เขาร่ม
นกตะวัน
แม้ว่ายืนอยู่บนผาเดียวดาย แต่ไม่รู้สึกเดียวดายดั่งชื่อผา เพราะมีปริญญ์ และนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวคู่หนึ่งมายืนชมทิวทัศน์อยู่ใกล้ๆด้วย ผมมองออกไปนอกผาอันเวิ้งว้าง แต่ไม่กล้ามองต่ำลงไป แลเห็นภูเขาเป็นทิวยาวขนานไปกับเขาเขียวที่ผมขึ้นมาเหยียบหน้าผา และอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก จนเรียกได้ว่าเป็นเขาคู่แฝดกัน ภูเขาลูกนี้คือ เขาร่ม ซึ่งเราผ่านเชิงเขามาแล้ว เมื่อแล่นรถมาถึงกิโลเมตรที่ 8 ก่อนเลี้ยวขวาขึ้นมาเขาเขียว
โอ้เขาร่มชมแล้วไม่แคล้วคิด
ตั้งชื่อผิดแผกไปใช่ไหมหนอ
มองอย่างไรไม่เห็นเป็นร่มพอ
น่าตัดพ้อต่อว่าภูผาจริง
หรือให้ร่มข่มแดดเผาแผดหน้า
ร่มนักหนาในเขาหากเข้าสิง
ไม้คงแน่นแฟ้นมากยากมุดจริง
แดดลงสิงส่องยากไม้มากบัง
คงเป็นร่มข่มภัยให้เหล่าสัตว์
สารพัดสิงสู่อยู่สมหวัง
คอยปกปักพิทักษ์ไพรให้จีรัง
ทั้งช่วยยั้งหยุดฆ่าล่าสัตว์เชียว
หากวันหน้าถ้ามาหาชมวิว
ขับรถลิ่วแล่นเข้าขึ้นเขาเขียว
แล้วจอดลงตรงนี้ดีทีเดียว
เพื่อแวะเที่ยวมองเขาร่มน่าชมจัง
เขาร่มลูกนี้เป็นภูเขาที่มียอดสูงที่สุดบนเขาใหญ่ มีความสูง 1,351 เมตร ในขณะที่เขาเขียวซึ่งผมขึ้นมาชมทิวทัศน์นั้นมียอดสูงสุด 1,292 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 บนเขาใหญ่ สำหรับเขาที่มียอดสูงเป็นอันดับ 2 บนเขาใหญ่คือ เขาแหลม ซึ่งสูง 1,326 เมตร ผู้ที่เดินทางขึ้นไปพิชิตยอดเขาร่มมักเดินเท้าขึ้นไปจากกิโลเมตรที่ 8 ซึ่งอยู่ตรงเชิงเขาร่ม แต่ผู้พิชิตส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ เพราะยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปเที่ยวชม
ปลายฝน บนเขาใหญ่ 21
12 กันยายน 2547