สุริยามาทักทุ่ง...................ปรุงลำนำร่ำพฤกษา ไม้ดอกพะเนินนา..............ผลิวิญญาณรับแรกวัน พนาโพระดก......................ปลุกกานกบินผกผัน เจื้อยแจ้วจิบจำนรรจ์........กล่อมเนาว์นาอยู่อาจินต์ โผผกสู่โลกหล้า..................แสงทอมากระทบถิ่น ข้าวหุงหอมรวยริน..............บ่มควันกลิ่นไล้หลังคา นกขมิ้นลารังนอน............. ทิ้งคบคอนร่อนเวหา โล้รวงข้าวกลางนา.............เกาะกิ่งส้มตรงเรือนไฟ ถิ่นฐานเป็นวานวัน.............มิยึดมั่นท้องถิ่นไหน วิถีชีวีไพร...........................พเนจรไปก่อนกาล บินเหนือเรียวรวงข้าว......เหมันต์คราวหนาวสังขาร เกาะกิ่งตลิ่งธาร..................นอนซบกายใต้ร่มไทร ครึ้มแสงสนธยา..................ปีกอ่อนล้าจะหาไหน ฝั่งฟ้าว่าแสนไกล...............ไปพลัดหลงจมน้ำตา รุ่งเริงกลับกล้าแกร่ง............ฝ่าลมแรงแหล่งเวหา ร่อนเรียบเพนียดนา........... ทับกระท่อมอยู่ดงดอน บ่ายน้อยคล้อยแดดจับ.........ตะวันลับเหลี่ยมสิงขร พบค่าคบเคยคอน................ใต่ร่มโศกวิโยคพลบ ครรลองคือครรไล...............ลิขิตไว้ใร้จุดจบ เลี้ยงลูกทุกคราครบ.............เลื่อนเรื่อยไปไม่จีรัง จากถิ่นแล้วทิ้งถิ่น...........ลืมหมดสิ้นร้อยความหลัง สิ่งใหม่ไกลรวงรัง..............รอให้ค้นบนไม่มี จรไปไร้ทิศทาง................ ไปอ้างว้างกลางวิถี สุขทุกข์คลุกฤดี..............ตามล้อเกวียนต้องหากิน เรี่ยวแรงเริ่มแปรผัน...........อีกค่ำวันต้องผกผิน ลมเอยรำเพยยิน.............พลิ้วกิ่งโศกเมื่อโลกแปร! ----------------------------- ประสบการณ์ดูนกและผีเสื้อหน้าร้อน ณ เขาพะเนินทุ่ง เพชรบุรี นั้นยังฉายภาพชัด อยู่ในความทรงจำ คราวคิมหันต์หลายปีมา ผู้เขียนไม่เพียงเห็นแต่นกที่เกาะอยู่ตรงหน้า.. หากเวลาที่เรานั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นห้วงเวลาที่ส่งเสริมให้เกิดจิตมีปัญญา มองเห็นความเป็นไปแห่งวิถีธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ใบไม้ ต้นไม ทุกๆ สรรพสิ่งบนโลกนี้ ล้วนตกอยู่ภายในกฎแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่มีสิ่งไหนเป็นของเราแม้แต่สิ่งเดียว แม้แต่ลมหายใจเข้าออก... ทุกอย่างเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย แหละชวนให้ประหวัดถึงวัจนะภาษา ของนักปฏิบัติธรรมผู้หนึ่ง กล่าวไว้ว่า... **เมื่อเรายอมรับว่า สิ่งปรากฏอยู่ข้างหน้าของเราเปลี่ยนแปลงได้ ความยึดมั่นถือมั่นในโลกของเราจะคลายลง เหมือนกับเวลาที่เราดูหนัง เวลาที่เราอยู่ในโรงภาพยนตร์ เราจะเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่นั้น เป็นเพียงภาพมายาเท่านั้นเอง ไม่ใช่ของจริงจังที่เราควรจะยึดถือไว้ ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าฝึกมองสิ่งที่เห็นอยู่ข้างหน้านั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เราจะพบว่าเราจะไม่เอาจริงจังกับสิ่งนั้น จนเป็นเหตุแห่งทุกข์ ความจางคลายในโลกนี้ เราสามารถทำได้ในทุกๆ ขณะที่มี** เวลาของแต่ชีวิตนั้นสั้นนักสั้นหนาแค่วันนี้พรุ่งนี้ เราจะมีเวลาในการเข้าใจกฎความจริง มากน้อยแค่ไหน? **ยามนี้เราหลงทางกลางค่ำ ยินเสียงร่ำคำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร....... นกขมิ้นเหลืองอ่อน คำนี้จะนอนไหนเอย!** ฤานกขมิ้นจะรู้สัจธรรมข้อนี้ดีกระมัง **ไม่ยึดมั่น ไม่ถือมั่น** ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์ วันอาทิตย์ที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
23 มีนาคม 2553 00:49 น. - comment id 1073798
ไพเราะได้อารมณ์กวีมากๆเลยครับผม..
