. ๑.สนทนารัก..สนทนาธรรม เมื่อห้วงใจรับรู้รักประจักษ์จินต์ ก็รู้สิ้นคำนิยามว่าหวามไหว และรู้แม้แลระรัวห้องหัวใจ ซ่านทรวงในเอิบอาบก็ทราบดี รู้กระทั่งยามรักจางบนทางฝัน ตรมในวันน้ำตาใจรินไหลปรี่ ตรอมดวงใจไหวว่างหว่างฤดี จึงคิดที่ปิดกั้นลั่นดาลใจ เป็นแค่มิตรชิดใกล้ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องเก็บรอยแผลฝันแม้วันไหน ในคืนวันผันเดือนลอยเลื่อนไป เลิกระไวระวังตั้งตาคอย เอาใจแนบพระธรรมมานำจิต ให้ชีวิตสติปัญญามาทวนถ้อย อิ่มรสธรรมนำเพลินเดินตามรอย เพียรอย่าถอยทุกเวลาค้นหาธรรม ๒.วิจารณ์รัก วิจัยธรรม รักและธรรม ธรรมและรักประจักษ์จินต์ รักถวิลรสพระธรรมพร่ำท่องย้ำ ทุกแห่งหนบนทางระหว่างกรรม จุดเทียนธรรมหุ้มห่อรักถักห้วงใจ พอได้รู้ธรรมมีอยู่หลายระดับ ไว้สำหรับเลือกเดินย่างหนทางไหน เลือกระดับรับวัตรปฏิบัติใด เพื่อทางใจให้มีธรรมมานำครอง ระหว่างรักกับธรรมย้ำอีกครั้ง หากรักตั้งครองธรรมนิยามผอง ให้รักร่ายสายธรรมตามครรลอง รักมิหมองเพราะดวงใจใฝ่รสธรรม สตินั้นอาจมุ่งสร้างรุ้งรัก ปัญญาจักให้รู้ดูเลิศล้ำ สัมปชัญญะรู้ผิดอายได้กระทำ ใช่แต่พร่ำหลับตาบ่นอยู่คนเดียว ๓.รินรัก..ในธารธรรม เมื่อรักคือแหล่งเกิดกำเนิดโลก จึงก่อโศกสุขได้ไม่เฉลียว รักที่ถักทอสายกลายกลืนเกลียว จึงได้เที่ยวเห็นโลกงามตามที่เป็น รักไร้ธรรมนำทางต่างไม่รู้ ยามรักอยู่ดูเศร้าเหงาไม่เห็น เหมือนตาบอดคลำไอยราท่ารำเค็ญ กว่ารู้เช่นคงช้ำใจไม่เข้าที รักเมื่อมีหลักธรรมมานำจิต ให้รู้พิษโทษภัยในวิถี ถักทางทองรินถ้อยร้อยวจี เพื่อเป็นพลีแด่รักหวานในธารธรรม . .......
25 พฤษภาคม 2552 11:18 น. - comment id 989592
สาธุ....กลอนดีสอนใจนะคะ สอนให้รัก ให้เป็น ขอบเขตของความรัก แต่แหม...ยามรักเข้าตาน่ะ ยากนักที่จะ มานั่งนึกถึงธรรม นะคะ พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์....
