พิศดูหมาขี่เหรื้อน ผอมเหลือง โฉดชั่วจรตามเมือง เที่ยวขี้ อุจาดเยี่ยวนองเนือง เหม็นเน่า อวดโอ่ชมตัวนี้ แน่แท้หมางาม
6 พฤศจิกายน 2552 16:50 น. - comment id 1060918
สั้นๆ แต่เจ็บค่ะ..อิอิ เอาภาพมาฝากนะคะ มีวิธีลงภาพที่เราต้องการให้ได้ความหมาย ตามกลอนนะคะ จะบอกหน้ากลลอนที่กิตติกานต์ ไปปรึกปรือมานะคะ เป็นสนามในบ้านกลอนนี่แหละ ว่างๆแล้วตามไปลองดูนะคะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem125943.html
6 พฤศจิกายน 2552 16:52 น. - comment id 1060920
สงสัยครับ คุณปติใช้ว่า ขี่เหรื้อน มีนัย หรือ ลูกเล่นอะไร หรือ ที่มาที่ไปอย่างไรครับ
6 พฤศจิกายน 2552 18:08 น. - comment id 1061005
แวะมาอ่านด้วยคนค่ะ
7 พฤศจิกายน 2552 23:30 น. - comment id 1061462
บ้านหนูเรียก "หมากะทิ"
8 พฤศจิกายน 2552 18:49 น. - comment id 1061807
คุณปติครับ ที่ถามไม่ต้องตอบนะครับ ผมแกล้งหาเรืองสงสัยคุยเล่นๆเท่านั้นแหละ อิอิ ~ มองมองหมาคี่เรื้อน รูปเฉลา หนังใส่กลับยับเยาว์ เยี่ยวขี้ ตามเมืองย่างเนืองเนา เนืองเน่า นึกว่าตัวเองนี้ หนึ่งน้องนวลสวย มาร่วมแจมโคลงครับ
9 พฤศจิกายน 2552 07:49 น. - comment id 1061992
ขี่เหรือ้น = ขี้เรื้อน เป็นภาษาถิ่นโคราชบ้านผมครับ เขาพูดกันยังงี้ มันเข้าโคลงได้พอดี ก็เลยเขียนเล่นๆครับ ตามประสาอารมณ์กลอน คุณพจน์ก็เขียนได้สนุกดีครับ อารมณ์สุนทรีย์ เป็นหมาขี่เหรื้อนอีกนัยหนึ่ง ทางเหนือเขาเรียกหมาขี่เหรื้อนยังไง ผมก็ลืม ใครอยู่ทางเหนือช่วยเฉลยหน่อยครับ
9 พฤศจิกายน 2552 08:07 น. - comment id 1061996
ขอบคุณ คุณกิตติกานต์ที่นำภาพมาลงให้ แสดงว่ารู้ภาษาโคราช ผมจะลองฝึกนำภาพมาลงครับ ซึ่งเป็นจุดอ่อนด้อยของผม ที่มาฝึกเล่นคอมตอนแก่ และก็ไม่ค่อยพัฒนาตัวเอง เอาแค่พิมพ์เป็น กดเป็นก็เลยชิน ความมีน้ำใจไมตรีเป็นกุศลจิต ที่เป็นของนาฟ้านางสวรรค์ครับ ผมรักคนบ้านกลอนครับ