หากมองจากมุมหนึ่งบนถนน อาจจะเห็นคนในมุมเก่าเก่า ที่มีทั้งสุขทุกข์,,,ไร้บรรเทา ที่คอยเฝ้าบรรจงปาดหยาดน้ำตา ณ มุมหนึ่งที่ตรงนี้ คนกวีมีความสุขตามประสา ไม่มีแสงสีงดงาม...อร่ามตา มีแต่ปัญญากับถ้วยกาแฟ ชีวืตฉันอาจไม่เพอร์เฟค เพราะเป็นอณูเล็กเล็กที่ย่ำแย่ ถูกคนรักทิ้งขว้างร้าง...ไม่เแล แต่ก็ไม่แพ้ในทุกนาที ณ ริมชายคาเก่าเก่า ลมบางเบายังอวลในทุกที่ มีนกไพรขับขาน...สานวลี เป็นถ้อย....ร้อยวจีให้ชื่นชม ท่ามกลางเสียงนกร้อง พฤกไพรแซ่ซ้อง...ร้องผสม มีตะวันอุ่นเบา...เคล้ากับลม คอยพร่างพรม...อยู่รอบกาย ณ ตรงนี้ที่...เก่าเก่า ยังร้างเหล่ามิตรสหาย เมื่อไหร่หนอ...ดาวจะพราวพราย หมู่มิตรสหาย...จะหวนคืน ก็แค่คนเหงาเหงา...กับกวีบทเก่าเก่า ที่มีทั้งเศร้า...และขมขื่น ร่ายน้ำตาทุกครั้งครา...ในค่ำคืน เพียงยั้งกายยืน...ยังลำบากใจ ผู้คนมากมายออกค้นหา ป่ายปีนไขว่คว้าสิ่งที่....ฝันและใฝ่ จะยื้อแย่งกันไปฉันท์ใด ในเมื่อหนทางไกล...คือความตาย ถึงจะเป็นบทกวีโนเนม ไม่มีใครคอมเม้นท์...เพราะเบื่อหน่าย แต่จิตวิญาญ...หัวใจ...และมวลกาย ไม่เคยตายไปจากจิตสำนึก ฉันเขียนบทกวีออกประจาน เพียงเพื่อขับขาน...ความรู้สึก ไม่มีเล่ห์กลลวงที่ล้ำลึก มีแความรู้สึกของหัวใจ...ที่รักในบทกวี ทิพย์โนราห์ พันดาว
27 มีนาคม 2552 09:10 น. - comment id 967472
ความเข้มแข็งเกิดขึ้นได้ภายในหัวใจของเราเองค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
27 มีนาคม 2552 13:33 น. - comment id 967544
หวัดดีจร้า....คุณทิพย์... ตอนแรก...ผมก็เขียน...แล้วก็อ่านคนเดียว... ไม่เคยคิดว่า...จะนำออกมาสู่...สาธารณะ... ที่เขียนก็เพราะ...ชอบเขียน... ชอบเขียน...ก็คงเพราะ..... - อยากบอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เราคิดประมวลความไว้... - หลงไหลในภาษาที่มันเหมือนลำนำแห่งบทเพลง...ตามแต่จินตนาการ...ของเรา... กวี...คือ... 1. ผู้ที่มีความชำนาญในศาสตร์แห่งภาษา 2. ผู้ที่มีความรักในศาสตร์แห่งภาษา โดยเนื้อแท้ แห่ง...ผู้ที่มีใจเป็น"กวี" มีอยู่ 4 ลักษณะ...คือ... 1. การเขียนตามความคิด... 2. การเขียนตามคำบอกเล่า...หรือสารที่เราได้รับมา... 3. การเขียนตาม สัจจะแห่งโลก... และสุดท้าย...คือ.. 4. การเขียนโดยใช้ไหวพริบ... ตามที่ผมแจง...ความกล่าวไว้...คุณก็มี...ผมก็มี...เพื่อนในบ้านกลอนก็มี...เราเหมือนและคล้ายกันหลายคน... ครั้งแรกที่สมัครสมาชิกบ้านกลอน...(ผมได้รับแรงบัลดาลใจจากใครบ้างคน...) ผมประสงค์ให้ บทกลอนของผม ขยายความ บ้างอย่าง ออกสู่สาธารณะ...ซึ่งเหมือนว่าจะไม่ได้ผล...สักเท่าไร... ต่อมา...ผมก็ได้ตระหนักว่า...สำหรับบทกลอน...ในบ้านกลอนนี้...คุณค่า...มันน้อยกว่า...คำว่า"เพื่อน" ซึ่งก็มีคนคิดอย่างเดียวกันนี้...อยู่มาก อย่างเช่น คุณอินสวน...ก็เคยเขียนเรื่องนี้ไว้... ทุกครั้งที่ได้เข้ามา...อ่านกลอน...ผมจะอ่านและตีความว่า...เป็นการเขียนแบบใด...และจะเขียนตอบไว้ในกลอนของเพื่อนคนนั้น...นั้นเป็นการเขียนแบบด้นสด...แต่บางครั้ง...ก็กลับไปเขียนเป็นการบ้าน...คลายเหงา...ไปวันๆ... ยอมรับคับว่า...ชีวิต...มันซ้ำซาก จำเจ...น่าเบื่อบ้าง...นานๆที...ถึงจะได้พบกับความสุขสักครั้ง... ก็มีแต่การเขียนนี้แหละคับที่...พอจะปรับระดับ...สมดุล...ของใจเรา...ไม่ให้เทไปทาง"เฉา" จนมากเกินไป... บางที...ก็เหมือนกับว่าเรา...หมดไฟ...ไม่รู้จะเขียนอะไรเหมือนกันคับ... แต่สุดท้าย...ก็กลับมาเขียนอีกจนได้... ผมเพียงอยากจะบอกว่า...ผมและก็ใครอีกหลายๆคน..ก็เป็นแบบเดียวกันกับ...คุณทิพย์...เหมือนกัน..นะคับ... เพราะฉนั้น..."เรา" จงมีความสุขกับการเขียน...เถอะคับ...