บ้านแท้ของฉันอยู่ที่นี่ อยู่ในห้วงดวงฤดีที่มีค่า เป็นบ้านที่ไม่จำกัดด้วยเวลา ไม่แบ่งผืนดินหญ้าหรือชาติพันธุ์ บ้านหลังนี้ไม่มี เรา เป็นเจ้าของ ทั้งไร้สิทธิ์ผู้ครอบครองทั้ง เธอ ฉัน เป็นบ้านของทุก สรรพชีวัน เพื่อนบ้านฉันนั้นคือ สรรพชีวิต บางส่วนจากคำสอนของท่าน ติช นัท ฮันห์ ทึก ญอท หั่ญ หรือ ติช นัท ฮันห์ (อังกฤษ:Thich Nhat Hanh,เวียดนาม:Thích Nhất Hạnh) เป็นพระเวียดนามในพุทธศาสนานิกายเซนชื่อติช นัท ฮันห์ เป็นฉายา "ติช" เป็นคำใช้เรียกพระ ส่วน "นัท ฮันห์" เป็นนามทางธรรมที่มีความหมายว่า "การกระทำเพียงหนึ่ง(One Action)" ท่านเป็นพระมหาเถระนิกายเซน กวี และผู้สนับสนุนในเรื่องสันติภาพ ท่านมีงานเขียนเผยแผ่ตีพิมพ์ภาษาต่างๆ มากมาย และเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปฏิบัติธรรมชาวตะวันตก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2469 ที่จังหวัดกวงสี ในตอนกลางของประเทศเวียดนาม ท่านมีชื่อเดิมว่า เหงียน ซวน เบ๋า พ.ศ. 2485 อายุได้ 16 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่ วัดตื่อฮิ้ว และได้อุปสมบทเป็นพระในเวลาต่อมา ช่วงแรกที่อยู่ในเวียดนาม ท่านได้พยายามฟื้นฟูพระพุทธศาสนาด้วยการเขียบบทความ แต่กลับได้รับการต่อต้านจากผู้นำองค์กรชาวพุทธและรัฐบาลเป็นอย่างมาก ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 ท่านได้รับทุนไปศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ ณ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ท่านได้ศึกษาที่นั่นเป็นเวลา 1 ปี แม้จะได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียต่อ แต่ท่านก็ตัดสินใจเดินทางกลับเวียดนาม เพื่อต่อตั้ง รร.ยุวชนรับใช้สังคม และทำงานด้านความร่วมมือระหว่างพระพุทธศาสนานิกายมหายานและเถรวาทในเวียดนาม ท่านพยายามสอนแนวคิดเรื่องพระพุทธศาสนาเพื่อการรับใช้สังคม เพื่อรักษาความเสียหายจากสงคราม ท่านพยายามพัฒนาวงการสงฆ์ด้วยการสอนและเขียนในสถาบันพระพุทธศาสนาชั้นสูง ภารกิจที่สำคัญของท่านคือ ก่อตั้ง "คณะเทียบหิน" ในปี พ.ศ. 2509 ในปี พ.ศ. 2510 มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ได้เสนอชื่อของท่านให้เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยกล่าวว่า "ข้าพเจ้าไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัวอีกที่จะมีคุณค่าพอสำหรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ นอกเหนือไปจากพระผู้มีเมตตาจากเวียดนามผู้นี้" แต่การรณรงค์เพื่อหยุดการสนับสนุนสงครามของท่านทำให้รัฐบาลเวียดนาม ที่ถึงแม้จะรวมประเทศได้แล้วก็ตาม ไม่ยอมรับท่าน และปฏิเสธการเข้าประเทศของท่าน ทำให้ท่านต้องลี้ภัยอย่างเป็นทางการที่ประเทศฝรั่งเศส และก่อตั้ง "หมู่บ้านพลัม" เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชุมชนสังฆะของท่าน ขึ้นที่เมืองเบอร์โดซ ประเทศฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2525 ในระยะแรกเป็นแหล่งพักพิงของผู้ลี้ภัย ก่อนจะเริ่มมีนักบวชตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 หมู่บ้านพลัมปัจจุบันได้จัดการอบรมภาวนาเกี่ยวกับการเจริญสติทั้งในยุโรปและอเมริกาเหนือให้แก่บุคคลทั่วไป ปัจจุบันมีนักบวชกว่าห้าร้อยคน จากกว่ายี่สิบประเทศทั่วโลก ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8A_%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%97_%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B9%8C
2 ตุลาคม 2553 20:32 น. - comment id 1159877
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่เอ่ยถึงคำว่า "บ้าน"ในบทกวีบทนี้ ครั้งหนึ่งท่านเคยถูกขับไล่จาก "บ้าน"เกิดเมืองนอนที่ประเทศเวียดนามของท่าน และต้องหลบหนีไปอาศัยลี้ภัยที่ "บ้าน" อื่นเมืองอื่น ปัจจุบันทุกคนในโลกได้รับรู้แล้วว่าท่านเป็นอาจารย์เซ็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งของโลก และ "บ้าน" ของท่านก็กว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าที่ทุกคนจะนึกถึง เพราะ"บ้าน"ของท่าน ก็คือโลกทั้งโลกนั่นเอง...
2 ตุลาคม 2553 20:35 น. - comment id 1159879
ขอบคุณมากครับ
2 ตุลาคม 2553 20:50 น. - comment id 1159890
คือบ้านแสนอบอุ่นในความรู้สึกจริงๆค่ะ แวะมาสวัสดีค่ะ
2 ตุลาคม 2553 22:16 น. - comment id 1159919
เป็น concept ที่ง่ายๆ พื้นๆ แต่ยากที่คนจะมองเห็นนะคะ.. บ้านยิ่งสูง ยิ่งใหญ่ เท่าไหร่ ความเย็นในจิตใจก็ลดลงเท่านั้น.. บางวัน.... ที่แซม ลองลงไปนั่งที่พื้นทราย หรือบนพื้นสนามหญ้าในทุ่งกว้างๆ..มองไปรอบๆตัว และคิดว่า เราเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่งทั้งหลาย... เวลานั้นจิตใจจะกว้าง และอิ่มเต็ม...ไม่มีสูง ไม่มีต่ำ...มีแต่ความหนึ่งเดียว... (แล้วก็ถูกยามจับไปส่งตำรวจ..เพราะคิดว่า คนบ้าหลงมา..) ขอให้พี่ใบไม้ มีหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียวกับแซม..เอ๊ย...กับสรรพชีวัน... มะขิ่น De Calif.
3 ตุลาคม 2553 00:55 น. - comment id 1159938
งดงามมากครับท่านกระบี่ใบไม้
3 ตุลาคม 2553 09:50 น. - comment id 1159996
3 ตุลาคม 2553 14:08 น. - comment id 1160027
สมกับเป็นกระบี่ใบไม้ เยี่ยมยุทธจ้า นี่คือบ้านที่แท้จริง
5 ตุลาคม 2553 02:42 น. - comment id 1160276