สุขใจในจาตุมหาราชิกาภูมิ ปฐมบทจาตุมหาราชิกา (กาพย์ฉบัง ๑๖) ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๑๐ ประการเป็นผู้ถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่นำมาประดิษฐานไว้ ธรรม ๑๐ ประการเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการพูดเท็จ เว้นขาดจากคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำหยาบ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ ไม่อยากได้ของผู้อื่น ไม่มีจิตคิดปองร้าย มีความเห็นชอบ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๑๐ ประการนี้แล เป็นผู้ถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ในสวรรค์ เหมือนสิ่งของที่เชิญมาประดิษฐานไว้ ฯ **ภูมิวิลาสินี** โดย พระธรรมธีรราชมหามุนี (วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.๙) สี่พันหกร้อยโยชน์ยล เทวะมณฑล ยอดยุคนธรพิมาน แสงสรวงสวรรค์บันดาล เกล็ดดาวพราวลาน ภพภูมิเทพยดา หอมมรรคผลอภิญญา ไอทิพย์ทิพา อัปสรว่อนฟ้ารื่นรมย์ รอเฝ้ามหาอินทร์พรหม รับพรนิยม ประกอบแก้วเจ็ดประการ อร่ามเหลืองเมืองโอฬาร จาตุทวาร กำแพงกั้นใสใยยอง สี่เทพนครครอบครอง เรือนแก้วเรือนทอง เหลื่อมลอยลับสลับกัน ประตูแก้ววิลาวัณย์ วิเศษทองพรรณ ประเสริฐสุดในดินแดน ซุ้มปราสาทวาดเมืองแมน ม่านบานแผ่แพน ใต้ร่มฉัตรแก้วแพรวพลอย กลางนครไอเมฆลอย ห่มคลอหอคอย ยอดปราสาทแก้วอรุณ คือวิมานกามคุณ เสวยผลบุญ ของเหล่าเทพยาดา เบื้องต่ำเท้ามรคา ทองทาบฉาบทา ทอดอร่ามตามทางเดิน เหล่าเทวดาเพลิดเพลิน ทอดนำดำเนิน นวลนุ่มเนื้อเจือแพรพรม เท้าเทวาวางย่างจม เจิมเต็มทิพย์ลม ไร้ร่องรอยเทวดา สระหนึ่งไม้ดอกดาษดา สระน้ำแก้วตา สระแก้วโบกขรณี เหล่าปทุมชาติวารี ทิพย์กลิ่นอินทรีย์ ละอองสรวงปวงสุคันธ์ พฤกษชาติดาดาษพันธุ์ สลับสีสัน พรรณรายพรายธารครอง ผลไม้ใหญ่น้อยเนืองนอง ดอกผลทิพย์ทอง แท้รสเลิศล้ำโอชา ไร้เขตกัปกัลป์เวลา สุขทุกเทวา ทวยเทพมหาอภิรมย์ ปุญญกิริยาวัตถุสูตร (อังคุตตรนิกาย อัฏฐกนิบาต ข้อ ๑๒๖ หน้า ๒๔๕ บาลีฉบับสยามรัฐ) "ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย! บุคคลบางคน ในโลกนี้ ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทานมีประมาณ ยิ่ง ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป แล้วเขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดา ชั้น จาตุมหาราช "ดูกรเธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย! ท้าวมหาราช ทั้ง ๔ นั้น ได้ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทานเป็น