ปรง

นกตะวัน

เมื่อผ่านพ้นสำนักงานเขตฯมาได้ไม่นานนัก สองข้างทางที่เป็นป่าดิบแล้งค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นป่าทุ่งที่โล่งร้อนและแห้งแล้งแบบทุ่งหญ้าสะวันนา (savanna) ในทวีปแอฟริกา เพราะมีต้นหญ้าสูงๆและวัชพืชอื่นๆขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มทุ่งและมีไม้พุ่มเตี้ยๆขึ้นแทรกอยู่เป็นหย่อมๆ แต่ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรมีพันธุ์ไม้จำพวก ปรง (Cycad) ขึ้นอยู่มากเป็นพิเศษ แลเห็นกระจัดกระจายแทรกอยู่ตามทุ่งหญ้าตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง ทำให้ป่าทุ่งแห่งนี้ดูแปลกตาผิดจากที่อื่น 
กลางทุ่งหญ้าพฤกษาหย่อมแวดล้อมป่า		
เห็นรุกขาค่อนแปลกแทรกทุกหน
ใบเป็นทางอย่างพร้าวยาวพิกล			
แต่ลำต้นค่อนเตี้ยบ้างเรี่ยดิน
ขึ้นสูงเด่นเป็นสง่าท้าแดดเผา			
ไหม้เกรียมเอายังอึดยึดแน่นหิน
ทนไฟป่าฝ่าแล้งแห้งน้ำริน				
พืชเจ้าถิ่นทุ่งใหญ่ใคร่ชวนดู
ถึงไร้ดอกออกเมล็ดดึงเด็ดยาก			
เบียดแน่นมากมีขนคลุมล้นหรู
หล่นแพร่พันธุ์ทันใดใบงอกชู			
ชีพยังอยู่ยืนยงไม่ปลงวาย
เขาเรียกปรงตรงตั้งขึ้นบังแดด		
แสงส่องแผดเผาผลาญรุกรานหลาย
ต้นยังอยู่คู่ดินมิสิ้นตาย			
แม้ใบหายเหี่ยวเฉาเน่าถมดิน 			
ปรง (Cycad) เป็นพันธุ์ไม้ในวงศ์ Cycadaceae เป็นพืชไม่มีดอก แต่มีเมล็ดที่อัดเบียดแน่นอยู่ในผลที่เรียกว่า โคน (cone) เช่นเดียวกับสนสองใบและสนสามใบในวงศ์ Pinaceae แต่ลำต้นกลับตั้งตรงหรือโค้งแบบต้นมะพร้าว ทั้งยังมีใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวเช่นเดียวกับมะพร้าวอีกด้วย จัดเป็นพืชโบราณที่กำเนิดขึ้นมาบนโลกเคียงคู่กับไดโนเสาร์ (Dinosaur) แต่ยังคงมีชีวิตอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ มิได้สูญพันธุ์ไปจากโลกพร้อมกับไดโนเสาร์
ต้อนรับปีใหม่ ทุ่งใหญ่นเรศวร 41
2 มกราคม 2548