25 พฤษภาคม 2552 11:47 น. - comment id 989601
หากรู้รับรสพระธรรมเสมอๆ ก็จะเป็นการไม่ประมาท รักเมื่อเข้ามาก็สามารถช่วยได้ ไม่มากก็น้อย แบบว่า รักให้เป็น เห็นทุกข์ได้ นะครับ ผมนั้น...รักก็รู้งูๆปลา ธรรม ก็ปึกหนา หารู้จริงไม่ ก็ถือว่าสนทนา กัน นะครับ คุณ Bitter ครับ
25 พฤษภาคม 2552 12:54 น. - comment id 989625
มาร่วมรับฟังบทสนทนาธรรมด้วยนะคะ...สาธุ๊
25 พฤษภาคม 2552 13:02 น. - comment id 989634
ด้วยความยินดี ครับ คุณโคลอน ครับ
25 พฤษภาคม 2552 13:14 น. - comment id 989643
รักงามในสายธาร...ม่านธรรมชาติ ผดุงวาดตามครรลองครองวิถี ศิลป์และศาสตร์ปราชญ์มีล้นพ้นฤดี หากรักนี้...คือความงามตามใจประโลม.. ...แบบว่า..แต่งได้งามทั้งธรรมศาสตร์และธรรมชาติจริง ๆ ครับ
25 พฤษภาคม 2552 14:09 น. - comment id 989667
ขอบคุณ คุณจอมปราชญ์ฯ ที่มาเยี่ยมเหมือนเช่นเคย พร้อมกล่าวปิยะวาจาเป็นกำลังใจให้เช่นเคย อีกเช่นกัน ครับ ขอบคุณ อีกครั้ง ครับ
25 พฤษภาคม 2552 14:44 น. - comment id 989675
มาแล้วค่ะ ภาสุรีย์จอมยุ่งมาแล้วค่ะ มาอ่านด้วยคนค่ะ อ่านแล้วสบายใจค่ะ
25 พฤษภาคม 2552 15:17 น. - comment id 989691
ไม่ยุ่งหรอกครับ แต่ติดจะซนนิดหน่อย เท่านั้นนั้นเองมั๊ง แต่ซน แล้วทำให้ พี่ๆมีชีวิต ชีวา ขึ้น ก็ดี นะ ครับ น้องภา
25 พฤษภาคม 2552 16:11 น. - comment id 989702
เข้ามายิ้มเฉยๆได้ป่าวค่ะ
25 พฤษภาคม 2552 16:45 น. - comment id 989717
มาฟังคำสนทนาด้วยคนค่ะ เก็บข้อคิดดีๆติดมือไปด้วยค่ะ
25 พฤษภาคม 2552 18:04 น. - comment id 989743
ได้เสมอเท่าที่ต้องการ ครับ คุณมณีจันทร์ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนกัน ครับ
25 พฤษภาคม 2552 18:06 น. - comment id 989744
เชิญ ครับ คุณเพียงพลิ้ว ครับ ขอบคุณ นะครับที่มาเยี่ยมเสมอๆมิได้ขาด ครับ
25 พฤษภาคม 2552 18:44 น. - comment id 989762
คุณลุงค่ะ นับถือ..จริงๆๆเก่งกันมากเลย พิมขอนั่งอ่าน..ก่อนนะคะ
25 พฤษภาคม 2552 20:32 น. - comment id 989842
ลบอันบนด้วยค่ะ เกษม..ปิติใจ ที่ได้รับน้ำคำน้ำค้างใจ มากมายเกินนึกนับ ให้.. ชื่นในนวลใจ แสนไสวว่างสว่างพราวค่ะ ผลงานงามต้องมาจากแรงรัก แรงใจไฟฝัน จากพลังอันเอื้อโอบโลกนี้ให้ *ยังเย็นละมุน* นาทีนี้ฝนพร่างสายราวเพชรร่วง หน่วงหนักมากค่ะ กำลังนั่งดูสายฝนหยาดพราว ผ่านบานกระจกพร่าง กับงามดวงใจใครเล่ารู้นี้ ที่ยากเอ่ยบอกใครไฉนเลยค่ะ ................................ ตามฉันมา! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song831.html บทเพลงบัวขาว ดวงใจ..ตามฉันมา.. ฉันจะพาเธอไปยัง ดินแดนแห่งความสุข... ไม่จำเป็นต้อง ใส่รองเท้าหรู คู่แพงๆ ไม่ต้องมีดีเคเอนวาย หรือเวอร์ซาเซ่ ไม่มีน้ำหอม น้ำปรุง.. ไม่ต้องหรูไม่ต้องเริด ไม่..