ทุ่งรกร้างฟางลอยสุดสร้อยเศร้า หนาวกว่าหนาวยาวนานสะท้านไหว ฟังเสียงนกรวดร้าวราวปวดใจ แสนอาลัยกลีบจานที่รานโรย ขนข้าวเปลือกขึ้นลานแต่วานซืน ลมครางครืนหนาวลมมาห่มโหย แล้งลาแล้งสะแบงหลวงใบร่วงโปรย เพลงสงฟางแว่วโบยโชยอัตคัด จากไปแล้วข่าวบอกดอกไม้ร่วง สุดเหนี่ยวหน่วงยากแค้นแสนสาหัส มนตร์สัมพันธ์ร้างรอยทยอยพลัด ควายกำดัดโง่ขวิดลมอยู่ซมเซา ลืมกิ่งจานจานเจือเมื่อครองคู่ ประดับทุ่งแต่งฤดูอยู่หงอยเหงา ทิ้งใบเดี่ยวเดียวดายไร้ร่มเงา เหมือนเร็งเร้าความหมายให้ตายสิ้น คิดถึงพุ่มไมตรีกลีบสีแสด พยับแดดโพยมแดนแสนถวิล อุษาโยคโลกเคยฉ่ำน้ำค้างริน ร่วงสายสิ้นอับจนย่ำสนธยา แดงดอกจานชวาลากลางนาน้อย ระยิบระยับหยดย้อยลอยเวหา ทองเนื้อสิบต้นทองของเนื้อนา จะถูกเด็ดกลีบพร่าร่วงลาไป สักกี่เดือนเลื่อนลางจึงสร่างโศก วิปโยคบ่สร่างซาจะหาไหน แดงดอกจานบ่เคยสร่างจากทางใจ บ่สร่างไข้ยามขาดช่อลอองาม ริ้วลมหนาวบอกข่าวหนาวจะล่วง แสนเป็นห่วงคนไกลอยากไต่ถาม ฤาลืมสิ้นคิมหันต์สัญญายาม ฝันฟันฝ่าฝากหนามตามรอยเท้า สาวดอกเสี้ยวลมแล้งเตรียมแต่งต้น แต่ดอกจานอับจนปนเหน็บหนาว ไปบานเบ่งโทรมสภาพเปื้อนคราบคาว กลางค่ำยาวดอกทองท่องราตรี ทุ่งรกร้าวดงแดนแสนเศร้าสร้อย คอยแล้วคอย..คอยรักคอยศักดิ์ศรี เห็นดอกจานโรยระบมตรมสิ้นดี ค่ำแต่นี้บ่มีเช้า....เจ้าดอกจาน! --------------------------------------- เมื่อลมหนาวผ่อนลาฟ้า ลมแล้งก็หอบไอร้อนมาห่มไว้เหนือท้องทุ่ง ทุ่งท้องนายามนี้กว้างนักกว้างหนา ดอกไม้เริ่มบานสะพรั่งรับคิมหันต์ คิดถึงดอกลมแล้ง ดอกเสี้ยว ดอกจาน และทุ่งดอกงิ้ว ดอกไม้ประจำถิ่นที่บานอยู่อย่างสามัญ แสนธรรมดาในสายตาคนเมือง แต่สวยงามในแบบฉบับของอีสานและพายับ คิดถึงดอกจานริมถนนสายฝัน ณ อุทยานแห่งชาติขุนแจ คิดถึงถนนสายดอกงิ้ว ณ ดอยเชียงดาวที่เคยไปฝากฝันไว้ ข้าพเจ้าเปิดศักราชด้วยการไปเยือนดอยลังกาหลวง และดอยเชียงดาว ดอยงามที่มีทิวเขาสลับซับซ้อน ป่าสน และทุ่งหญ้าสะวันนา ณ วันนั้นถึงวันนี้ ความประทับใจก็ไม่เคยลบเลือน และสุดคิดถึงดอยผ้าห่มปก ดอยสูงอันดับสองของไทย คิดถึงทุ่งดอกหงอนนาค ลานสน ณ อช.ภูสอยดาว ลมหนาวเริ่มลา ลมร้อนเริ่มแล้ว หากลองมีเวลา หาโอกาสสักครั้งในชีวิตพเนจรไปตามถนนสายชนบท แล้วเราจะพบว่า ดอกจาน กำลังบานเบ่งอวดสีแดงแสดสะพรั่ง ต้อนรับการมาเยือนของนักแสวงหาทุกผู้ทุกนาม ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
14 มีนาคม 2551 17:48 น. - comment id 831881
ดอกคูนบาน ดอกจานคลี่ ชีวิตคนจนเพิ่งต้น เอาชีวิตไปแลกเศษในเมืองหลวง ***********************
14 มีนาคม 2551 18:55 น. - comment id 831892
เจ็บดอกจานบานร่วงคนห่วงหาย สัญญาปลายฟ้าไห้หวนในอก กี่วันคืนฝืนนอนสะท้อนสะทก ไม่อยากยกมารานเหมือนจานโรย ..
