ดั่งระลอกพลิ้วคลื่นที่ครืนไล่ ตามติดไปกระทบแทกแตกซัดซ่า มิคงเหลือคลื่นเก่าในธารา เกิดแล้วดับตามมาสืบต่อกัน ดุจเป็นภาพมายาว่าคงอยู่ ผู้ไม่รู้จึงหลงใหลในภาพนั้น ไม่ล่วงรู้ถึงอารมณ์ปัจจุบัน จึงมุ่งมั่นสรรหาภาพมาอาบพราง ยังยึดผิดมีจิตเดิมที่เสริมใส เปล่งประกายไสวไม่หมองหมาง จึงดิ้นรนสืบค้นหาเส้นทาง สู่จิตเดิมที่พรายพร่างปภัสสรา ทำลายพระพุทธพจน์ที่โปรดสัตว์ ที่ชี้ชัดกฎสามัญอันสูงค่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครอบคลุมทุกธรรมาเว้นนิพพาน ....(และบัญญัติ) หากหมายใจจะปองครองความสุข ต้องหมั่นปลุกปัญญาพาสืบสาน และพรั่งพร้อมสติติดตามการณ์ เพื่อประหาร(กิเลส)ที่ตรงปัจจุบัน...
18 มิถุนายน 2546 18:23 น. - comment id 148015
:) ................................................. ;)
18 มิถุนายน 2546 20:45 น. - comment id 148050
รู้สึกคุ้นๆค่ะ...ราชิกาเคยอ่านมาแล้ว...ให้แนวคิดที่ดีมากค่ะ..
19 มิถุนายน 2546 05:58 น. - comment id 148127
เรน..อรุณสวัสดิ์ค่ะ.. ...อยากแต่ง..แบบนี้.. แต่..เวลา..ที่จับปากกา.. ทำไม ต้อง.ชงัก..ทุกครา.. ..ก้อเพราะว่า.. เรน..แต่งไม่เป็น.. ..แต่..ทำไม.เรนชอบอ่าน.. บทกวี.เป็น....เส้นทาง.. อย่า..รำคาญ.. เรน..นะคะ.. ..ชอบที่จะเข้ามาอ่าน.บทกวี..ที่มีค่า.. มีบ้างที่ล้า.. แต่ต้องมา..ทุกครั้ง.. ..บทกวี..เปี่ยม..พลัง.. เรน..ชอบฟัง...ที่สุดเอย.. .
19 มิถุนายน 2546 09:20 น. - comment id 148141
ละวางคือเหตุว่างละจะเพียร สติตรองไตรลักษณ์วัฏฏะสงสาร ปัจจุบันประหาญกิเลสหมอง คือสงบอินทรีย์มีครรลอง ใจผุดผ่องตรองเหตุอันควร อิอิ กลอนนี้มีคุณแท้ท่าน สาธุ
24 มิถุนายน 2546 11:07 น. - comment id 149306
เยี่ยมครับ
25 ตุลาคม 2546 22:10 น. - comment id 176245
..... จิตเดิมแท้แน่จริงธรรมญาณ ใช่แค่คำกล่าวขานแต่กาลไหน ขอมุ่งมั่นด้วยใจตนอดทนไป จุดมุ่งหมายคงไม่ไกลไปนิพพาน ...... ..เพียรทำความดีกันนะค่ะ...