ลาภยศสุขสรรเสริฐ เป็นเครื่องเพลินย้อมนิสัย บำรุงปรุงจิตใจ คล้ายกับดื่มสุราบาน ผู้ใดขาดสติ ชอบดำริประกอบการ ก่อกรรมของคนพาล เพราะยศลาภซาบซึ้งใจ ยอมตนให้เป็นทาส ไม่สามารถเป็น"ไท"ไซร้ ล้วนแล้วแต่มีภัย ความชั่วร้ายครอบงำตน ปัญญากำหนดรู้ ตริตรองดูตามเหตุผล ลาภยศมีทุกคน แต่ก็ทนอยู่ไม่นาน สรรเสริฐและความสุข นินทาทุกข์ย่อมเจือจาน สาระที่ทนทาน ในโลกธรรมไม่มีเลย เป็นธรรมชื่อไตรลักษ์ ย่อมประจักษ์ตามเฉลย บัณฑิตย่อมชมเชย ผู้มีจิตไม่หวั่นตาม บางคราวก็มีได้ แต่บางครั้งก็มีทราม เป็นธรรมนิยาม ตามสนองประคองไป วิจารณ์ตามความจริง อย่าประวิงมัวสงสัย ตามข้ออัตถนัย พุทธพจน์รจนา เมื่อได้อย่าหลงใหล เมื่อเสื่อมไปไม่โศกา เป็นธรรมะฐิตา ประจำโลกมาช้านาน ใครใครหลีกไม่พ้น ทุกทุกคนในสงสาร เข้าถึงพระนิพพาน จึงผ่านพ้นโลกธรรม....แล ฯ.
24 มกราคม 2551 12:46 น. - comment id 814860
เข้ามาอ่านธรรมะ เพื่อชำระ ล้างจิตใจ ให้สดใส ไม่กังวน และหม่นหมอง กิเลสตันหา ทั้งหลาย ที่คอยจ้อง เครื่องเศร้าหมอง ทั้งหลาย จงหายไป
24 มกราคม 2551 14:53 น. - comment id 814901
สวัสดีค่ะลุงแทน โลกธรรม๘ควรพิจารณาในสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา มีลาภ๑ ไม่มีลาภ๑ มียศ๑ ไม่มียศ๑ สรรเสริญ๑ นินทา๑ สุข๑ ทุกข์๑ นกยูงเข้าใจค่ะลุงแทนมันเป็นของไม่ เที่ยงค่ะ
24 มกราคม 2551 17:19 น. - comment id 814955
เก่งมากเลยนกยูง แบบนี้ความทุกข์เข้าหานกยูงได้ยากมากเลย
24 มกราคม 2551 17:23 น. - comment id 814959
ขอบคุณมาก ก่องกิก ที่เข้ามาอ่านกลอนของลุงแทน ที่อาจไม่ไพเราะสักเท่าไร ขอบคุณอีกครั้ง
25 มกราคม 2551 16:19 น. - comment id 815347
ใครว่าไม่ไพเราะคะ อ่านแล้วรู้ซึ้งถึงแก่นธรรมเลยค่ะ