ในโลกฝันสรรสร้างทุกอย่างสิ่ง ซึ่งโลกจริงหาไม่ได้ดังใจหมาย สร้างวิมานจากฝันพรรณราย เราแพ้พ่ายมากพอแล้วหนอเรา กับความจริงทุกสิ่งเห็นที่เป็นอยู่ เราต่อสู้อย่างคนหม่นหมองเศร้า มีความหลังตราประทับเหมือนกับเงา แต่ยังเฝ้าสร้างฝันทุกวันมา ในความฝันเรามี เขา ที่รัก คอยถามทัก อาวรณ์ อ้อนห่วงหา มีใจซื่อถือมั่นคำสัญญา เทินทูนค่าของชีวิตนิจนิรันดร์ เราจะใช้ชีวิตนี้อย่างมีหวัง ถ้าไม่พลั้ง ผิดพลาด จนหวาดหวั่น ได้แต่เฝ้าปลอบตัวไปชั่ววัน สุขกับฝันเท่านี้ดีเกินพอ สงสารใจไยคว้างกลางความฝัน จะมีวันสุขใจบ้างไหมหนอ กระซิบถามใจตนอย่างคนท้อ คงต้องรอ...รออย่างนี้...นิรันดร
4 มิถุนายน 2551 09:29 น. - comment id 857103
บทกวี คงเป็นรากเหง้าหนึ่งของวิถีไทยมานานนักแล้ว แน่นอนเรามิใช่คนรุ่นแรกที่ชื่นชอบชื่นใจกับบทกวี ผมก็มีคนคุ้นเคยที่เป็นคนรุ่นก่อนหน้าที่รู้สึกกับวิธีการจารถ้อยรสแบบนี้เช่นกัน บทกวีที่มาจากบันทึกเล่มแดงเหล่านี้ คนจารถ้อยคำบอกว่า เขียนต่างกรรมต่างวาระกัน บางอันจารคำเองบ้าง บางอันก็เป็นของมิตรสหายบ้าง ข้อความบางบทบางอันลงวันเวลาที่เขียนไว้บ้างเช่นปี พ.ศ. ๒๕๐๕ หรือ ๒๕๑๕ รวมความแล้วผมจึงคิดว่า คงเป็นถ้อยอารมณ์ และวิธีแสดงนัยที่น่าสนใจ ผมมิรู้ว่าถ้อยคำเหล่านี้สำหรับบางใครจะคิดเช่นไร แต่สำหรับผมน่าสิเน่หานัก หยิบมาแบ่งปัน สวัสดีครับ
4 มิถุนายน 2551 14:17 น. - comment id 857187
รอ - ฝัน.. รอฝันเห็นเลขเด็ดงวดนี้อยู่ค่ะ:: รออ่านบันทึกเล่มเขียวอยู่นะคะ
5 มิถุนายน 2551 13:59 น. - comment id 857517
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึก หรือเราจะเรียกว่า การเก็บกักความสุขไว้เติมเต็มหัวใจในยามฝัน ก็คงจะไม่ผิดนักแต่ความฝันมักจะไม่ยืนยาว
.....และเปลี่ยนไปทุกวัน