ไม่..และไม่...วัตถุมากมี........ ขอแค่ให้มี....ใจดวงที่สวยใสสงบงาม ที่จะมุ่งมั่นไปยัง ดินแดนแห่งความฝันที่มีจริงบนโลกนี้ ที่ใกล้แสนใกล้ แต่เราทุกคนกลับมองข้ามไป.... ที่ที่มีร่มไม้ ทั้งสูง ทั้งต่ำ ที่แสนสวยแสนงาม เป็นดั่งร่มแวดล้อม คอยปกป้องกางกั้นเธอจากผองภัย มีดวงใจและน้ำใจมากมีจากกัลยาณมิตร ที่จะนำทางให้เธอ หลบพักพิงใจใจ.. ไม่นานนัก..เธอจะมีใจดวงดีที่เป็นกลางๆ ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องเซซัง ไม่ต้องพบกับคำว่า ความผิดหวังซ้ำๆซากๆ จนใจโศกตรม ไม่ต้อง ครวญคร่ำกับคำว่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะมาผิดทาง เคว้งคว้างเดียวดาย..... แต่... มีข้อแม้ถ้า.. เธอ..นั้นยังแกะเปลือกไม่ออก ยังชอบการหมุนวนแห่งรอยกรรม บางทีเธอนั้นอาจจะยัง ไม่พร้อม.. จนกว่าเธอ จะค้นหาเส้นทางชีวิตของเธอเอง... แต่รู้ไหม!..บางที่มันเสียเวลา กว่าเธอจะค้นหาเจอด้วยตัวเอง และ.. บางทีก็อาจจะหมดเวลาและสายเกิน ก่อนที่จะพบว่าแท้ที่จริงนั้น ที่คนเราทุกข์หนักกับทุกสิ่งนั้น เพราะ เราแบกมันไว้ ในทุกความอยากมากมี ที่มีเสน่หาเย้ายวนกวนให้ใจเราลุ่มหลง และยึดติด ไม่ว่าวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตนี้ที่เราเรียกว่าคน ความอยากมากมี ที่ อยากจะเป็น อยากจะได้ตามๆกัน อย่างที่สังคมบ้าวัตถุ.. สังคมทุนนิยมสร้างขึ้นมา เพื่อล่อหลอก ให้เรานี้ต้องตกเป็นเหยื่อเพื่อความรวย ของคนไม่กี่กลุ่ม. .และเราต้องชุลมุนหัวหมุนวุ่นวาย บ้ากันผ่อน.. ผ่อนนั่น ผ่อนนี่ ผ่อนหนี้ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าจะแก่ตาย... เราลองปลดปล่อย..ของหนักลงจากบ่า ของที่เรายึดติดกันมากมาย ทั้งทางกายทางใจ และบางที... มันหนักเสียจนรวดร้าวเข้าไปถึงดวงใจจนเกินทานทน จนไม่อยากแม้จะมีชีวิตอยู่... เขียนเรื่องนี้.. เพราะคลิกเข้าไปอ่านกระทู้อกหัก พลัดพรากจากรัก ที่ไม่สมหวัง ที่ซ้ำๆช้ำๆตรมๆตรอมๆ บางคนเสียเวลารักษาเยียวยานานปี จนกว่าจะรู้ว่าที่แท้นั้นคนที่เราบ้าคลั่งรักปานจะกลืนกินนั้น เค้ากำลังกลืนกินคนอื่นแทนเรา.. เราเสียเวลา เพราะไม่มีบทเรียนกำกับใจ ไม่มีเกราะกำบังใจ ให้คิดเป็น ตัดใจเป็นให้รักตัวเอง และแม่พ่อเป็น กลายเป็นคนอ่อนแอ..และนับวันจะแย่ไม่มีดี ไม่มีได้อะไร...ที่จะสร้างสรรชีวิตเราขึ้นมาเลย.... ดวงใจ...ตามฉันมาซี.. มานั่งตรงนี้ ที่นี่ มีพันธุ์พงพฤกษ์ไพร มีดวงดอกไม้รายเรียง มีดวงใจของคนดีๆที่ จะรอประโลมใจเธอให้หายบอบช้ำ... แสงตะวันรำไร ๆ ธรรมชาติสดใส เขียวชื่นตา และมวลพลังงานแห่งความหวัง จะกระจายโอบรอบตัวเธอ ให้หลุดพ้น ราวกับมีปุยเมฆสวยสีขาวบางเบา มาปัดเป่าเห่กล่อม ให้เธอนิทรากับทิวาราตรี อย่างผู้รู้ค่าแห่งใจตน.. ธรรมะ..