง เป็นเรื่องของธรรมชาติ กบ-กับพยาครุฑผมว่าดีไม่ดีกบอาจรู้มากจริงๆ เสียแรงที่ท้องโลกกว้างแต่อาจจะสู้กบไม่ได้ ตัวผมก็อาจจะสู้กบไม่ได้ แม้ตอนนี้จะอยู่ในกะลาเหมือนกบ
19 มิถุนายน 2546 13:22 น. - comment id 148172
อิอิแจมกบ กบเอ๋ยกบเคยทอด กระเทียม แม้นสุกหอมใจเจียม กรอบอร่อย โอ้ว่าหิวแล้วเกลียม กับข้าว รสมือสูตรแม่ช้อย หลงแล้ว แม่คุณ อิอิมาหัดเขียน สนุกดีนิ
19 มิถุนายน 2546 16:07 น. - comment id 148198
.....กะลาโลกฤๅหลืบพ้น.........พิเคราะห์ความ เพียงแต่จิตคนทราม.............สุดแก้ สุมโทสะจริตลาม....................เหลิงบาป ใจหยาบจึงหยาบแท้..............แค่นถ้อยทรชน ขนาดกวินทรากรอุตส่าห์เขียน ธัมมะ ธัมโม้ แล้ว ยังขัดเกลาได้ไม่ทั่วถึงเลย
21 มิถุนายน 2546 23:33 น. - comment id 148769
เป็นไรกันก็ไม่รู้ อ่านแล้ว ชอบกลจังนะ ตะเอ๋า .. กินข้าวกับอะไรมาเนี่ย หมู่นี้แปลกๆไปนะ ..
24 มิถุนายน 2546 11:58 น. - comment id 149315
แวะมาทักทาย เราชอบโคลงสี่สุภาพมาก เธอแต่งเพราะนะ จะแวะมาบ่อย ๆ