14 มีนาคม 2551 20:47 น. - comment id 831916
เป็นมนต์เสน่หาที่น่าไปสัมผัสยิ่งนักเลยค่ะ ยินดีที่ได้มาเห็นผลงานของคุณอีกครั้ง หายไปนานมากเลยนะค่ะ หวังว่าคุณคงสบายดี
14 มีนาคม 2551 20:49 น. - comment id 831917
คารวะอาจารย์กลอน อ่านเมื่อไหร่ประทับใจไม่ผิดหวัง อยากมีชิ้นงานคุณภาพบ่อยๆแม้คอยนานแต่ก็คุ้มเวลาคอยครับ
14 มีนาคม 2551 20:56 น. - comment id 831920
14 มีนาคม 2551 21:51 น. - comment id 831941
ดอกจานบานแล้วโรยราคราคิมหันต์ ยามสายันต์สาดส่องต้องเวหา สีแสดแดงแข่งแสงสุริยา ท้องทุ่งนาเวิ้งว้างร้างคนงาม เพลินหลงกรุงจรูงกลิ่นสิ้นศักดิ์ศรี อาบแสงสีศิวิไลซ์ใครเขาหยาม ทิ้งท้องทุ่งมุ่งสวรรค์อันแสนงาม เหลือเพียงความทรงจำย้ำเตือนใจ จากดงดอนดั่งก้อนดินบินสู่ดาว แลกความสาวเคยหวงดวงใจไหว ลืมดอกจานตระการบานพิไล ไปหลงใหลดอกกระดาษอนาถนาง....... ชื่นชมในผลงานมากๆ แวะมาทักทายครับ....
14 มีนาคม 2551 23:25 น. - comment id 831977
เพราะจัง...ขอไปประกอบลำนำในรายการได้ไหมครับ...ที่ รายการ"ลำนำเพลงรัก" เป็นอีกสนามกลอนหนึ่งนะครับ เชิญรัฟังได้ที่ www.sakaeofm89.com ทุกคืนวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 21.00 - 23.00 น.ครับ
14 มีนาคม 2551 23:34 น. - comment id 831983
ตะแบกหวาน..บาน..สอนใจ..! หอมบุญ.... กำลังยืนใต้ร่มเงาตะแบกริมทาง ที่ดวงดอกม่วงละมุน...พราวสล้าง.. กำลังแย้มกลีบบางเบาอย่างแสนอ่อนไหวอ่อนหวาน ล้อสายลม มิแล้งราน ไปตาม..คิมหันตฤดู เธอแหงนเงยเชยชมด้วยนัยน์ตาที่ยิ้มได้ พร้อม..กับได้ยินเสียงจากภายใน จากหัวใจดวงนิดดวงน้อยดวงนวล คอยกระซิบพร่ำย้ำสอนเตือนจิตตัวเองแลโลก.. ให้รู้ทันเท่า... เฝ้ามองเห็นสัจจธรรมจากธรรมชาติ ในทุกความสวยงามแห่งมากมวลดวงดอกไม้สยายกลีบ ประดับหล้า... ดั่งคลับคล้ายว่าแฝงฝังความทุกข์ประดังมากมายมากมี พอกับดวงฤดีแห่งอิสตรีที่ดูแสนงาม ที่ใช่จัก..