21 มีนาคม 2553 20:06 น. - comment id 1113034
จากถิ่นแล้วทิ้งถิ่น................ลืมหมดสิ้นร้อยความหลัง สิ่งใหม่ไกลรวงรัง.................รอให้ค้นบนไม่มี ..ลำนำบท วิหกพเนจร ยังคงความเป็นผู้เห็นและสัมผัสธรรมชาติ อย่างคุณลำน้ำน่านได้ถึงแก่น อ่านงานคุณลำน้ำน่าน ที่ไร ผมอดถวิลหา บ้านเกิดทุกที ๐ จากถิ่นแล้วทิ้งถิ่น.......แรมรอน เกาะกิ่งก้านคบคอน........พฤกษ์ค้ำ กกคู่กู่คลอนอน........มิหน่าย จึ่งรุ่งแอร่มล้ำ..........ร่อนฟ้าเริงไพร ฯ
21 มีนาคม 2553 20:06 น. - comment id 1113035
ลำนำบทกวีได้อย่างไพเราะงดงาม แฝงด้วยแง่คิด คติธรรม ให้ทราบถึงความเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ มุ่งให้แลเห็นถึงวิถีแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ สะท้อนจิตใจที่งดงามของผู้รจนา นับได้ว่าเป็นกวีที่ประเสริฐแท้ ขอชื่นชมครับ
21 มีนาคม 2553 20:36 น. - comment id 1113044
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีดี..
21 มีนาคม 2553 20:36 น. - comment id 1113045
สวัสดี พี่นิว สบายดีไหมค่ะ รู้สึกเหมือนนานมากไม่ได้อ่านงานพี่ ไพเราะเหมือนเดิม
21 มีนาคม 2553 21:27 น. - comment id 1113060
สวัสดีครับเพื่อนแก้วฯ ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียน หวังว่าคงสบายดีอยู่เนาะครับ นานๆ จะได้เข้ามาทักทายกัน ยังคิดถึงเสมอครับ ผมเขียนบทกวีไม่ค่อยออกครับ ชีวิตประจำวันมันยุ่งเหยิง งานก็แย่งชิงเวลาไปหมด หัวถึงหมอนก็หลับเลย..
21 มีนาคม 2553 21:03 น. - comment id 1113061
สวัสดีครับพี่กิ่งโศก ขอบคุณครับที่แวะเข้ามา กลอนนี้เขียนจากแรงบันดาลใจ นกขมิ้นพเนจรของพี่หล่ะครับ นานจะมีเวลาเข้ามา แวะพักมุมตรงนี้ ดับร้อนรน ดับความกระวนกระวายใจ ดับความขัดแย้ง ด้วยบทกวี และสัจธรรม เชิญครับ...น้ำชาสักจอก? ---------------------------------- ธันวันตรี คนอ่านบทกลอนที่ตรงตามใจผู้เขียนอยากสื่อนี่ซิครับ แน่จริงยิ่งกว่าคนเขียนนะครับ ---------------------------------- ครูพิม ขอบคุณครับที่แวะเข้ามาทักทายคนจรหมอนหมิ่นเหมือนนกขมิ้นครับ ---------------------------------- ใจปลายทาง สบายดีอยู่หรือเปล่าครับ ไม่ได้ทักทายกันเสียนาน ....พี่สบายดีครับ นานๆ จะได้เข้ามาบ้านกลอนสักหน
21 มีนาคม 2553 21:15 น. - comment id 1113066
สวัสดีค่ะ คุณลำน้ำน่าน เอ่อ คือว่า ตามกลิ่นของอ้อมใจปลายทางมาค่ะ อิอิ บทกลอนของคุณ แอบอ่านบ่อยคะ แต่ไม่ค่อยกล้าเม้นท์ กลัวทำให้เลอะบ้านกลอนของคุณ เลยกล้าๆกลัวๆ .....
