ลมทะเลพัดเข้าหาฝั่ง ถึงเวลาหรือยัง....ดังใจใฝ่ จะพาเรือลำน้อยล่องลอยไป พาหัวใจสองเราก้าวพร้อมลม เข็นเรือน้อยออกจากฝั่ง แม้คลื่นยังประดังถาโถม ดุจหมู่มารล้างผลาญจู่โจม พัดพาคลื่นโครมโรมรัน แต่เรือน้อย...ใจยังสู้ ตราบใดมีเธออยู่...เคียงข้างฉัน เราต่างลงเรือลำเดียวกัน มีเธอมีฉันคอยพึ่งพา แต่เอ๊ะ....นั่น....เรือกลไฟ ช่างโอ่อ่ากว้างใหญ่นักหนา ไม่ต้องพายให้เมื่อยเหนื่อยอุรา ได้แต่มองเงยหน้าอย่างละอาย ตูม.....เสียงเธอโดดน้ำ อ้าว....เสียงฉันร้องใจหาย เธอกระโดดหนีเรือน้อย..ปล่อยเดียวดาย ไปขึ้นเรือลำใหญ่ไม่แคร์กัน เรือกลไฟแล่นไป ปล่อยคลื่นมากระทบใจของฉัน ให้โคลงเคลงวังเวงอยู่ทุกวัน ปล่อยให้ใจของฉันลอยทะเล เราลงเรือ...คนละลำเดียวกัน พิสูจน์รักมานานวันกลับหันเห ให้ซาบซึ้งรักหวนกลับซวนเซ ควรกลัวเธอ...หรือทะเล...มากกว่ากัน
9 กันยายน 2545 10:29 น. - comment id 74680
^*^ ^*^ ^*^ ......มะเถียงจ้า... เด๋วเนี้ยเปงแบบเนี้ยค่อนข้างแยะ. .... อยู่ที่จิตใจจริงจริงเนอะ..^*^ ..................................................
9 กันยายน 2545 22:48 น. - comment id 74942
แรงบันดาลใจดีค่ะ อ่านแล้วเห็นภาพตามค่ะ
10 กันยายน 2545 08:25 น. - comment id 75036
เยื่ยมมากกับมุมมอง ความจริงแล้ว กติกาของกลอนแปด ไม่ใช่เรื่องจะมาแยกแยะว่า ใครแต่งกลอนเก่งหรือไม่เก่ง ความหมายและการใช้คำต่างหาก บ่งบอกได้ เบริส(สะกดยังไงหว่า ลืมแล้ว) ทำได้สวยงามและหลากหลายมาก ยิ่งอ่านยิ่งหลากหลาย
10 กันยายน 2545 20:18 น. - comment id 75172
555 นึกถึงโฆษณาเก่าๆ อันนึงที่มีคนขับรถสองคันกับหมาสองตัว แล้วตัวนึงโดดไปขึ้นรถอีกคันอ่ะ ที่มีเพลงพรานล่าเนื้ออ่ะ