เราเป็นคนอยู่ในสังคมซึ่ง ขมึงทึงแหลกเหลวและเลวเหลือ ในสูงต่ำดำขาวต่างเหง้าเครือ ล้วนเลือดเนื้อแห่งโลกที่โศกตรม อันตรายในวันอันกระจ่าง อันตรธานเส้นทางหลุมพรางถม อันตราค่าต่างย่างพระยม อัญขยมปริเทวนาการ เสียงหัวใจสี่ห้องยังก้องกรุ่น เพลงการุณย์กาลีพลีและผลาญ ท่วงทำนองธรรมาและสามานย์ แว่วเวตาลเล่นกลบนโลกา ปานจะกล่อมย้อมสิ้นวิญญาณเศร้า ปานจะเข้าเข่นคอล่อถลา ปานจะตอบปลอบโยนโพ้นนภา ปานจะเผาแผ่นผาให้พังภิณ ฮะฮะเหยเย้ยหยันสวรรค์ว่า นรกร้อนจะรอนฟ้าภูผาหิน จงจำไว้เถิดว่าหน้ากลบดิน จะดูดกินกลืนกรรมให้หนำใจ ปัจเจกชนบนโลกอันโศกเศร้า อาจบ้างเขลาเหงาความนิยามไข อาจบ้างเชี่ยวเต็มล้นธนญชัย พร่าชัดในห้วงมโนโตหรือตาย โศกใช่โศกโลกเราก็เท่านี้ ปฐพีแผ่นหล้าหาความหมาย ในริ้วรอยเลือนลางทางท้าทาย บรรจบท้ายไถ่ถามความเป็นคน/.
28 กุมภาพันธ์ 2546 22:52 น. - comment id 111297
อ่านกลอนของท่านรามแล้วต้องมานั่งปริวเทนาการ งงงวยไปไหนไม่ถูกเลย
1 มีนาคม 2546 03:25 น. - comment id 111329
สวัสดีครับคุณฤกษ์ วันนี้เพิ่งเสร็จงานวางยุทธศาสตร์ที่จังหวัดยาวเหยียด 10 วันเต็ม หัวสมองเริ่มปลอดโปร่งหน่อย กลอนบทนี้ระบายอารมณ์ครับ เกิดมาอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ควรแบ่งแยก ไม่ควรหมิ่นคนอื่น ไม่ควรหลอกตัวเองและไม่ควรลวงโลก งุ่นง่านกับความจอมปลอมมาหลายวันครับ ครั้นจะด่าตรงๆ ก็จะหาว่าปากจัดครับ
1 มีนาคม 2546 19:09 น. - comment id 111443
บรรจบท้าย ไถ่ถามความ เป็นคน คุณรามลิขิต กลอนนามธรรมอ่านซ้ำหลายๆเที่ยวก็ยังไม่เบื่อ แต่งกลอนนี้ใช้เวลานานไหมครับ
2 มีนาคม 2546 03:06 น. - comment id 111538
หวัดดีครับคุณน้ำ ใช้เวลาไม่นานหรอก แต่เวลาครุ่นคิดออกจะนานสักนิด ขอบคุณครับ