ธรรมชาติๆ ธรรมดาๆ ที่เธอไม่ต้องลงทุนซื้อหา แต่จะได้มาเพียงเธอเปิดใจรับมัน... แทนขยะมากมี ที่กำลังมอมเมาใจเธอ ให้รกรุงรัง เน่าเหม็น... ดวงใจ..ที่นี่จะมีพระสงฆ์มากมาย จะไม่ทำให้เธอหลงทางเสียขวัญ.. ยังมีห้องสมุดทางจิตวิญญาณ ที่เป็นหนังสือ.. ธรรมมะมากมี ที่จะเป็นคำสอนให้เธอค่อยๆเข้าใจ โลกและชีวิต.. ในไม่ช้า ใจดวงมืดบอดของเธอ จะเจิดจ้า สว่างดังดวงตะวันแสนงาม และจะมิมีวันมืดดับ ไม่ว่าจะพานพบพายุร้ายใดๆ มากรายกล้ำ กระทบ... ดวงใจ.. พร้อมหรือยัง ตามฉันมาสิ... ฉันนี้กำลังเพียรพยายามที่ จะเกิดมาให้สมกับคำว่ามนุษษ์ มิใช่แค่คำว่า คน ที่กวนปนอยู่แต่กับความวุ่นวายสับสน ของกิเลสตัณหา ที่โหมกระหน่ำหนัก มาทุกทิศ ทุกทาง จนโลกบ้าๆใบนี้กำลังบิดเบี้ยว จนจะขาดเกลียวจากกัน อยู่มิช้ามินานแล้ว... ดวงใจ..ตามฉันมานะ... ถ้าเธอ มีแค่ใจดวงดีอยากลอง อยากลงทุน เพาะบ่มธรรมชาติงาม ให้รู้ซึ้งค่า แห่งความหมดจดงดงาม กับความเป็นไปของโลกและชีวิต... ที่จะไม่ต้องหมุนวน ทุรนทุรายไม่รู้จบรู้สิ้น... ค่อยๆขยับตัวเธอนะ.. ค่อยๆแกะเปลือกออกมา พาดวงใจและความคิด ออกมาค้นหาแก่นแท้ของชีวิต แล้ว เธอจะรู้ว่าแท้จริงไซร้ สิ่งที่เราทุกคนต้องการนั้น... มันไม่จำเป็นต้องหรูหราราคาแพง ฟุ่มเฟือย มันมิใช่รถเก๋งแพงแพง ใช่การแต่งตัวแข่งกัน ใช่การปั้นหน้าจ้ะจ๋า แต่ใจนั้นแสนเหน็ดเหนื่อย และเดียวดาย กับความไม่พอใจ..ไม่สงบสุข... ดวงใจ..ตามฉันมานะ ฉันเองอยากจะพาเธอ ให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวน แห่งความตรอมตรม การหมุนวน ในรักที่เป็นทุกข์ สาหัสสากรรจ์... จนยากทำใจไหว... ตามฉันมาซี..คนดี.. ทุกวันอาทิตย์ เธอจะได้พบกับธรรมชาติที่แสนสวย และ ธรรมมะที่แสนยิ่งใหญ่ และสองสิ่งนี้ จะค่อยๆยึดพื้นที่แห่งความหมองไหม้ ภายในใจของเธอที่หาทางออกไม่พบเจอ.. ทุกสิ่งนั้น.. สำคัญที่ใจของเธอ.. ความคิดของเธอ ที่จะลิขิตชีวิตเธอเองใช่ใคร! ตัดสินใจมาเลยจะดีกว่า!นะ.. ฉันจะรอจะคอยเสมอ..อยู่ตรงนี้. เพื่อเดินไปด้วยกัน ในเส้นทางแห่งความสุขสีขาว..นิรันดร....! ชีวิตจริงพุดพัดชาค่ะ ที่พยายามรักษาจิต ให้งามนิ่งสนิท สะอาดสว่างสงบ แม้... ได้บ้างมิได้บ้าง อย่างผู้พึงรู้ตน มิพึงต้องอวดอ้างกับใคร แม้ จะยากยิ่งนัก แต่ก็เพียรมาหลายปีแล้วและ จะเพียรต่อไปค่ะ..ด้วยรัก.. .............................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song831.html เห็นบัวขาว พราวอยู่ ในบึงใหญ่ ดอกใบ บุปผชาติ สะอาดตา น้ำใส ไหลกระเซ็น เห็นตัวปลา ว่ายวน ไปมา น่าเอ็นดู หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ...
