บนบันไดมุ่งมั่นขั้นที่สี่ไม่ควรเป็นกวีมีมือเปล่า
เขียนผลงาน "ซังกะบ๊วย" ด้วยการเดา
สมมุติเอาไม่กี่ยกตกบันได
ควรเปิดหูเปิดตาเปิดหน้าต่าง
ให้กว้างกว้างดูสิ้นดินน้ำใส
ดูใกล้ตนไกลตัวดูทั่วไป
เมื่อตาดูฟังใดใจต้องคิด
รู้รอบตนรอบตัวทั่วรอบบ้าน
เรื่องการงานการเมืองเรื่องเศรษฐกิจ
เรื่องฝนฟ้าธรรมชาติอากาศพิษ
ยาเสพย์ติดคลุ้มคลั่งเสพสังคม
การศึกษาตกต่ำขาดสำนึก
"ประชาธิปไตย"เปิดศึกสะอึกถล่ม
ศีลธรรมในมนุษย์หลุดตกตม
ความขื่นขมเริงร่าโลกาภิวัตน์
เป็น "กวีวิวัฒน์" ได้ใช้ตาหู
เก็บความรู้ใส่มือคือสมบัติ
ความพอดีมีในวิสัยทัศน์
น้อมมนัสศรัทธามหาชน
มีความดีความชั่วทั่วภิภพ
"บวกบัดซบลบระเบิด" ไม่เกิดผล
โลกประเทศบ้านช่องเป็นของคน
หนีไม่พ้นรู้อยู่อย่าง "ผู้พอ"
พวก "กวีวิบัติ " มักคัดง้าง
เป็นพวกบ่างช่างยุกุหลอกล่อ
ทุกคำในร้อยกรองจ้องด่าทอ
คำไม่ก่อสาระ "ขยะกวี"