ฝนซา นภาฉาย รุ้งเยื้องกราย ระบายสี แถบโค้ง โยงเมฆี รัศมี ไกลลี้ลับ มหิดล ยามฝนสร่าง แสงสว่าง กระจ่างจับ ดินฉ่ำ น้ำซึมซับ ทุกสิ่งสรรพ งามฉับพลัน ชีวา เปรียบฟ้า,ฝน คราวอับจน ทนโศกศัลย์ ผ่านทุกข์ พบสุขครัน สิ้นหวาดหวั่น ปัญหาใด สังขาร การเกิด,แก่ ย่อมผันแปร เกินแก้ไข เนื้อ,หนัง หวังอะไร มาแล้วไป คล้ายพิรุณ สมบัติ ต่างผลัดเปลี่ยน ดังกงเกวียน เวียนวนหมุน แท้เที่ยง เพียงบาป,บุญ หนึ่งค้ำจุน หนึ่งขุ่นมัว ขาว,ดำ พึงจำแนก สองสิ่งแผก แยกเกลือกกลั้ว กามฉันท์ ผูกพันพัว ตามติดตัว คือชั่ว,ดี
7 พฤศจิกายน 2554 09:57 น. - comment id 1214093
สายรุ้ง คุ้งขอบฟ้า หลังนภา ฟ้าเปลี่ยนสี เมฆขาว พราวมากมี หลังนที ที่หายไป วิกฤติ เป็นโอกาส หลังวิวาท ประหลาดใหญ่ บ้านเมือง รุ่งเรืองไกล หลังเภทภัย โหมรุนแรง ประชา พาสุขสันต์ หลังทุกข์นั้น มันแถลง ดีชั่ว มั่วแสดง จนรู้แจ้ง แสงเวรกรรม ผู้นำ ล้ำพินิจ หลังจากจิต คิดจนต่ำ รู้สูง จูงศีลธรรม และกระทำ นำจนดี ฟ้าหลังฝน คงสวยงาม แต่ฝนคราวนี้คงอยู่นาน ไม่รู้ว่าตะวันจะสาดแสง เมื่อไหร่นะคะ
7 พฤศจิกายน 2554 10:33 น. - comment id 1214094
ไพเราะครับ
7 พฤศจิกายน 2554 10:54 น. - comment id 1214099