อดิเรก ทำบุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วงเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาโดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์ วรระณะทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์ โผฏฐิพพทิพย์ จาตุโลกบาลทั้งสี่แห่งจาตุมหาราชิกา สี่เมืองใหญ่วโรดม ยิ่งยศต่างพรหม ปกครองผองเทพแต่บรรพ์ นครหนึ่งยลคนธรรพ์ ดนตรีสรวลสรรค์ ท้าวธตรัฏฐะบูรพา ร่ายรำฟ้อนอ้อนลีลา ชุมนุมเทวา กลอนกล่อมเพลงพิณรินใจ หนึ่งเทพบุตรงามใน พรเทพปางใด ปัญจสิขรคนธรรพ์ กุศลก่อนเบื้องเนื่องบรรพ์ ศิลป์พิณจำนรรจ์ น้อมเกิดภูมิราชิกา เทพบุตรสุดโสภา จอมเทพเมตตา เหนือธรรพ์ชั้นฟ้าถิ่นใด ร่อนลงนิมิตบันได ดื่มด่ำอำไพ เพลงพิณเพราะโกกิลา ร่ายเสียงเยี่ยงสกุณา ลิ้นทิพย์มนตรา เยื้องกรายนำหน้าพระอินทร์ เข้าเฝ้าองค์เอกภูมินทร์ ร่ายธรรมย้ำยิน แต่องค์พุทธบิดา นครทิศทักษิณา กุมภัณฑ์พารา ท้าววิรุฬหกาครอง ไกรอิทธิฤทธิ์ช่ำชอง คุมยักษ์กระบอง ยักษ์ทาสจงรักภักดี อีกปวงเทพไท้ฤทธี อุบัติมากมี ใต้แสนยามหาวิรุฬฯ หนึ่งนครเทพการุณย์ สวรรค์สมดุล ด้วยปวงสมุนนาคา ท้าววิรูปักษ์ราชา องค์เจษฎา รักษาประจิมพิมาน ฤทธิ์นาคีบริวาร ทิพย์จิตวิญญาณ นฤมิตกายได้ไว มนุษย์อมนุษย์ใน รูปลักษณ์อำไพ เที่ยวท่องสมุทรธารา เนรมิตเทวดา เยี่ยมเยือนนภา เสพสุขกามาพจร ยามนาคพ่นพิษขจร เนื้อหนังขาดรอน ชีพม้วยมรณ์ในพริบตา วรรณะสูงส่งนาคา สั่งสมบุญญา เกิดภพภูมิใดไม่กลาย หนึ่งนครสวรรค์ปลาย ครองยักษ์เหล่าร้าย ท้ายแว่นแคว้นแดนอุดร องค์เวสสุวรรณบวร ฤทธาขจร คุ้มยักษ์ภักตะสันดาน อานิสงส์บริบาล ก่อนจุติกาล สั่งสมบุญบารมี กายสุกปลั่งดั่งสุรีย์ รุ่งรัศมี ระย้าระยับเมืองแมน ทานสูตร (อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ข้อ ๔๙ หน้า ๖๐ บาลีฉบับสยามรัฐ) "ดูกรสารีบุตร ในการให้ทานนั้น บุคคลมีความหวัง ให้ทาน มีจิตผูกพันในผลแห่งทานแล้วให้ทาน มุ่งการ สั่งสมทาน ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปแล้วจักได้ เสวยผลแห่งทานนี้ เขาผู้นั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมหาราช" ปัจฉิมบทจาตุมหาราชิกา ท้าวจตุมหาแถน สี่ทิศชิดแดน พ้นด่านทวีปมนุษย์ เหล่าเทวาบริสุทธิ์ อัปสรนงนุช เริงสุขไพศาลถาวร ปราสาทสถานอัมพร กามาวจร ใต้บวรจตุโลกบาล ปาริชาตบานตระการ ทิพย์ไต้วิมาน มวลละอองล่องสะท้อน รูปอินทรีย์มิอาวรณ์ อายุฤารอน ใต้ร่มมหาราชิกา ภุมมัฏฐเทวดา กรรมดีมีมา สถิตสถานแผ่นดิน ปวงพฤกษ์ไม้พรายถิ่น เทพองค์ทรงยิน รุกขัฏฐะเทวดา