งามเพียงภายนอกหลอกตา หาก..หาญกล้า เพียรแบกรับภาระกิจ แห่ง... *ความเป็นเมียเป็นแม่ของโลก* ผู้ไม่ยอมแพ้โชคชะตา เฝ้าฟันฝ่าโศกสุข..ทุกข์ระทมชีวิต แม้น..บ้าง..จะถูกลิขิตจากเพรงพรหมชะตา ให้รับ*วิบากรัก*..แบกสิ่งอันแสนหนักหนา หากทว่า.. นั่นคือสิ่งที่มิอาจหลีกลี้หนีพ้นพันธนา จากสัญญาเดิม ฤา...!..จักหามาเพิ่ม เติมต่อขึ้นมาใหม่ ในโลกลมหายใจแห่งความเป็นปัจจุบันกาลกรรม กามกรรม กิเลสกรรม* และ นาทีนี้..ในท่ามสายลมรำเพย ฟ้าที่ยังเผยเย็น..ฉ่ำชื้น ด้วยหยาดละออละอองฝนพรายพรม ห่ม..พสุธาไทพสุธาทอง ให้ยังผ่องพิสุทธิ์ จาก... ยอด*ภูมิพลังแห่งแผ่นดิน* แล.. ในทุกถิ่นที่ ใต้หล้าฟ้าไทย ให้ดวงดอกไม้ศรีไทย ศรีชาติ ได้บานไสวไม่มีวันหยุดตระการ และ.. ดั่ง... ตะแบกม่วง.. ที่กำลังบานฟ้อนอวดพวงดวงดอกดกอรชร ในยามนี้... ที่กำลังบานไสว ประดับใจ ประดับโลกแล้งอย่างแสนงดงาม.....!!!!!! ............... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4721.html ข้าวคอยเคียว ได้ยินไหมพี่ เสียงนี้ คือสาวบ้านนา พร่ำเพรียกเรียกหา ตั้งตานับเวลารอคอย คอยเช้า คอยเย็น ไม่เห็นสักหน่อย ปีเคลื่อนเดือนคล้อย รักเอ๋ยจะลอยรักเอ๋ยจะลอยแรมไกล อีกเมื่อไรรักจะคืนรื่นรมย์ ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว รวงข้าวคอยเคียว น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย ตะแบกบานแล้วร่วง สีม่วง ที่พี่ชื่นชม หรีดหริ่งระงม พี่ปล่อยน้องให้ตรมคนเดียว รวงเอ๋ยรวงทอง ต้องร้าง คนเกี่ยว รวงข้าวคอยเคียว น้องนี้คอยเหลียวคอยนับวันรอพี่มา กลับเถิดหนาสาวบ้านนายังคอย...
