เขียนเสือไว้ให้วัวจักกลัวขลาด เหลือกระดาษขาดวิ่นสิ้นแก่นสาร ศาสนาน่าอนาถขาดวิญญาณ คนประจานหวานปากฝากจำนรรจ์ บัญญัติไว้หรือไม่ไยแตกต่าง เมื่อธรรมร้างห่างใจไกลเกินฝัน ซากภาษาหาใช่หลักจักยึดมั่น ปราชญ์ประชันมันคารมถ่มวาจา ท่านชี้จันทร์ไม่หันมองฤามองเห็น หลับเช้าเย็นเป็นอยู่มิรู้หา จับเพียงเปลือกไม่เลือกแก่นแว่นสัจจา มิเบิกตาหรือจะแจ้งแดนแห่งธรรม เขาชี้ทางวางไว้หวังใจสงบ ใช่รุกรบสยบกันจ้องหยันหยาม มิแก้ไขใจตนฝึกฝนตาม มัวไถ่ถามตามหาศาสนาไย ?
3 พฤษภาคม 2550 09:34 น. - comment id 690839
ยอดเยี่ยมครับ....
3 พฤษภาคม 2550 15:42 น. - comment id 691007
เขียนได้ดีค่ะ..แวะมาชมค่ะ..
3 พฤษภาคม 2550 17:29 น. - comment id 691086
อืม....นับถือในใจดีกว่า ...บางครั้งคนเราเอาศาสนามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตตัวเองมากไปจนเดี๋ยวนี้คนกับพระแทบจะอยู่บ้านเดียวกันแล้ว
11 กันยายน 2550 16:16 น. - comment id 752455
แท้จริงหามีศาสนาที่ไหนไม่....พระเยซูรู้แจ้งก่อเกิดศาสนาคริตซ์..พระพุทธเจ้าตรัสรู้จึงเกิดศาสนาพุทธ...ฯลฯ....แท้จริงเริ่มต้นจากจิตหนึ่งนี้เท่านั้น.....ถ้าไม่รู้แจ้งจิตใจตัวเองนี้...แม้มีศาสนาไป...ก็หามีประโยช์อะไรไม่...
24 กรกฎาคม 2551 17:30 น. - comment id 878102