ทิพย์พิมานเมขลา ไอศูรย์เมฆา อากาสัฏฐะเทพองค์ สุดยอดโยชน์โขดเขาดง สิเนรุลง ลาดจรดจดตอนกลาง ทั่วพื้นภพจบสรรพางค์ เทวาอำพราง ศานติสุขราชิกา (อังคุตรนิกาย เอกนิบาต ข้อ ๒๐๕ หน้า ๔๖ บาลีฉบับสยามรัฐ) ดูกร เธอผู้เห็นภัยในวัฏสงสารทั้งหลาย! สัตว์ที่จุติจาก มนุษย์ ไปแล้ว จะกลับมา เกิดเป็นมนุษย์อีก มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่จุติจากมนุษย์ไปแล้ว ไปเกิดในนรก ไปเกิดในกำเนิดเดียรัจฉาน ไปเกิดในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า โดยแท้ สัตว์ที่จุติจาก มนุษย์ ไปแล้ว ไปเกิดเป็นเทพยดา มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่จุติจากมนุษย์ไปแล้ว ไปเกิดในนรก ไปเกิดในกำเนิดเดียรัจฉาน ไปเกิดในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า โดยแท้ สัตว์ที่จุติจาก เทพยดา ไปแล้ว จักกลับไปเกิด เป็นเทพยดาอีก มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่จุติจาก เทพยดาไปแล้ว ไปเกิดในนรก ไปเกิดในกำเนิด เดียรัจฉาน ไปเกิดในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า โดยแท้ สัตว์ที่จุติจาก เทพยดา แล้ว จักได้มาเกิดเป็น มนุษย์ มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่จุติจากเทพยดาแล้ว ไปเกิดในนรก ไปเกิดในกำเนิดเดียรัจฉาน ไปเกิดในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า โดยแท้ สัตว์ที่จุติจากกำเนิดเดียรัจฉานแล้ว ไปเกิดเป็น เทพยดา มีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่จุติจากกำเนิด เดียรัจฉานแล้ว ไปเกิดในนรก กลับเกิดในกำเนิด เดียรัจฉาน ไปเกิดในเปรตวิสัย มีประมาณมากกว่า โดยแท้ ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์ วันศุกร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๑๔๔๒
12 กุมภาพันธ์ 2553 19:03 น. - comment id 1098938
ดินแดนแห่งเทพ สุขแค่ไหนมิรู้ได้ รู้แต่ว่าสุขใจทุกครั้งที่ได้อ่านผลงาน ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์
12 กุมภาพันธ์ 2553 21:13 น. - comment id 1098988
เยี่ยมจริงๆครับที่อ้างอิงมา กวีก็งดงามยิ่งนัก เรื่องจตุรโลกบาล ผมเคย กล่าวสนทนากับใครจำไม่ได้แล้ว ว่า ท้าวธตรฐนั้นครองคนธรรมพ์เทวดา ท้าววิรุฬหค ครองภุมภัณฑ์ ยักษ์ อสูร ท้าววิรุฬปักษ์ ครองพวกนาค งูทั้งหลาย ท้าวเวสสุวรรณหรือกุเวร ครอง ยักษ์ ภูตผีปีศาจ เขาว่าเป็นอย่างอื่นผมก็ไม่เถียงเขาครับ นี่ สหายรักเราเอามาจากพระไตรปิฏกฉบับแท้จริง เลย คิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.