15 มีนาคม 2551 09:14 น. - comment id 832036
ดอกจานบานแล้วทั่วท้องนา ต้นเดือนกุมภา มีนา เมษายน คึดฮอดขวัญใจคนจน ที่เคยปีนต้นดอกจานหวานใจ ดอกจานบานเมื่อปีกลาย พี่ยังจำได้ใต้ต้นกระโดน สัญญาฮักอยู่ข้างกองโพน น้ำตาจะหล่นคิดถึงคนรักเดิม ไปไสน้อนวลน้องหล้า เจ้า บ่ มาสัญญาเพิ่มเติม ดอกจานบานกลางทุ่งเดิม ที่เราเคยเริ่มสบตาสัมพันธ์ รำพันไห้หัวใจคนเก่า ( ซ้ำ ) เลยมานั่งโศกเศร้าคอยเจ้าอยู่นา เหลียวขึ้นฟ้าขี้ฝ้าเหลี่ยนเวียนหมุน หัวใจเคยลงทุนมาหมุ่นมีไปได้ เฮ็ดจั่งใด๋หัวใจฮวยแห้ง ( ซ้ำ ) เห็นดอกจานสีแดงยามเช้ายามค่ำ คิดถึงคำวอยเว้าของเจ้าสู่ยาม เจ้าบอกย้ำว่าทั้งฮักทั้งหวง เก็บดอกจานเป็นพวงมาใส่มือของอ้าย มอบดอกไม้ให้หัวใจซึ้งกัน เก็บดอกจานมั่นในสัญญา จั๊กจั่นเรไรร้องมา ควายน้อยกลางนาจ้องเป็นพยาน คำหวานคือรักบริสุทธิ์ แล้วมาสะดุดหยุดลงตรงนั้น ปีนี้กลางทุ่งดอกจาน พี่มารำพันเดียวดายไร้แฟน เจ้าดอกจานเคยบานกลางทุ่ง ไปบานในกรุงเสียแล้วละน้อ กลายเป็นกุหลาบประดับใจผู้ใด๋น้อ ทิ้งคนมอซอรอข้างกลางนา ลำ เทียวมาถ่าสัญญาหม่องเก่า ยังคอยถ่าสัญญาหม่องเก่า เห็นผู้สาวเลาะบ้านไผนั้น บ่ สน หนี บ่ พ้นความเก่าความหลัง ย้อนความหวังกับนาง บ่ สร่างในใจอ้าย ปันใจไปให้ใครเขาครอง ปล่อยให้ทุ่งทองมาหมองเป็นทุ่งแล้ง ถึงยามดอกจานสีแดง ใจแสลงแกล้งทรมาน ลำ คอยวันหลายปีพ้นผ่าน ( ซ้ำ ) ดอกจานบานแล้วกะหล่น คือคนฮักแล้วกะฮ้าง ปานก้างป่อนใส่คอ แค้นจอรอแท้น้อเป็นทางผ่าน อดีตรักต้นจานสังหารอ้าย เอย.... เก็บเพลงดอกจานประหารใจมาฝากค่ะ อยากเขียนเกี่ยวกับดอกจานเหมือนกันค่ะ แต่เขียนไม่เคยได้สักทีค่ะ
15 มีนาคม 2551 09:42 น. - comment id 832045
งามดอกจานบานสะพรั่งอยู่กลางทุ่ง หอมฟางฟุ้งกินกำจายสายลมหวน นั่งคันนาเป่าขลุ่ยร่ายเพลงครวญ ด้วยใจล้วนเก็บแต่เหงาเคล้าน้ำตา ชื่นชมผลงานอันล่ำค่าชิ้นนี้ของคุณลำน้ำน่าน มากๆครับ ขออณุญาตเก็บไว้ในบทกลอนที่ ชอบนะครับ ยอดเยี่ยมจริง
15 มีนาคม 2551 12:14 น. - comment id 832102
งดงามงานกวี
16 มีนาคม 2551 18:00 น. - comment id 832345
สบายดีหรือสหายน้อยหายไปนาน นึกว่าจะ ไม่ได้อ่านงานงามเสียแล้วล่ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 มีนาคม 2551 18:15 น. - comment id 832353
แวะมารับดอกจาน(ไม่ให้)ร่วงค่ะ เดี๋ยวแตก
17 มีนาคม 2551 13:09 น. - comment id 832552
หายไปนานทีเดียวนะ ยังยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนเลย สวัสดีครับ
17 มีนาคม 2551 13:17 น. - comment id 832559
สวัสดีครับ มิตรทุกคน ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ สิ่งที่ไม่เคยเปลียนในบ้านหลังนี้ คือมิตรภาพ เข้ามาทีไรก็ยังอบอุ่นเหมือนเดิมครับ
19 มีนาคม 2551 14:36 น. - comment id 833032
งดงาม เหนือกาลเวลา ไพเราะดีมีความหมาย ชอบอ่านกลอนพี่นิวครับ อ่านแล้วสำบายใจแท้ๆ
19 มีนาคม 2551 14:41 น. - comment id 833041
ชอบเพลงนี้อะ "แนมเบิ่งดอกจานบานสีแดง แดง..."