เดินมาได้สักครู่หัวหน้าพาเราเลี้ยวขวาตัดผ่านดงหญ้าเพ็กที่หนาแน่นมากไปตามทางเดินที่มองแทบไม่เห็น เราต้องเดินเรียงแถวไปตามทางเดินแคบๆที่หญ้าเพ็กสองข้างขึ้นมาชนกัน หนทางขรุขระเต็มไปด้วยก้อนหินใหญ่น้อย มีหลุมบ้างในบางช่วง และค่อยๆสูงชันขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรากำลังเดินไปตามไหล่ เขาหินเพลิง ซึ่งมองขึ้นไปทางไหล่เขาตอนบนแลเห็นแต่ป่าเต็งรัง แต่มองลงไปในหุบเบื้องล่างแลเห็นป่าดิบแล้งสองฝั่งลำห้วยที่แน่นทึบจนมองไม่เห็นลำห้วย สองข้างทางกลางป่าน่าหวาดเสียว หากลดเลี้ยวเดินไถลไปไกลกว่า หญ้าปึกแผ่นแน่นมากยากลุยท้า อุปมาเหมือนคลื่นลื่นกระเซ็น เห็นสันเขาเฝ้าดูอยู่ไกลห่าง ภูเขากว้างเกินตามองฝ่าเห็น เขาหินเพลิงเริงร้อนซุกซ่อนเย็น ยามเดินเล่นลมพัดสัมผัสกาย เหล่าเต็งรังตั้งล้นจนถึงสัน ขึ้นบ่ยั่นสูงใหญ่ใต้แดดฉาย แสงสีเหลืองเรืองรองต้องใบคาย แลเห็นคล้ายใครวาดสาดสีทอง ถึงคราวแล้งแห้งจัดสารพัดร้อน ป่าล่อนจ้อนเจอต้นไม้ไร้ใบสนอง พื้นป่าเลี่ยนเตียนโล่งโปร่งตามอง แดดซ้ำส่องสุมใส่เหมือนไฟลน ในขณะที่ผมเดินอยู่เป็นคนที่สี่ตามหัวหน้าไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกเสียวอยู่เหมือนกัน กลัวว่าจะเจองูเข้าโดยบังเอิญ แต่ถึงอย่างไรผมยังเชื่อว่า เสียงฝีเท้าของพวกเราทั้ง 9 คน คงดังมากพอที่จะทำให้งูหรือสัตว์อื่นใดในบริเวณใกล้ๆตกใจเคลื่อนหนีไปโดยสัญชาติญาณของมัน ผมจึงเห็นแต่หอยทากเดินอยู่ตามทางเดินบ้าง ไม่พบผีเสื้อเลยในช่วงนี้ ส่วนนกนั้น เราได้เห็นนกขี้เถ้าใหญ่ (Large Cuckoo-shrike) และนกกระจิบหญ้าสีข้างแดง (Rufescent Prinia) สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช 8 17 กรกฎาคม 2547
30 กรกฎาคม 2547 10:04 น. - comment id 302700
ดีมากครับ บทความที่ร้อยเรียงสามารถกลบ เลี่ยงความน่าเบื่อ ด้วยภาษาแห่งวรรณกรรม อยากได้บทความประเภทนี้มากๆเพื่อเป็นสื่อ โยงให้ยุวชนสนใจธรรมชาติมากกว่าปัจจุปัน ๚ะ๛size>
30 กรกฎาคม 2547 11:20 น. - comment id 302770
มาอ่านเป็นกำลังใจให้นะครับ