12 กุมภาพันธ์ 2553 21:26 น. - comment id 1098990
สวัสดีครับ ลำน้ำน่าน โห...เกือบพลาดเลยครับ วันนี้ผมเพิ่งกลับมาจาก แขวงไชยะบุรี สปป.ลาวครับ...ไปทำงานมีเรื่องราวมากมาย ที่เก็บมาเต็มความรู้สึก...มีคุณค่าของชีวิตที่ มีระดับความต่างคุณภาพ...มีความจำทน และจำยอมที่น่าประทับใจ.......พอกลับถึงบ้าน ได้มาอ่านผลงานของลำน้ำน่าน..รู้สึกหายเหนื่อยครับ...อ้อ..ขอขอบคุณกำลังใจที่มอบ ให้นะครับ...ขอปฏิเสธคำชมที่เกินจริงนะครับ รักครับ
12 กุมภาพันธ์ 2553 21:55 น. - comment id 1099019
สาธุ ขออานิสงส์ จงบังเกิด แด่ พี่ลำน้ำ ทุกภพ ทุกชาติเทอญฯ สวัสดีค่ะ พี่ลำน้ำ วันนี้ยุ่งทั้งวัน ไม่มีเวลาเข้ามา แวะมาสวัสดีไว้ก่อนค่ะ ว่างๆ ดอกบัวจะมาอ่าน จะขอเก็บไว้ด้วยค่ะ ดอกบัวชอบค่ะพี่ลำน้ำ แล้วตอนนี้สุขภาพ พี่ลำน้ำเป็นอย่างไรบ้างค่ะ ส่วนดอกบัว ไม่มีอาการอะไรเลย นอกจาก แค่เลือดยังซึมออกมาทางผิวแค่นั้น อาการ ปกติดีทุกอย่างไม่เพลียไม่เวียนหัวค่ะ ว่างๆดอกบัวจะมาอ่าน ทั้งสองห้องค่ะ ขอให้พี่ลำน้ำมีสุขภาพแข็งแรงมีแต่ความสุขค่ะ
13 กุมภาพันธ์ 2553 08:40 น. - comment id 1099104
สวัสดีค่ะคุณลำน้ำน่าน... แวะเข้ามาอ่านผลงานแล้วนึกถึงตอนเป็นเด็ก เมื่อเรียนมัธยม (นานมาแล้ว..สมัยหนึ่ง..) เคยอ่านหนังสือ "ไตรภูมิพระร่วง" ด้วยความเข้าใจผิด คิดว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับ..นายร่วง..นายกองส่วยน้ำ สมัยพระเจ้าปทุม สริยวงศ์ เจ้าเมืองขอม ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่สั่งให้ไพร่ สานชลอม และตักน้ำโดยที่น้ำไม่ไหลออกจากชลอม ขอยืมมาจากห้องสมุดโรงเรียน..พอเปิดอ่านก็รู้ว่าไม่ใช่ จะคืนก็..ยืมมาแล้ว..เลยอ่านไปเรื่อย ๆค่ะ จำเค้าโครงได้เลือนลาง จนกระทั่งได้มาอ่านงานเขียนคุณครั้งนี้ อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ มีความสุขในวันหยุดนะคะ
13 กุมภาพันธ์ 2553 08:00 น. - comment id 1099111
แวะมาอ่านหาความรู้เกี่ยวกับชั้นสวรรค์ครับ นี่ขนาด ชั้นที่1 หรือครับ กาพย์ ไพเราะมากครับ
14 กุมภาพันธ์ 2553 07:06 น. - comment id 1099430
14 กุมภาพันธ์ 2553 09:20 น. - comment id 1099464
14 กุมภาพันธ์ 2553 08:49 น. - comment id 1099495
สุดยอดมากครับ พี่ลำน้ำน่าน ผมก็นึกว่า พี่จะลืมบ้านกลอนไปแล้ว มาคราวนี้ มาพร้อมธรรมะ ละมุนละไม เลยนะครับ ขอให้มีความสุข ในการทำงาน ด้านความรัก พร้อมจิตใจที่สูงส่ง ขึ้นเรื่อยๆ นะครับ
14 กุมภาพันธ์ 2553 13:26 น. - comment id 1099594
สวยงามอยู่นทุกถ้อย เรียงร้อยด้วยจิตสุขี รื่นรื่นภิรมย์ยินดี ยอดแห่งกวี..ลำน้ำน่าน...
14 กุมภาพันธ์ 2553 17:20 น. - comment id 1099680
เอ แล้วเราจะไปเกิดเป็นอะไรดีละหว่า อ่านแล้วเห็นชัดว่ามีประตูเดียว เพราะทำบาป ทำกรรมไว้ทั้งวจีกรรม มโนกรรม มัวแต่ทำกายกรรมอยู่ด้วย อิอิ
14 กุมภาพันธ์ 2553 19:06 น. - comment id 1099727
สุดยอดเลยครับ..นับเป็นกาพย์ที่งดงามมองเห็นภาพสวรรค์ได้อย่างลงตัวครับ..