ใกล้สิ้นแล้วน้ำตาแห่งฟ้าฝน กราบเบื้องบนเทวานางฟ้าสวรรค์ ใช่เพราะท่านทรงพิโรธลงโทษทัณฑ์ เสกวสันต์มหันตภัยอันร้ายแรง เพียงเพราะเศษดินคนบนโลกา กิเลสหนายิ้มเยาะเสาะแสวง เด็ดดอกดินสิ้นป่าชัฏลมพัดแรง โทษฟ้าแกล้งต้องคำสาปตราบทุกวัน ใกล้สิ้นแล้วน้ำตาแห่งฟ้าฝน ประชาชนบนบานศาลสวรรค์ เซ่นข้าวตอกดอกไม้ให้เทวัญ เสกวสันต์อีกสักคราช่วยข้าที ด้วยเศษดินหน้าแล้งยังแห้งผาก ความทุกข์ยากพรากชีวิตผิดวิถี เตรียมดอกดินแหงนบอกฟ้าจงปรานี ล้างธุลีเพื่อต้นกล้า...ประชาชน นาคะพรรณ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๑ photo by: อาคม นาคะ
3 ตุลาคม 2551 16:15 น. - comment id 901722
.........เก่งเน้อ............
3 ตุลาคม 2551 15:50 น. - comment id 902045
สุดยอดครับ แวะมาอ่านกลอน
3 ตุลาคม 2551 18:56 น. - comment id 902109
3 ตุลาคม 2551 20:09 น. - comment id 902138
สวัสดีครับ.... หากช่วยกันจริงจังคงยังไม่สายกระมังเนาะ
3 ตุลาคม 2551 20:11 น. - comment id 902139
ฟ้าพิโรธลงโทษโกรธมนุษย์ เพราะไม่หยุดผุดสร้างแต่เสียหาย จ้องจะล้างถางกันให้วุ่นวาย มุ่งทำลายหายนะมิละเลย
3 ตุลาคม 2551 22:10 น. - comment id 902186
คงไม่สายละมัง...ถ้าคิดที่จะเริ่มต้นใหม่ในสิ่งที่ดี ๆ
3 ตุลาคม 2551 23:04 น. - comment id 902206
ฟ้า...จะไม่โกรธพิโรธร้อง ฟ้า...ไม่หมองหม่นมัวและโศกเศร้า ฟ้า...จะปรานี ซึ่งมนุษย์คือเรา ฟ้า...จะไม่เฝ้าทำลายให้หายนะ หากมนุษย์หยุดสร้างทางแห่งความเสื่อม จิตใจเปี่ยมเมตตาตามจังหวะ แห่งธรรมชาติที่เป็นไปและลดละ ไม่จ้องจะล้างล้มให้จมดิน
4 ตุลาคม 2551 05:03 น. - comment id 902227
อ่านบทกลอนของคุณทีไรซึ้งจริงๆช่างเข้าถึงอารมณ์กลอนและตัวผู้เขียน เขียนด้วยความร รู้สึกจริงๆหายากค่ะบทกลอนแบบนี้ชอบค่ะไพเราะจัง
4 ตุลาคม 2551 06:51 น. - comment id 902239
ขอบคุณค่า ดินหรือโลกคือที่อาศัย เขาไม่รักษ์ดิน ป่า น้ำ ภัยพิบัติ ย่อมเกิดขึ้น แน่นอน
5 ตุลาคม 2551 14:19 น. - comment id 902537
เยี่ยมครับ.. กลอนงดงามเหลือเกิน..