เมื่อนั่งรถมาจนสุดถนน แทนที่จะได้เห็นปากแม่น้ำปราณบุรีเหมือนดังที่มีป้ายชี้บอกทางมา ปากน้ำปราณ แต่ถนนกลับมาสิ้นสุดลงที่ชายทะเล ผมมั่นใจว่าปากแม่น้ำปราณบุรีคงอยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือ และคำว่า ปากน้ำปราณ ที่มีป้ายชี้บอกทางมา น่าจะหมายถึงบริเวณที่อยู่โดยรอบปากแม่น้ำปราณบุรีมากกว่า ในไม่ช้านายโต้งขับรถย้อนกลับ แล้วเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย จนกระทั่งมาถึงชายทะเลอีกครั้ง แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปยังร้านอาหารที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ปากน้ำปราณผ่านมาเกินกว่าเที่ยง หาที่เลี่ยงหลบแสงแดดแรงส่อง ใต้ชายคาหน้าร้านนกร่านร้อง ยินทำนองน่าฟังนั่งเรื่อยมา เย็นสายลมพรมพัดขจัดเหนื่อย พักหายเมื่อยมีแรงเข้มแข็งหนา อิ่มอาหารจานเด็ดเสร็จยกมา คือคุณค่าของชีวิตใคร่คิดเจอ คลื่นทะเลเร่มาเข้าหาฝั่ง เกลียวน้ำคลั่งซัดโครมโถมเสมอ ยิ่งฟังไปใจฉันพลันละเมอ คล้ายเสียงเธอครวญคร่ำพร่ำได้ยิน ทะเลเขียวเหลียวไปไกลสุดแสน แต่แร้นแค้นเหล่านกโผผกผิน ท้องฟ้ากว้างร้างชีวิตลิขิตบิน ช่างเหงาสิ้นปากน้ำปราณเมื่อผ่านเยือน หลังอาหารทะเลมื้อกลางวันในเวลาบ่ายคล้อยมากแล้ว เนื่องจากยังมีเวลาเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะพลบค่ำ เจ้าชุงซึ่งเปลี่ยนมาเป็นโชเฟอร์แทนนายโต้งขับรถออกจากปากน้ำปราณทันที เพราะเราตั้งใจจะแวะดูนกที่แหลมผักเบี้ย หรือที่ใดที่หนึ่งระหว่างทาง แต่เนื่องจากอิ่มกันมากไปหน่อย และเหน็ดเหนื่อยกันไปนิด เจ้าชุงจึงขับรถเลยไปเสียฉิบ เราจึงเปลี่ยนใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทั้งที่ยังไม่ใกล้พลบค่ำแม้แต่น้อย เยี่ยมสามร้อยยอด 15 7 กรกฎาคม 2547
23 กรกฎาคม 2547 07:07 น. - comment id 301706
เรน..อรุณสวัสดิ์ ..นกตะวันนะคะ..
23 กรกฎาคม 2547 23:12 น. - comment id 301878
บรรยากาศงามตาเวลาเที่ยง จึงไม่เลี่ยงหลบไปที่ไหนอื่น นั่งหาร้านของหวานเพื่อใจชื่น ได้ลิ้มรสอาหารลื่นช่างสุขใจ *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ สวัสดีนะค่ะคุณนกตะวัน ช่วงนี้บ้านกลอนเข้ายากนะค่ะ เลยเพิ่งแวะมาเป็นกำลังใจ คงไม่ว่ากันนะค่ะ อิอิ*-*