. . . ดุ่มเดี่ยวอยู่ในภวังค์เร้น ร่ายอารมณ์ล้อเล่น ความว่างเปล่า เฉยเมยในไหววูบ แห่งรูปเงา ผ่านสายลมบรรเทา ความชินชา ผละสรรพสิ่งทั้งปวง สู่ล่วงลับ เร้นภวังค์สดับ ใจโหยหา เคลื่อนไหวคล้อยบนรอยกาล ผันผ่านพา ตรึงเป็นภาพอันฉาบทา ลวงตาใจ ทับถมเป็นอดีตกาล ที่ผ่านพ้น ท่ามกลางความสับสน และหวั่นไหว บางอาวรณ์ซ่อนเร้น ความเป็นไป ซุกอาลัยครุ่นสดับ นานนับเนิ่น บางเรื่องราวทิ้งวาง อยู่อย่างนั้น นับนิรันดร์แห่งกาล ล่วงผ่านเผิน บางเรื่องราวทบทวน คล้ายส่วนเกิน บนทางเดินอันล้นหลาก ความมากมี เธอเก็บอะไร เอาไว้บ้าง บนเส้นทางทุกข์ทน ต่างหนที่ นอกจากเก็บความรู้สึกดีดี ในแต่ละท่วงนาที ที่เลือนลับ …………………………. โดยคำ ลานเทวา
16 มกราคม 2553 20:03 น. - comment id 1086986
นมัสการครับ ลึกซึ้งเกินกว่าจะเข้าถึงครับ ผมมองเห็นเป็นแต่ภาพการเจริญสติวิปัสนา เห็นร่างกายนั้นเป็นเพียงซากศพ
16 มกราคม 2553 22:40 น. - comment id 1087021
(เห็นชื่อกลอน ตอนแรกนู๋นึกว่าจะหลอน ) ชอบสองบทแรกมาก ๆ ค่ะ
16 มกราคม 2553 22:53 น. - comment id 1087026
งดงามได้ใจ...........
17 มกราคม 2553 02:21 น. - comment id 1087052
บทกลอนของท่าน เชือดเฉือน อารมณ์และฝากไว้ซึ่งความหมายค่ะ คนตายอาจจะไม่รับรู้แล้ว ดังนั้นกล่อม คนเป็นที่ยังรับรู้....ความว่างเปล่าค่ะ
17 มกราคม 2553 06:38 น. - comment id 1087057
ครับเมื่อตายแล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่ง เอาอะไรไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว ยอดเยื่อมครับสหาย
17 มกราคม 2553 14:50 น. - comment id 1087186
=ชอบค่ะชอบมาก ได้ข้อคิดและเตือนสติดีค่ะ
17 มกราคม 2553 21:32 น. - comment id 1087320
คม..ทุกคำ หวังไว้ว่าวันหนึ่งอยากเขียนกลอน แนวนี้ได้บ้างค่ะ..
18 มกราคม 2553 15:35 น. - comment id 1087576
สุดยอดครับ ยากแท้หยั่งถึง