ชายตาบอดคนหนึ่งออกเดินทาง ไปเยี่ยมเพื่อนบ้านอยู่ห่างที่ปลายถนน กลางค่ำคืนไร้แสงจันทร์อันมืดมน บอกกับเพื่อนฉันขอตน...ต้องจากลา เพื่อนบอกควรเอาโคมไฟติดไปด้วย ...ตาฉันป่วยถึงถือไปก็ไร้ค่า... ที่ให้ท่านถือโคมไฟติดมือมา ไม่ใช่เหตุอันใดหนาป้องกันตัว แม้นท่านอาจไม่ต้องการแสงไฟนี้ เพื่อส่องทางหว่างวิถีที่มืดสลัว แต่ในท่ามกลางความมืดที่หมองมัว น่าหวั่นกลัวผู้มาชนบนหนทาง ชายตาบอดดุ่มเดินไปในท้องถนน กุมโคมไฟไว้มั่นจนทุกก้าวย่าง เสียงดังโครมก่อนล้มกลิ้งร้องครวญคราง ฉันมีไฟไม่เห็นบ้างเดินมาชน!!! ผู้เดินชนว่ามีไฟไหนวานบอก ท่านกระแทกฉันจนออกที่ริมถนน โคมที่ท่านถือมั่นใจ,ไร้กังวล ดับเพลิงไฟไร้โภคผล...ไปนานแล้ว
11 เมษายน 2554 19:28 น. - comment id 1190738
คล้าย ๆ กับสำนวนไทยตาบอดได้แว่นหรือเปล่าครับ
11 เมษายน 2554 19:48 น. - comment id 1190744
หวัดดีครับคุณสุริยันต์ฯ คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียวครับ "ตาบอดได้แว่น"หมายถึงการได้ในสิ่งที่ไร้ประโยชน์ แต่นิทานเซ็นเรื่องนี้มีความหมายที่ลึกกว่า น่าจะหมายถึงคนที่ใจคอมืดบอด(ด้วยอวิชชา) ต่อให้มีผู้หยิบยื่นแสงแห่งปัญญา(โคมไฟ)ให้ก็ไร้ความหมาย ท่านใดตีความนิทานเรื่องนี้ได้ในทางอื่นรบกวนช่วยชี้แจงแถลงไขเพิ่มเติมให้ด้วยครับ
11 เมษายน 2554 20:37 น. - comment id 1190754
เรียบๆแต่แฝงด้วยความเฉียบคม ชะอุ้ย..เลือดไหลเลย
12 เมษายน 2554 09:38 น. - comment id 1190848
เจมิไนว่าน่า...จ๋งจ๋านมากๆ
12 เมษายน 2554 16:16 น. - comment id 1190984
ขอบคุณนิทานดีๆนะคะ
12 เมษายน 2554 16:23 น. - comment id 1190988
ขออ่านด้วยคนค่ะ
13 เมษายน 2554 13:59 น. - comment id 1191083
นิทานเรื่องนี้จากอีกมุมมองหนึ่ง อาจกำลังสอนเรื่อง กำลังใจ ความมั่นใจ และพลังใจ มากว่านะคะ แต่พอชายตาบอดรู้ว่าโคมดับเท่านั้นแหละ ต่อไปคงเดินไม่เป็นเลยทีนี้ ที่เดินมาได้ทั้งๆที่โคมดับไปตั้งนานแล้ว ก้อเพราะกำลังใจจากโคมไฟของเพื่อน