25 พฤษภาคม 2552 20:33 น. - comment id 989843
สายธารแห่งธรรมฉ่ำเย็น รักเองก็เรื่อยเรียบไม่ร้อนแรง อิอิ แบบว่าเข้ามาอ่านแล้วก็เห็นจริงค่ะ
26 พฤษภาคม 2552 01:41 น. - comment id 989926
สวัสดี หนู พิม ยินดีต้อนรับ วันนี้ไปเยี่ยมบ้านที่โอเค ที่ทิ้งร้างมานาน นับเดือน ดีใจนะที่พบหนูพิมที่นั่น ครับ ราตรีสวัสดิ นะครับ
26 พฤษภาคม 2552 02:02 น. - comment id 989927
คุณ พุด ครับ ถ้อยสนทนา นั้นคุณคงผ่านตามาแล้ว นะ ครับ เพราะเป็นการนำถ้อยสนทนากับ แม่เทพีไพรในเรือนรัก เรือนธรรม เป็นการสนทนาที่บ างครั้งเกิดขึ้นในห้วงภวังค์ใกล้เคลิ้มฝัน ดังเช่นยามนี้ก็ตาม หากเพียงแต่ได้นำเอาถ้อยสนทนาเมื่อยามนั้น มาตบแต่งขัดเกลาให้เป็นเรื่อง เป็นราวและ เรียงร้อยให้เป็นลำดับลำดา มากยิ่งขึ้น ถ้อยสนทนานั้น ไคร่สื่อส่งไปยัง เทพีไพร ทิพย์นารีแห่งป่าไม้ สายน้ำและท้องทุ่งเรียวรวง ด้วยความรักในบทกวี กาพย์กลอน อันเป็นแก่นแกนของสื่อสายใยงามที่จะร่วมรับทราบในความงามงดร่วมกัน งานที่เขียนออกมาแม้ไม่งามพอพร้อม แต่ก็เกิดจากรัก และจากการดูแลของผู้เขียนอย่างสุดกำลังความคิดที่จะประดิดประดอยร้อยคำออกมาได้ จึงได้งามแล้วอยู่ในใจคนกุลาผู้เขียนอยู่เนืองนิจย์ คุณ พุด ครับฝากน้ำใจอันสุดประมาณ ไปยังนารี เทพีไพร และใบนวล ที่ได้เป็นต้นธาร ความคิด และใคร่ครวญ ให้แก่งานหลายๆชิ้น จากใจของคนกุลาในห้วงเวลานี้และที่ผ่านมา จะพยายามปอกเปลือกตัวตนหากทำได้ เพื่อเข้าถึงธรรมชาติ แห่งเธอให้มากขึ้นและมากขึ้น จนกระทั่งได้หล่อหลอมอ้อมใจเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติแห่งเพรพนา ป่าไม้ สายน้ำ และท่องทุ่งเรียวรวง เสมอด้วยการเข้าถึงและบูชาบรมธรรมอย่างเป็นนิจนิรันดร์ ครับ ด้วยความผูกพัน
26 พฤษภาคม 2552 02:06 น. - comment id 989929
โอ้ โห เข้าถึง ความลึกซึ้งรักที่ฉ่ำเย็นด้วยถ้อยธรรม ถ้อยรัก มากกว่าผู้เขียนเสียอีก นะ ครับ คุณ แจ้นเอง