21 มีนาคม 2553 21:23 น. - comment id 1113069
มาเยี่ยมสหายเรา งดงามเล่นอักษรงามเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
21 มีนาคม 2553 21:25 น. - comment id 1113072
น้องฉางน้อย ยินดีครับ ดีใจที่เข้ามาอ่าน (ถึงแม้จะแอบอ่าน) คอมเมนท์ได้ตามสบายครับ ไม่คิดว่าเป็นการทำให้บ้านเลอะนะครับ ผมเสียอีกที่ไม่ค่อยมีเวลามาตอบถ้อย เพื่อนๆ น้องๆ ขอให้มีความสุข สงบ รำงับ เมื่อยามได้อ่านบทกวีครับ
21 มีนาคม 2553 21:28 น. - comment id 1113074
สวัสดีค่ะ...คุณลำน้ำน่าน ธรรมชาติป่าเขา เป็นสิ่งที่ปรางชอบมากค่ะ จากบทกวีที่คุณแต่งไว้ หลาย ๆ บท เหมือนกับมีความสุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติ หลาย ๆ ท่านในบ้านกลอน ก็เป็นเช่นนี้ค่ะ วิถีคนเมือง มันวุ่นวายสับสนมาก เหมือน ละครโรงใหญ่ ทำให้เราแสร้งที่จะต้องรับบท และหัวโขนที่จับถือไว้ หากเราอยู่ในป่าดง เราก็เป็นตัวตนของเรา เป็นดั่งใจที่เราวาด และปรารถนา แค่นี้ก็สุขใจแล้วนะคะ
22 มีนาคม 2553 00:09 น. - comment id 1113127
อยู่กับธรรมชาติ ก็สุขไปอีกแบบ
22 มีนาคม 2553 00:30 น. - comment id 1113130
บางคนชัดสัจจะธรรมชาติ น่าอนาถบางวาสนาจะหลอน ไร้สติพินิจชีวิตสุนทร แม้ทับคอนกลับได้ยังไม่มี
22 มีนาคม 2553 07:23 น. - comment id 1113155
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
22 มีนาคม 2553 07:30 น. - comment id 1113159
ไพเราะ สุดพริ้ว
22 มีนาคม 2553 11:17 น. - comment id 1113219
ไม่ได้มาซะนานนะคะ...บทกลอนยังคง ความงดงามไพเราะเสมอเลยค่ะ...
22 มีนาคม 2553 13:28 น. - comment id 1113268
22 มีนาคม 2553 14:41 น. - comment id 1113280
สวัสดีค่ะ พี่ลำน้ำ สบายดีนะค่ะ ดอกบัวพักนี้หาเวลาเขียนน้อยมาก หน้าที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้น พอมีเวลาบ้างกลางคืนก็หลับเหนื่อยค่ะ สุขภาพพี่ลำน้ำเป็นอย่างไรบ้างค่ะดีหรือเปล่า รักษาสุขภาพนะค่ะ ขอให้พี่ลำน้ำมีสุขภาพแข็งแรงมีแต่ความสุขค่ะ
22 มีนาคม 2553 16:02 น. - comment id 1113304
เจ้าหลงทางไขว่คว้ามายาฝัน คืนและวันผ่านไปเหลือใดหวัง เสมือนนกขมิ้นยอมทิ้งซึ่งรวงรัง ไร้จีรังโลกสมมุติดุจดั่งเงา.... .................... ใดเข้าใจอริยสัจอย่างแจ่มแจ้ง ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้อย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งกว่าความน่าอัศจรรย์ใดๆ ในโลก... เรื่องการดูจิตนั้นสำคัญมาก ถ้าอ่านจิตตนเอง แล้ว จะเห็นอริยสัจแห่งจิต เพราะ ทุกข์ก็เกิดที่จิต ถ้าจิตไม่ทุกข์ แล้วใครจะทุกข์ ตัณหาคือตัวสมุทัยก็เกิดที่จิต นิโรธ.. คือนิพพานก็ประจักษ์ด้วยจิต อริยมรรค ก็ดำเนินอยู่ที่จิต ท่านสอนรวบรัด ถ้า.. เห็นเข้ามาให้เห็นถึงจิตถึงใจตัวเอง การปฏิบัติก็ลัดสั้นนิดเดียว .......................... เป้าหมายของเรา ก็คือ เราจะต้องรู้กายรู้ใจ จน.. เห็นความจริงของกายของใจว่าเป็นไตรลักษณ์ จน.. หมดความยึดถือกายยึดถือใจ แล้ว.. จิตก็จะเข้าถึงวิมุตติความหลุดพ้น... ส่วนวิธีการก็คือการเจริญสติปัฏฐาน สติปัฏฐานมี ๒ ส่วน คือส่วนที่เป็นสมถะ กับ ส่วนที่เป็นวิปัสสนา อย่านึกนะว่า ทำสติปัฏฐานแล้ว จะเป็นวิปัสสนาเสมอไป ถ้ารู้กาย ถ้ารู้ใจ แต่ไม่เห็นไตรลักษณ์ ไม่เรียกว่าวิปัสสนา ยังเป็นสมถะอยู่ แต่ถ้า.. เห็นกายเห็นใจเป็นไตรลักษณ์ จึงจะเป็นวิปัสสนา http://www.fungdham.com/book/pramote.html
22 มีนาคม 2553 16:20 น. - comment id 1113307
http://203.150.0.182/forever//ipage/poem129387.html
22 มีนาคม 2553 21:36 น. - comment id 1113369
เป็นภาพวิถีชีวิตนกที่ถ่ายทอดได้ดีครับ ในความหมายเกิดทั้งความรู้สึกว้าเหว่ และมีความหวังไปพร้อมๆกัน นัยยะที่ซ่อนถึงความไม่จีรังดูเด่นชัด ในภาพรวม พิมพ์ผิดเล็กน้อยครับ...ลิขิตไว้ใร้จุดจบ ต้องเป็น..ไร้ ขอให้มีความสุขมากครับ
23 มีนาคม 2553 07:11 น. - comment id 1113460
.. คิดถึง..พี่ชายนะคะ..
