อันอารมณ์สิ่งใดยึดไว้มั่น ทุกข์ผูกพันร้อนใจดั่งไฟเผา ให้เลอะเลือนลืมตัวหลงมัวเมา ไม่ทันเท่าถึงเหตุกิเลสคน ตัณหา คืออยากได้ไม่ยั้งคิด โลภยึดติดใจกลับร้อนสับสน เพียงเพื่อตอบสนองตัวของตน มีมากล้นก็ยังหวังได้มา ทิฏฐิ คืองมงายในความเชื่อ ความคิดเหนือความจริงสิ่งกังขา ปิดตัวตัดโอกาสขาดปัญญา โกรธเพียงว่าประเด็นเห็นต่างกัน มานะ คือความถือตัวคือใหญ่ โอ่อวดใครเกินหน้าช่างน่าขัน หลงติดตัวตนนำคนสำคัญ ท้าประชันลองเล่นดูเด่นดัง รวมหลักธรรมสามข้อพอสังเกต คือกิเลส เกาะกินใจสิ้นหวัง โลภโกรธหลงพาให้เศร้าใจจัง จะเดินนั่งนอนลุกทุกข์ไม่คลาย ใครคนหลงคงตามกอดความว่าง รีบปล่อยวางลดละก่อนจะสาย ถือก็หนักปล่อยก็เบาสบาย สุขใจกายเข้าถึงซึ้งหลักธรรม ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๐
10 กรกฎาคม 2550 16:19 น. - comment id 722367
..อันกิเลสเภทภัยยึดไว้มั่น ไม่ช้าพลันมันจะพาหล้าฉิบหาย... สาธุ..พระคุณเจ้า
10 กรกฎาคม 2550 19:37 น. - comment id 722495
โอ้กิเลส ตัณหา อีกราคะ ทั้งโทสะ โมหะ ถ้าละได้ อาจจะเห็น ทางนิพพานได้เร็วไว จำใส่ใจ สมถะ ละ อยากมี.. .............................................. สาธุค่ะ... มีแค่นี้ จงยินดีที่มีอยู่ นักปราชญ์รู้ บำเพ็ญเพียร อย่าเหลวใหล คนเรานั้น ควรรู้จัก ชำระใจ พึงละไว้ ที่จะทำ ซึ่งความเลว ...........................................
10 กรกฎาคม 2550 21:44 น. - comment id 722540
10 กรกฎาคม 2550 23:23 น. - comment id 722615