26 พฤษภาคม 2552 06:48 น. - comment id 989947
แว่วนกไพรขับขานร่ำธารรัก ว่าฉ่ำนักกว่าธารอื่นในผืนหล้า แว่วนกไพรขับขานหวานวาจา ยังตรึงตรามิกล้าเอ่ย..เผยคำ หันหลังกลับคืนคอนถิ่นกก่อนเก่า ดูหรือเราช่างปล่อยใจใฝ่ถลำ สำเนียงนกไพรแสร้งช่างแกล้งทำ เก็บระกำบินลา....สิ้นอาลัย แวะมาอ่านธารแห่งรักค่ะ
26 พฤษภาคม 2552 12:09 น. - comment id 990077
เมื่อนกไพรใจพะวงจึงส่งเสียง เจิดเจรียงคำแก้วแนวบุปผา ริมลำธารผ่านไหลในเวลา จินตนาจากนกไพรบินว่ายดง ท้องฟ้ากว้างทางเปลี่ยวเที่ยวร้องกู่ ไม่รู้คู่อยู่ไหนใจเริงหลง บินข้ามน้ำข้ามฟ้ากล้าทนง อยากร่อนลงเหยียบคอนก่อนสิ้นแรง ห้วงฟ้าหนไหนผ่านไปทั่ว ใจระรัวหวาดไหวในสีแสง ในฟ้าฝันตะวันกล้าฝ่าลมแรง ด้วยใจแกร่งปีกกล้า ข้านกไพร แต่วันหนึ่งก็ต้องร่อนสู่คอนกก วิสัยนกตำนานป่ามาแต่ไหน ปีกอาจกล้าท้าฝนลมบนไกล แต่หัวใจในบางคราก็ล้าเกิน บินมาจากฟากทะเลลมเห่กล่อม จากนาพ้อมข้าวแพงแดดแดงเผิน ยามเดือนห้าหน้าลมชมว่าวเพลิน ฤๅไกลเกินบินลับกลับคืนคอน แต่ไม่ลืมถิ่นกำเนิดกายเกิดก่อ ที่ริมบ่อปลายบางข้างฟ้าฝัน ที่ชายคลองหนองเรียงคู่เคียงกัน ยังคงฝันว่าวันไหนได้กลับคืน . ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือน ครับ คุณทิพย์โนราห์ และขอบคุณ ที่บางเสียงที่ส่ง หากกระตุ้นให้ เจ้านกไพรใคร่คืนคอน ครับ
26 พฤษภาคม 2552 18:06 น. - comment id 990235
:) ทำให้ต้องกำหนดสติอ่านกันเลยทีเดียว..คำต่อคำเลย...
26 พฤษภาคม 2552 20:07 น. - comment id 990300
รู้สึกยินดีมากที่คุณ กุ้งมาเยี่ยมเยียน ครับ จำได้ว่าตอนเข้ามาใหม่ เห็นคุณกุ้งเคยเขียน ไว้ว่า อย่าหวังว่าจะต้องไปเยี่ยม อะไรประมาณนั้น ยิ่งเห็นคำเขียนที่แปะ ไว้ก็ยิ่ง อิ่มใจ มาก ครับ ทำให้รู้สึกว่าที่มีคนเห็นการใช้สติในการเขียนและการใช้สติตรอง ก่อนจะนำมาลงอีกต่างหาก ครับ ขอบคุณนะครับ คุณ กุ้ง