ความทุกข์ ราวแสงแดดยามแผดกล้า แจ่มเจิดจ้าทิวาวันสร้างสรรค์สี เคี่ยวกรำใจให้เรียนรู้สู่ความดี ยากหลีกหนีหลบพ้นจนสนธยา ความสุข ราวแดดอุ่นยามอรุณรุ่ง หอมจรุงฟุ้งเฟ้อละเมอหา กำลังชื่นพลันลับหายกับสายตา รอเวลาอุษาคืนหวังชื่นชม ความว่าง ราวค่ำคืนยามดื่นดึก ดูล้ำลึกกว้างไกลยากไถถม ยังจิตคร้านเฉื่อยชาน่าภิรมย์ สุขทุกข์จมห่างหายมลายเลือน ความรัก ราวสายลมพรมถ้วนทั่ว อยู่รอบตัวทุกที่มีกลาดเกลื่อน ยิ่งค้นหายิ่งห่างไกลให้รางเลือน รู้สึกเหมือนไม่มีทั้งที่เต็ม............
26 สิงหาคม 2550 15:19 น. - comment id 744390
ไม่ว่าจะเป็น ความสุข หรือ ความทุกข์ ถ้าเรารู้จักควบคุมจิตใจตนไม่ให้ล้นได้ ก็คงจะเกิดความว่างขึ้นในใจ...ไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง...แต่มันก็ทำยากเหมือนกันนะ
26 สิงหาคม 2550 15:55 น. - comment id 744411
ขอบคุณครับกับความคิดเห็น....... เรื่องของจิตใจเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ยากเข้าใจ เสมือนเส้นผมบังภูเขาฉะนั้น..เราถูกฝึกฝนให้มองโลกนี้จนเคยชิน...สิ่งที่อยู่ใกล้เราที่สุดจึงถูกละเลยมาแสนนาน....ถ้าเราคอยเฝ้าระวังติดตามอยู่เสมอ รู้ที่มาที่ไป เชื่อว่าไม่ไกลเกินสามารถของมนุษย์ที่จะเข้าใจได้....
26 สิงหาคม 2550 19:50 น. - comment id 744508
เป็นกลอนที่เตือนสติดีค่ะ ชื่นชมผลงานนะคะ
26 สิงหาคม 2550 20:06 น. - comment id 744531
ชอบบทนี้ค่ะ ยิ่งค้นหายิ่งห่างไกลให้รางเลือน รู้สึกเหมือนไม่มีทั้งที่เต็ม............ ยิ่งตามยิ่งหนี... ทั้งที่มียังไขว้คว้าหาอีก..
26 สิงหาคม 2550 21:58 น. - comment id 744587
ดีค่ะ จริงชอบทุกบทเลยค่ะเพราะมันสื่อความหมายได้ดีเกือบทุกบทเลย กลอนเพราะดีค่ะ ม่เป็นกำลังใจให้ค่ะ ต้องสู้ต่อไป ๆๆ อิอิ
27 สิงหาคม 2550 02:01 น. - comment id 744711
ชอบมากครับ กลอนเพราะมากๆ เตือนสติได้ดีครับ
13 กันยายน 2550 15:16 น. - comment id 753392
ฉันรักเธอเหมือนรักหญ้าต้นน้อย กำลังคอยเติบใหญ่ไร้เดียงสา ล้อเล่นลมชายทุ่งจรุงตา ส่ายไปมาเริงร่าชวนน่ามอง ฉันรักเธอเหมือนรักดอกไม้สวย กลิ่นระรวยโสภาคราแสงส่อง แต่งแต้มสีโลกาให้น่ามอง ท่วงทำนองลีลาสง่างาม ฉันรักเธอเหมือนรักภูเขาเขียว ดูโดดเดี่ยวแต่มั่นคงน่าเกรงขาม ยืนหยัดสู้ฝนฟ้าหาครั่นคร้าม เป็นนิยามความกล้าน่าชื่นใจ ฉันรักเธอเหมือนรักตัวฉันเอง ยามบทเพลงแห่งรักยังขานไข ครั้นโมงยามความรักจักเหือดไป จะมีใคร...หลั่งน้ำตาร่ำลากัน............