23 มีนาคม 2553 07:46 น. - comment id 1113471
23 มีนาคม 2553 14:44 น. - comment id 1113710
สวัสดีครับ ท่านพี่ ลำน้ำน่าน ขอบคุณกะการไปแนะนำผลงานเก่าๆ ของผม ตอนนี้ รู้สึกสบายใจขึ้น ที่เรื่องเสียง ถือว่าไม่มีปัญหามาก คิดว่า แต่งคงไม่ผิดเสียงแล้วล่ะครับ ส่วนการสื่อความหมาย นี่ยังอ่อนด้อยครับ ผมสื่อไม่ค่อยจะเก่ง เวลาเเต่งมักแต่งได้เท่าที่ได้ ไม่เคยคิดหรือวางโครงเรื่องไว้ก่อนเลย ได้ไม่ได้ ก็เอาตามที่ได้ อิอิ (มักง่าย) ขอให้ท่านพี่ มีความสุขกะงานที่ทำ ตลอดไปนะครับ ถ้าว่าง พอจะแนะนำผมได้ ก็แนะนำ เป็นเรื่องราวได้เลยนะครับ เป็นการช่วยให้ผมได้นำไปคิด และพัฒนา ในภายหลัง
23 มีนาคม 2553 21:52 น. - comment id 1113894
อึ้ง ทึ่ง มากครับ ชื่นชมในความงดงาม
31 มีนาคม 2553 16:37 น. - comment id 1116977
ความไม่ยึดมั่นถือมั่น ครั้งหนึ่ง เคยมีคนไปถามพระพุทธเจ้าว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระองค์พอจะมี ธรรมะ ที่เป็นสุดยอดของธรรมะทั้งหมด หรือไม่ พุทธเจ้าข้า" พระพุทธเจ้าท่านก็ได้ตรัสว่า "มี" "ธรรมะข้อนั้นก็คือ สัพเพ ธรรมา นารัง อภินิเวสายะ" แปลเป็นภาษาไทยก็คือ "ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ควรยึดติดถือมั่น" ฮืมมม ทุกครั้งที่เข้ามาอ่านกลอนนี้ หวนให้คิดถึงบ้านทุกที อยากเป็นครับ อยากเป็นนกขมิ้น ที่ไม่ยึดติดถือมั่นในแผ่นดิน "เจ้านกขมิ้นเอย เจ้านกขมิ้นลารัง ทุกต่ำ-เช้าหวังนอนไหน นอนป่าทุ่งหญ้าแห้ง หรือห้วยหนองแล้งแห่งใด โอ้เจ้านกขมิ้นยากไร้ เจ้าไม่ถือมั่นอย่างไรเอย เจ้านกขมิ้นเอย นกขมิ้นผู้ปล่อยวาง เราอยากเป็นบ้างแต่ไม่อาจวางเฉย ลมร้อน ดอกเสี้ยว ลมแล้ง ดอกคูน ฮักแพง ลมหัวกุดรำเพย โอ้ว่าหากเราอยากวางเฉย เจ้านกขมิ้นเอ๋ยเราจะทำได้อย่างไร"
5 เมษายน 2553 10:52 น. - comment id 1118770
แว่วเสียงเพลงมาพร้อม ๆ กับตัวอักษรของคุณ ทำให้ร้าวไปทั้งใจ...ปลายจมูกร้อน...กระบอกตาก็ร้อนผ่าว มันบรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่า..น้ำตาซึม **ยามนี้เราหลงทางกลางค่ำ ยินเสียงร่ำคำบอก เจ้าช่อไม้ดอกเอ๋ย เจ้าดอกขจร....... นกขมิ้นเหลืองอ่อน คำนี้จะนอนไหนเอย!** เห็นถึงสัจธรรมของชีวิต แบบที่คุณรู้สึกจริง ๆ
20 สิงหาคม 2553 17:52 น. - comment id 1152169
ชมช้า แต่ตราตรึง จนถึงชื่นใจเงียบๆ